รู้หรือไม่!! ผู้ที่เก็บของหายได้ เเล้วส่งคืนเจ้าของสามารถเรียกงานได้ เเต่ถ้าไม่ส่งคืนเก็บไว้ครอบคง ติดคุกหัวโตได้เหมือนกัน
advertisement
กลายเป็นกระเเสข่ายที่เป็นเรื่องราวโด่งดังกันทั่วบ้านทั่วเมือง สำหรับกรณีศึกซังลอตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นหวย 30 ล้าน 12 ล้าน เเละล่าสุดยายประดับวัย 72 ชาวสุพรรณ ร้องกองปราบหลังทำล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 หล่นหายในงานที่วัด ก็เลยได้ให้โฆษกงานวัดประกาศเเต่ก็ไม่มีผู้พบ ก่อนมีผู้เก็บได้นำไปขึ้นเงิน 6 ล้าน ตอนนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้ที่นำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินมาพบเพื่อสอบปากคำเเต่ก็ยังไม่มาพบ
advertisement
หลายคนคงจะสงสัย ในการกรณีของการเก็บสิ่งของมีค่าได้ ทางด้านกฏหมายมีการกำหนดไว้ว่าอย่างไรเกี่ยวกับการเก็บของตกหายได้ จะรับประโยชน์อย่างไรเเละจะได้รับโทษอย่างไรถ้าไม่นำไปคืน โดยจะเเยกออกเป็น 2 กรณี คือกรณีทางเเพ่ง เเละทางอาญา จะเป็นอย่างไรนั้นตามไปดูกันเลยครับ
ในเรื่องการเก็บของตกหายสามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเด็นคือ การเก็บของตกหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และการเก็บของตกหายตามประมวลกฎหมายอาญา[ads]
advertisement
การปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เมื่อเก็บของตกหายได้ ต้องทำดังต่อไปนี้ คือ
1.ส่งมอบของนั้นแก่เจ้าของ หรือผู้ที่มีสิทธิจะได้รับของนั้น
2.แจ้งให้เจ้าของหรือผู้ที่มีสิทธิได้รับของนั้นโดยเร็ว
3.ส่งมอบของนั้นแก่เจ้าพนักงานตำรวจ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่น ภายใน 3 วัน
– สิทธิได้รับรางวัลจากเจ้าของของที่เก็บได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์สามารถเรียกเอารางวัลจากผู้ที่เป็นเจ้าของ เป็นจำนวนร้อยละ 10 ถ้าของมีค่าน้อยกว่า 30,000 บาท (30,000 บาท ได้ 3000บาท) เเต่ถ้าของมีค่ามากกว่า 30,000 บาท จะได้ร้อยละ 5 เท่านั้น จำนวนเงินที่เกินจาก 30,000.-บาท (เช่น ของตกหายมีค่า 50,000 บาท ผู้เก็บได้จะได้รางวัลจาก 30,000 แรก คือ 3,000 บาท 20,000 บาท หลังจะได้ 1,000 บาท รวมจะได้รางวัลทั้งสิ้น 4,000 บาท)[ads2]
– กรณีผู้ที่เก็บของตกหายได้ไม่ทำตามหน้าที่ที่กำหนดไว้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1323 ผู้นั้นไม่มีสิทธิรับรางวัลตามกฎหมาย เช่น เก็บได้แล้วไม่ส่งมอบของนั้นคืนเจ้าของ ไม่แจ้งเจ้าของ หรือส่งมอบแก่เจ้าพนักงานตำรวจ ย่อมไม่มีสิทธิได้รับรางวัล (อีกกรณีที่สำคัญคือ ถ้าไม่ใช่ของตกหายผู้เก็บได้ก็ย่อมไม่มีสิทธิได้รับรางวัลเช่นเดียวกันกล่าวคือเจ้าของไม่ได้ทำตก ไม่ได้ทำหาย แต่วางไว้แล้วยังไม่ได้มาเอาเพราะถูกกักตัวไว้เพื่อตรวจโรคก็ไม่สามารถรับรางวัลตามที่กฎหมายกำหนดได้ เว้นแต่จะให้รางวัลตามที่เจ้าของได้ให้มา)
advertisement
– สิทธิได้ของตกหายนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง ผู้ที่เก็บของตกหายได้ต้องทำตามหน้าที่ที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1323 (เป็นเจ้าของในของตกหาย) หากเจ้าของหรือผู้ที่มีสิทธิได้รับของนั้นไม่เรียกเอาของนั้นภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เก็บได้
2.การเก็บของตกหายตาม ตามประมวลกฎหมายอาญา คือ ต้องรับโทษทางอาญา
– ความผิดฐานลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 บัญญัติว่า ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000.-บาท
– การเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปนั้น รวมถึงทรัพย์ที่ผู้อื่นได้ครอบครองทรัพย์ไว้แทนเจ้าของตัวจริงก็ได้ ดังนั้นการเก็บของตกหายได้แล้วเอาไปโดยอยากได้เก็บไว้เป็นของตัวเอง ย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์และต้องรับโทษทางอาญาคือจำคุกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 ได้เพราะหากเจ้าของตกหายนั้นยังติดตามหาคืนของนั้นคืนได้อยู่ (เจ้าของทรัพย์อยู่ใกล้ทรัพย์ตกหายและกำลังติดตามหาของที่ตกหายนั้น เช่นเจ้าของกระเป๋าใส่เงินนั่งดูหนังแล้วทำกระเป๋าใส่เงินหล่นผู้เก็บได้นั่งอยู่ข้างๆจึงเก็บเอาไว้เป็นของตัวโดยไม่บอกเจ้าของ โดยต้องดูสภาพทรัพย์ เหตุการณ์ เวลา และพฤติการณ์ของเจ้าของทรัพย์ประกอบด้วย)[ads3]
– ความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 บัญญัติว่า ผู้ใดครอบครองทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000.-บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
advertisement
– การที่จะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์สินหายนั้น จะต้องมีการนำข้อเท็จจริงแต่ละกรณีที่เกิดขึ้นมาเพราะคำพิพากษาฎีกาแต่ละเรื่องยังต้องอาศัยข้อเท็จจริงเป็นรายกรณี เพราะความผิดฐานลักทรัพย์เป็นเรื่องที่เจ้าของกำลังติดตามหาแล้วผู้เก็บของหายได้รู้ว่ากำลังตามหาอยู่ แต่ยักยอกทรัพย์สินหายต้องเป็นเรื่องที่เจ้าของไม่รู้ว่าของหายที่ไหนและไม่ได้รู้ว่าจะติดตามของหายได้ที่ใด
อย่างไรก็ตาม!! เมื่อเก็บสิ่งของที่ไม่ใช่ของตัวเอง คนเราต้องมีจิตสำนึกว่าสิ่งนั้นไม่ใช่ของเรา คนที่ทำหายอาจจะกำลังเดือดร้อนอยู่ เราก็ควรที่จะตามหายเจ้าของหรือเเจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการหาเจ้าของสิ่งของนั้น
เรียบเรียงโดย : Kaijeaw.com