คนขับแท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา รายแรกของไทย หายป่วยแล้ว

advertisement
จากกรณีคนขับแท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาผู้ป่วยชายไทยรายแรกติดเชื้อภายในประเทศ เข้ารับการรักษาในสถาบันบำราศนราดูร ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว ควบคุมโรคแนะผู้ขับรถรับจ้างสาธารณะให้เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ
advertisement

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วันนี้ (5ก.พ.) ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่เป็นการติดเชื้อในประเทศรายแรก และเข้ารับการรักษาในสถาบันบำราศนราดูร ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว ถือว่าหายเป็นปกติ สามารถกลับบ้านได้ ส่วนญาติและผู้สัมผัสใกล้ชิดทุกคนมีการติดตามเฝ้าระวังอาการต่อเนื่องตามมาตรฐาน ทุกรายเป็นปกติ
"วันนี้ได้รับข่าวดีจากสถาบันบำราศนราดูร ว่าผู้ป่วยชายไทยที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศไทยรายแรก ซึ่งเข้ารับรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร มีอาการค่อนข้างรุนแรง อยู่ในห้องแยกโรคความดันลบ มีทีมแพทย์ให้การดูแลรักษาตามมาตรฐานอย่างใกล้ชิด ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นต่อเนื่อง ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการครั้งล่าสุดไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 แล้ว ถือว่าหายป่วยแพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้" นายอนุทิน กล่าว
สรุปสถานการณ์ของประเทศไทย ขณะนี้เหลือผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาลจำนวน 16 คน กลับบ้านแล้วจำนวน 9 คน รวมผู้ป่วยสะสม จำนวน 25 คน โดยผู้ป่วยที่ยังอยู่โรงพยาบาลได้รับรายงานว่ามีแนวโน้มอาการดีขึ้น รายที่อาการหนัก วันนี้อาการยังทรงตัวและอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด
advertisement

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้ยกระดับการดำเนินการเป็นระดับชาติ มีการขับเคลื่อนงานร่วมกันจากหลายกระทรวง หลายหน่วยงาน เพื่อให้มาตรการต่างๆ มีประสิทธิภาพ
ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่และมีประวัติเคยรับนักท่องเที่ยวชาวจีน เมื่อรู้สึกมีอาการป่วยได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือ หยุดขับรถรับผู้โดยสาร และสวมหน้ากากอนามัยมาพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติความเสี่ยง ทำให้เข้าสู่ระบบการเฝ้าระวังควบคุมโรคอย่างรวดเร็ว
ซึ่งจากการติดตามญาติและผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยตามมาตรฐานการเฝ้าระวังควบคุมโรค ทุกรายมีอาการเป็นปกติ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ ที่มีความตระหนัก ติดตามข้อมูลความรู้และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขได้อย่างถูกต้อง ทำให้ไม่เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ
ทั้งนี้ ขอแนะนำผู้ขับรถรับจ้างสาธารณะให้เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ เช่น ที่จับประตู เบาะนั่ง ที่เท้าแขน ด้วยน้ำผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาด หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามารถทำลายเชื้อไวรัสได้ สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะขับรถซึ่งสามารถใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าได้และให้ล้างมือบ่อยๆ
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com ขอขอบคุณที่มา : sanook