ยายสั่งแกร๊บ เผลอโอนเกินกว่า 3 หมื่น ไรเดอร์เอาไปใช้เกลี้ยง
advertisement
เป็นเรื่องราวที่สร้างความฮือฮาอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อทางเพจ อีซ้อขยี้ข่าว2 ได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวของคุณยายท่านหนึ่งที่สั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน แต่เผลอโอนเงินผิด 31,400 บาท สุดท้ายทราบว่าไรเดอร์นำเงินไปใช้จนหมด
advertisement
โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุรายละเอียดว่า "คุณยายสั่งอาหารผ่าน Grab ในราคา 314 บาทแต่เกิดผิดพลาดโอนเกินไปเป็น 31,400 บาท พอมาเช็กและรู้ตัวว่าได้โอนเงินผิด ก็รีบติดต่อทางศูนย์เพื่อช่วยประสานงานให้ ทางศูนย์จึงได้ติดต่อไปหาไรเดอร์ทันที
advertisement
แต่…เขากลับแจ้งว่า ก็ไม่รู้ว่าเป็นเงินของใครและได้ใช้จนหมดแล้วแต่ก็จะรีบหาคืนให้ยายภายในวันที่ 20 นี้ ล่าสุดถึงวันนัดคืนเงินทางคุณยายแจ้งว่ายังไม่ได้รับเงินคืนหรือการติดต่อจากไรเดอร์คนดังกล่าว โดยทางต้นสังกัดรวมถึงคนที่รู้จักไรเดอร์คนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้ "
advertisement
อาหารที่สั่งทั้งหมด 314 บาท
advertisement
"ตามความคิดผม ผมคิดว่า..เคสนี้บริษัทแกร็บต้องรับผิดชอบครับ เพราะว่าบริษัทถือว่าเป็นนายจ้างลูกค้าโอนเงินผิด ไรเดอร์ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทในขณะนั้นได้ทำการยักยอกทรัพย์โดยจะอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นเงินของใครแล้วจะนำไปใช้โดยอำเภอใจเสียมิได้เพราะเงินโอนเข้าก็มีหลักฐานชัดเจน เจตนายักยอกทรัพย์จึงเกิดขึ้นแล้ว ประหนึ่งว่าพนักงานธนาคารยักยอกเงินฝากของลูกค้าที่นำมาเข้าบัญชี แต่มีส่วนหนึ่งที่เกินจำนวนโดยทำการรับเงินเข้าตามที่ลูกค้าแจ้ง โดยไม่บอกกล่าวลูกค้าถึงเงินส่วนเกิน แต่ลูกค้าได้สืบทราบภายหลัง และได้แจ้งทวงถามทางธนาคารต้นสังกัดของพนักงานซึ่งขณะนั้นยังมีสถานะเป็นลูกจ้างอยู่ ถึงแม้ว่าในเวลาต่อมาจะสิ้นความเป็นพนักงานไปแล้ว ตัวนายจ้างจะปฏิเสธความรับผิดชอบเสียมิได้….." [ads]
advertisement
"เงินแค่นี้ แลกกับอนาคต จะคุ้มไหม ชีวิตยังต้องเดินอีกยาวไกลนะลูกเอย คิดให้ดีดี"
advertisement
"ซื่อกินไม่หมดคดกินได้ไม่นาน..น่าจะหมดอนาคตแล้วล่ะไรเดอร์คนนี้"
advertisement
"ทุกวันนี้จ่ายเงินสดอย่างเดียว กลัวตัวเองผิดพลาดแบบนี้เนี่ยแหละ"
"แนะนำยายแจ้งความเลยค่ะเคสนี้บริษัทควรร่วมรับผิดชอบด้วย"
advertisement
"สงสารยาย คนชั่วๆแบบนี้ต้องเอาให้หนัก มีงานทำดีๆไม่ชอบ ขอให้มันตกงาน ไม่มีใครรับมันทำงานอีก คนไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ตัวเอง สมควรโดนจับติดคุก"
ซึ่งจากโพสต์นี้ก็ได้มีชาวเน็ตหลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ชี้เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากตอนแรกที่เงินเข้าโดยไม่ทราบสาเหตุก็น่าจะแปลกใจ และถามหาที่มาก่อน ถ้าบริสุทธิ์ใจจริง
ขอขอบคุณที่มาจาก : อีซ้อขยี้ข่าว2