‘เล็บ’ ส่งสัญญาณบอกโรค
advertisement
สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ แนะหมั่นสังเกตและดูแลสุขภาพของเล็บสม่ำเสมอ เล็บสุขภาพดีควรมีสีชมพูจางๆ พื้นผิวเรียบ ผิวหนังรอบเล็บแข็งแรง หากต่างจากนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติของร่างกาย
advertisement
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เล็บที่มีสุขภาพดี คือ เล็บที่มีสีออกชมพูจางๆ จากสีผิวของเนื้อข้างใต้เล็บ มีพื้นผิวเรียบ ผิวหนังรอบเล็บมีความแข็งแรงและเล็บมีความหนาไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ถ้าเล็บมีความแตกต่างไปจากนี้ ถือว่าเป็นเล็บที่ไม่ปกติจะเป็นสัญญาณบอกโรคได้ คือ [ads]
1. เล็บที่มีความหนาหรือบางผิดปกติ
2. เล็บเปลี่ยนสี
3. ผิวหนังรอบเล็บบวมแดง
4. ปลายเล็บร่น
5.เล็บที่มีพื้นผิวขรุขระ
advertisement
จึงควรสังเกตความผิดปกตที่เกิดขึ้น โดยปรึกษาแพทย์ เพื่อรักษาโรคได้อย่างถูกต้องเหมาะสม สำหรับความผิดปกติมีรายละเอียด ดังนี้
1. เล็บที่มีความหนาหรือบางผิดปกติ มีหลายโรคที่ทำให้เล็บหนาขึ้น เช่น โรคเชื้อรา ที่นอกจากเล็บจะหนาขึ้นแล้ว อาจมีสีเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองหรือขาว ผิวเล็บและส่วนปลายเล็บอาจขรุขระ โรคสะเก็ดเงินมักจะมีอาการเล็บหนาหลายๆ เล็บ นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก เล็บจะมีลักษณะบางและแอ่นคล้ายช้อน
2. เล็บเปลี่ยนสี เล็บที่มีสีขาวครึ่งเล็บพบได้ในคนที่เป็นโรคไตวายเรื้อรัง เล็บที่มีสีขาว 2 ใน 3 ของเล็บพบได้ในคนเป็นโรคเบาหวาน โรคตับแข็งและโรคหัวใจวาย เล็บที่มีสีขาวเป็น แถบขวางอาจเป็นโรคโปรตีนในร่างกายต่ำ
3. ผิวหนังรอบเล็บบวมแดง คนที่สัมผัสกับน้ำบ่อยๆ ผิวหนังรอบเล็บอาจมีการเปื่อยยุ่ย หรือเกิดการระคายเคืองจากสารเคมี เช่น น้ำยาล้างจานและน้ำยาทำความสะอาด บางครั้งอาจเกิดการติดเชื้อราเนื่องจากไม่รักษาความสะอาด ผู้ป่วยบางรายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนัง รอบเล็บอาจบวมแดงและมีหนองร่วมด้วย [ads2]
4. ปลายเล็บร่น ปกติแล้วผิวหนังส่วนปลายจะติดกับเล็บ แต่หากมีโรคบางอย่าง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคไทรอยด์ โรคเชื้อราและโรคผื่นผิวหนังอักเสบ รวมถึงการใช้ยาบางชนิด อาจทำให้ขอบของผิวหนังที่ติดกับเล็บมีการร่นลง
5. เล็บที่มีพื้นผิวขรุขระ เป็นอาการที่พบได้บ่อย ผิวเล็บอาจเป็นหลุมเล็กๆ ถ้าเป็นหลายเล็บ อาจบ่งบอกถึงโรคสะเก็ดเงินหรือโรคภูมิแพ้ แต่อาจพบได้ในเด็กบางคนโดยที่ไม่มีสาเหตุ บางกรณีผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วยรุนแรง อาจพบเล็บเป็นร่องลึกตามแนวขวางจากการที่มีการสร้างเล็บผิดปกติ
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดูแลรักษาเล็บ ควรหลีกเลี่ยงการทาเล็บเป็นประจำ เพราะจะทำให้เล็บเปราะปลายเล็บเผยอ เล็บบุ๋มมีลูกคลื่น ควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดเล็บ โดยเมื่อตัดเล็บ ไม่แคะซอกเล็บมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เล็บฉีกขาด เกิดแผล ทำให้เชื้อโรคเข้า ควรสวมถุงมือขณะทำงานบ้าน หรือเมื่อต้องใช้สารเคมี [ads3]
advertisement
นอกจากนี้ หมั่นทาโลชั่นเพื่อถนอมผิวที่มือและเล็บเป็นประจำ จะช่วยให้เล็บแข็งแรง เงางาม เรียบเนียน มีสุขภาพ เล็บที่ดี
ขอขอบคุณที่มาจาก : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข