5 ของใช้ส่วนพระองค์ ที่ดูแล้วรู้ว่า..ท่านไม่ได้แค่ตรัสให้เราฟัง แต่ทรงทำ..ให้พวกเราเห็น!!
advertisement
เศรษฐกิจพอเพียง คือ หลักปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงชี้แนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่ปวงชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลานาน เพื่อมุ่งให้พสกนิกรได้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างยั่งยืน มั่นคง และปลอดภัย ภายใต้ความเปลี่ยนแปลง ซึ่งพระองค์ท่านไม่ได้เพียงแค่ตรัส แต่พระองค์ทรงทำให้เราเห็น ซึ่งวันนี้ ไข่เจียว ขอน้อมนำ 5 ของใช้ส่วนพระองค์ ที่ทรงใช้จริง ไม่ใช่แค่ตรัสให้เราฟัง โดยทางเพจ THE PRESENT ได้นำเสนอเอาไว้ว่า…
ในฐานะ ‘พระราชา’
จะใช้ชีวิตหรูหรามากแค่ไหนก็ได้
แต่นี่ไม่ใช่ สิ่งที่ “ในหลวง รัชกาลที่ 9”
ทรงยึดถือปฏิบัติ
พระองค์ คือ ต้นแบบของความพอเพียง
“ไม่ต้องแพง”
“ไม่ต้องหรูหรา”
“แค่ใช้ประโยชน์ได้ … ก็พอแล้ว”
การกระทำสำคัญกว่าคำพูดใดๆ …
“ในหลวง รัชกาลที่ 9”
ไม่ได้แค่ตรัสสอนให้พวกเราฟัง
แต่ทรงทำ .. ให้พวกเราเห็น
ว่า “การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง” ของพระองค์นั้น ทำได้จริง และ เป็นการใช้ชีวิตที่มีความสุขได้เช่นกัน
#พระราชาผู้พอเพียง
#kingbhumibol
#Thailandinmourning
#ฉันเกิดในรัชกาลที่9
#ในหลวงในดวงใจตลอดกาล
advertisement
รถพระที่นั่ง ‘เจมส์ บอนด์’
“รถธรรมดา … ของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่” [ads]
แม้จะเรียบง่ายแต่ก็เป็นรถพระที่นั่งที่พระองค์ท่านทรงโปรด รถพระที่นั่งคันนี้ มีนามว่า ‘เจมส์ บอนด์’ เป็นรถรุ่น Volkswagen Caravelle T4 สีเทา หมายเลขทะเบียน 1ด-0929 ด้านในรถมีความเรียบง่าย แทบไม่มีอะไรเลย นอกจากเครื่องวิทยุเดิม ๆ ที่ติดมากับรถ กับ โต๊ะขนาดเล็กไว้ทรงงาน มาพร้อมกับนายช่างประจำตัวที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการซ่อมบำรุงรถรุ่นนี้ เพื่อรับหน้าที่ในการดูแลและซ่อมแซมรถ
ซึ่งรถพระที่นั่งคันนี้ ถูกใช้เป็น ‘รถอัญเชิญพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ 9’ พระราชาผู้ยิ่งใหญ่ในหัวใจคนไทยทั้งแผ่นดิน
“รถเคลื่อนพระบรมศพ ไม่มีการตกแต่ง ไม่มีแม้แต่ธงประดับ รถที่แสนธรรมดา แต่ข้างใน คือ พระราชาผู้ยิ่งใหญ่และเป็นที่รักยิ่งของคนไทย”
advertisement
“นาฬิการาคาถูก ก็เดินเหมือนนาฬิการาคาแพง”
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เล่าถึงนาฬิกาของในหลวง รัชกาลที่ 9 ไว้ว่า
“เมื่อปี พ.ศ.2524 ครั้งหนึ่ง ผมพยายามจะแอบดูว่า พระองค์ท่านใส่นาฬิกายี่ห้ออะไร จนพระองค์ท่านรู้สึกได้ว่าผมพยายามอยากจะดูยี่ห้อ ท่านจึงยื่นข้อพระหัตถ์มาให้ดูตรงหน้า จึงทราบว่าพระองค์ ท่านใส่นาฬิการาคาเพียงเรือนละ 750 บาทเท่านั้น ซึ่งก็เดินเหมือนกันกับนาฬิกาเรือนแพง”
ส่วนนาฬิกาข้อพระกรในภาพ คือ นาฬิกา Seiko SKJ045P นาฬิกาดำน้ำระบบ Kinetic ตัวเรือนเป็น Titanium ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงสวมในงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี (ซึ่งจัดขึ้นในปี 2549)
แรกเริ่มเดิมทีขายในราคาเพียงหลักพัน หากแต่ได้เลิกผลิตไปเป็นระยะเวลาร่วม 10 ปีแล้ว เมื่อมีข่าวว่าเป็น นาฬิกาข้อพระกรที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงสวม ราคานาฬิการุ่นดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นไปเป็นร้อยเท่าตัว
advertisement
ฉลองพระบาท
“ไม่ต้องมีเยอะ เพราะเวลาเดินคนเราใส่รองเท้าได้คู่เดียว”
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เล่าถึง ฉลองพระบาทของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่หลายคนหากทราบถึงราคาคงจะตกใจ เพราะคู่ละ 300 – 400 บาทเท่านั้น อีกทั้งฉลองพระบาทของพระองค์ยังถูกนำส่งไปซ่อมแล้วซ่อมอีก ที่ร้านเล็กๆใกล้วัง ชื่อ ร้าน ก.เปรมศิลป์ (สี่แยกพิชัย)
นาย ศรไกร แน่นศรีนิล ช่างทำรองเท้า ได้เล่าว่า ฉลองพระบาทคู่โปรดของพระองค์ท่านนั้น เป็นรองเท้าหนังสีดำธรรมดา สภาพชำรุดทรุดโทรม เนื่องจากการใช้งานหลายสิบปี ภายในรองเท้าผุกร่อนหลุดล่อนหลายแห่ง ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไป ก็อาจจะทิ้งไปแล้ว แต่พระองค์ท่านให้นำมาซ่อมเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่สามารถซ่อมได้แล้วจึงเปลี่ยนใหม่ [ads]
ขณะที่ข้าราชบริพารใส่รองเท้าคู่ละ 3,000 – 4,000 บาท แต่เวลาพระองค์ทรงออกเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ห่างไกล ที่สุดแล้ว ข้าราชบริพารก็เดินตามพระองค์ไม่ทันอยู่ดี …
พระองค์ท่าน มักจะตรัสถึงสาเหตุที่ไม่จำเป็นต้องมีฉลองพระบาทมากมาย ว่า "เวลาเดิน คนเราใส่รองเท้าได้คู่เดียว”
advertisement
“บีบจนแบนราบ ใช้ด้ามแปรงรีดจนเรียบ”
ภาพหลอดยาสีพระทนต์ที่มีลักษณะแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษนี้ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอดยิ่งปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะพระองค์ท่านทรงใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีดและกดจนเป็นรอยบุ๋ม จนไม่หลงเหลือยาสีพระทนต์อยู่ในหลอด
ครั้งหนึ่งมหาดเล็กห้องสรง เห็นว่า ยาสีพระทนต์ของพระองค์คงใช้หมดแล้ว จึงได้นำหลอดใหม่มาเปลี่ยนให้แทน เมื่อพระองค์ทรงทราบ ก็ได้ขอให้นำยาสีพระทนต์หลอดเก่ามาคืน และพระองค์ท่านยังทรงสามารถใช้ต่อไปได้อีกถึง 5 วัน
คนไทยนอกจากจะเห็นพระองค์เป็นพระราชาที่ทรงใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุดแล้ว พระองค์ก็ยังเป็นต้นแบบของการใช้ชีวิตอีกด้วย
ขอขอบคุณที่มาจาก : THE PRESENT