แนวทางการรักษา ‘โรคนิ่วในท่อไต’ ระวัง..หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้มีโรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้!!
advertisement
นิ่วในท่อไต (Ureteric stone หรือ Ureteric calculi) เป็นโรคพบได้บ่อยโรคหนึ่ง พบได้ประมาณ 10% ของประชากรทั่วโลก โดยเกิดจากมีก้อนนิ่วเล็กๆหลุดจากก้อนนิ่วในไตหล่นเข้ามาอยู่ในท่อไตซึ่งเป็นอวัยวะอยู่ต่อจากไต
โดยทาง นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล ได้ออกมาโพสต์แชร์แนวทางการรักษา โรคนิ่วในท่อไต โดยระบุว่า..
โรคนิ่วในท่อไต
มีวิธีการรักษาอย่างไร?
เมื่อใดต้องผ่าตัด?
ผ่าตัดวิธีใดได้บ้าง?
ถ้าไม่เอาออกจะเกิดผลอย่างไร? [ads]
advertisement
ภาพจริงในผู้ป่วยรายนี้- ขนาดก้อนนิ่วในท่อไต โตมาก ผ่านการสลายนิ่วมาแล้วไม่ได้ผล จึงแนะนำผู้ป่วยผ่าตัดแบบเปิดทางหน้าท้อง
*****นิ่วในท่อไตส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร แต่อาจพบก้อนที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 เซนติเมตรได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนิ่วในท่อไตถ้ามีขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร จะมีโอกาสหลุดออกมาได้เองกับน้ำปัสสาวะประมาณ 87% ถ้าก้อนนิ่วมีขนาด 2-4 มิลลิเมตร, 5-7 มิลลิเมตร, 7-9 มิลลิเมตร และมีขนาดใหญ่กว่า 9 มิลลิเมตร ก็จะมีโอกาสหลุดออกมาได้เองกับน้ำปัสสาวะประมาณ 76%, 60%, 58% และ 25% ตามลำดับ ซึ่งนอกจากขนาดของก้อนนิ่วแล้ว โอกาสที่นิ่วจะหลุดออกมาเองได้ยังขึ้นอยู่กับตำแหน่งด้วย โดยก้อนนิ่วที่อยู่บริเวณส่วนปลายท่อไตจะหลุดออกมาได้ง่ายกว่าก้อนนิ่วที่อยู่บริเวณส่วนต้นหรือส่วนกลางของท่อไต
****วิธีรักษานิ่วในท่อไต*****
แนวทางการรักษาโรคนิ่วในท่อไตจะขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนนิ่ว
1.รับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่งจ่าย [ads2]
advertisement
2.แต่ถ้าพบว่าก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่อาจต้องรักษาด้วยการใช้เครื่องสลายนิ่วหรือผ่าตัดออก เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้มีโรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้
2.1Extracorporeal shock wave lithotripsy (ESWL) หรือ เครื่องสลายนิ่ว จะเป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งพลังผ่านผิวหนังไปสู่ก้อนนิ่วเพื่อให้ก้อนนิ่วแตกตัว เป็นวิธีที่สะดวก มีอัตราความสำเร็จสูง หายเร็ว ไม่ทำให้เกิดอันตรายหรือมีแผลเป็น ไม่ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล และเป็นการรักษาแต่ภายนอก แต่จะมีอาการแทรกซ้อนที่สำคัญคือ อาจเป็นรอยช้ำในบริเวณที่รักษา มีเลือดปนในปัสสาวะ รู้สึกปวด 2-3 วันหลังการรักษา
2.2Ureterorenoscopic stone removal (URS) เป็นการใช้กล้อง Ureteroscope ที่มีขนาดเล็กส่องผ่านทางกระเพาะปัสสาวะเข้าสู่ท่อไต และใช้เครื่องมือคล้องนิ่ว (Basket) หรือกรอนิ่วให้แตกโดยใช้ Laser หรือ Ballistic lithotripsy มักใช้กับนิ่วที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร
2.3ใช้วิธีส่องกล้องผ่านท่อแล้วใช้เครื่องเลเซอร์สลายนิ่วให้เล็กลง หลุดออกมา
2.4ก้อนโตมากใช้วิธีการผ่าตัดแบบเปิดทางหน้าท้อง [ads3]
***ภาวะแทรกซ้อนของนิ่วในท่อไต***
advertisement
ถ้าก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่และหลุดออกเองไม่ได้ นอกจากจะทำให้มีอาการปวดท้อง เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้ยังอาจทำให้มีการติดเชื้ออักเสบของทางเดินปัสสาวะ รวมทั้งไตอักเสบเรื้อรัง และอาจนำไปสู่ภาวะไตวายพิการได้ ดังนั้น นิ่วในท่อไตที่มีขนาดใหญ่ จำเป็นต้องรีบรักษาให้หายขาดก่อนที่จะเกิดอันตรายร้ายแรง
มีปัญหาโรคนิ่วปรึกษาได้ที่แผนกผู้ป่วยนอกทั่วไปและศัลยกรรม จะเลือกรักษาวิธีใดขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละราย
จากโพสต์
ฉะนั้นให้สังเกตตัวเอง หากปัสสาวะมีก้อนนิ่วปน หรือหากมีอาการปวดท้องข้างขวามาก หรือผู้ป่วยบางคนใช้คำว่าปวดหลัง มักร้าวลงมายังขาหนีบหรืออวัยวะเพศ และร่วมกับอาการคลื่นไส้ มีไข้สูง รวมทั้งอาจมีปัสสาวะน้อย และมักพบร่วมกับปัสสาวะเป็นเลือด ซึ่งอาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ตรวจได้จากการตรวจปัสสาวะทางห้องปฏิบัติการ ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน!!
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com ขอขอบคุณที่มาจาก : Arak Wongworachat