เตือนผู้ปกครองยุคอาหารสำเร็จรูป อุ่นร้อน ช้อนกลาง เลี่ยงท้องร่วงเฉียบพลันในเด็ก
advertisement
อธิบดีกรมการแพทย์เตือนช่วงนี้อากาศร้อนระวังโรคอุจจาระร่วง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แนะผู้ปกครองดูแลคนในครอบครัว ใส่ใจอาหารที่รับประทาน เน้นปรุงสุกใหม่ หรือหากเป็นอาหารสำเร็จรูปควรอุ่นให้ร้อนก่อนรับประทานทุกครั้ง
advertisement
นายแพทย์ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน จะพบผู้ป่วย “โรคอุจจาระร่วง” ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในเด็ก เนื่องจากปัจจุบัน ภาวะเร่งรีบในการดำเนินชีวิตของผู้ปกครอง ทำให้มีเวลาใส่ใจเรื่องอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อน้อยลง มีการเลือกซื้อกับข้าวปรุงสำเร็จมากขึ้น ซึ่งบางครั้งอาหารที่เลือกซื้ออาจไม่ถูกสุขลักษณะ เป็นอาหารค้างคืนหรือปรุงสำเร็จมาเป็นระยะเวลานาน[ads]
advertisement
เมื่อเจอกับอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ ส่งผลให้อาหารมีโอกาส บูด เสียได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะอุจจาระร่วงเฉียบพลัน โดยเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการมีหลายชนิด แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือ การติดเชื้อไวรัสโรต้า ซึ่งเป็นสาเหตุของอุจจาระร่วงเฉียบพลันในเด็กสูงถึง 50 % ของท้องเสียในเด็กทั้งหมด ซึ่งอาการถ่ายเป็นน้ำ และถ่ายเป็นมูกปนเลือด ซึ่งการถ่ายเป็นน้ำ เกิดจากตัวเชื้อโรคและ/หรือจากตัวสารพิษของเชื้อโรค ทำให้สมดุลการดูดซึมเกลือแร่และน้ำเปลี่ยนไป เช่น เชื้อไวรัส เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปทำลายการทำงานของผนังลำไส้เล็ก ทำให้การดูดซึมอาหารบกพร่อง สำหรับถ่ายเป็นมูกปนเลือด เกิดจากเชื้อโรคทำลายผนังลำไส้ โดยเมื่อเชื้อผ่านลำไส้เล็กจะยับยั้งการดูดซึมน้ำและเกลือแร่
advertisement
และเมื่อเชื้อเข้าสู่ลำไส้ใหญ่จะทำให้เกิดการอักเสบบริเวณผนังลำไส้ ทำให้มีอาการถ่ายเป็นมูกปนเลือด อาการปวดเบ่ง เป็นต้น ทั้งนี้ การดูแลเด็กในเบื้องต้น ควรให้ดื่มผงเกลือแร่ เพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่เสียไป รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม เพราะการติดเชื้อในลำไส้มักทำให้เกิดภาวะการดูดซึมผิดปกติ ที่สำคัญหากพบว่าเด็กท้องเสียนานเกิน 3 วัน ปวดท้องมาก ไข้สูงกว่า 38.5 องศาเซลเซียส มีเลือดในอุจจาระหรืออุจจาระดำเหมือนถ่านและอาเจียนมาก ไม่สามารถรับประทานน้ำเกลือแร่ทดแทนได้ ให้ผู้ปกครองรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว
advertisement
อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการอุจจาระร่วงนั้น ส่วนใหญ่เป็นไวรัสที่เข้าสู่ปากโดยตรง มักเกิดกับเด็กที่กำลังหยิบจับสิ่งของเข้าปาก ซึ่งสิ่งของเหล่านั้นอาจไม่สะอาดหรือมีเชื้อไวรัสปะปนอยู่ ผู้ปกครองจึงควรดูแลความสะอาดสิ่งของต่างๆที่ลูกหยิบได้หรือของเล่นที่ลูกชอบนอกจากนี้การดูแลสุขลักษณะในการรับประทานของคนในครอบครัวถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหากผู้ปกครอง มีเวลาควรประกอบอาหารรับประทานเอง[ads]
เพื่อจะได้มั่นใจถึงความสะอาด สด ใหม่ แต่หากไม่มีเวลา ควรเลือกซื้อจากร้านอาหารที่ถูกสุขลักษณะ สะอาด หากต้องเก็บอาหาร ควรนำเข้าตู้เย็นและนำมาอุ่นให้ร้อนก่อนรับประทานและใช้ช้อนกลางทุกครั้ง ผู้ปกครองควรล้างมือให้สะอาดก่อนปรุงอาหาร สอนให้เด็กล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องน้ำ เพื่อเป็นการป้องกันโรคดังกล่าวในเบื้องต้นได้
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข