เทียบ ข้อดี-ข้อเสีย รถไฟรางแบบแขวน และรถไฟลอยฟ้า

advertisement
รถไฟ เป็นอีกหนึ่งระบบขนส่ง ที่มีทั้งรถไฟธรรมดา และรถไฟลอยฟ้า หรือที่เรียกว่ารถไฟฟ้า BTS และยังมีรถไฟใต้ดิน ที่จะแตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน โดยล่าสุดคุณ Ea Tanaiporn ได้ออกมาโพสต์สอบถามความแตกต่างระหว่าง รถรางแบบแขวน และ รถไฟลอยฟ้า มันต่างกันอย่างไร โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า "ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับ ว่า 2 แบบนี้ต่างกันยังไงครับ"
advertisement

แบบที่ 1 รถไฟรางแบบแขวน แบบที่ 2 รถไฟลอยฟ้า
advertisement

"แบบ1 คล้ายๆว่าสายที่จิบะ ญี่ปุ่นครับ ระยะทางรวม 15 กม กว่าๆ เอง (แบบรางห้อยที่วิ่งไกลที่สุดในโลกขณะนี้) ใช้ความเร็วไม่สูง จุคนได้น้อย เน้นแบบท่องเที่ยวมากกว่าแบบ heavy rail ที่เป็นแบบที่ 2ครับ"
advertisement

"Bts สายสีม่วง มันเป็นระบบรางเหล็ก1.435เมตร. รางหนัก ขนคนได้เยอะ ต้นทุนสูงส่วนแบบแขวน หรือ แบบสายสีชมพูบ้านเรา คือ ระบบ mono rail ล้อยาง (เอาล้อวิ่งบนแท่นคอนกรีต) ต้นทุนต่ำ แต่ขนคนได้น้อยกว่า สายสีม่วง"
advertisement

"ข้อเสียรถไฟรางเดี่ยวแบบแขวน ตอนมีปัญหา/เสียระหว่างทาง อพยพล่าช้ามาก ข้อดีคือ เหมาะกับภูมิประเทศที่มีหิมะ"
advertisement

"บน : รถไฟรางเดี่ยวแบบแขวน มีแค่ 3 ประเทศในโลก (จีน/เยอรมัน/ญี่ปุ่น) – มีข้อจำกัดเมื่อรถไฟขัดข้อง ต้องอพยพคนด้วยบันได/รถกระเช้าครับ (ลำบากมาก) – เหมาะกับภูมิประเทศที่มีหิมะ ล่าง : รถไฟฟ้ารางหนัก – จุคนมากกว่าเท่าตัว (อาจจะด้วยวิธีเพิ่มความถี่รถ/เพิ่มจำนวนตู้โดยสาร) – เขาใช้กันทั่วโลก – แต่ก็สร้างแพงกว่า"
advertisement

"คอมเมนต์ที่ดีแต่แขวะก็เพลาๆ บ้างนะ ถ้าเงียบก็ไม่มีใครรู้ว่าโง่นะ อันบนมันโมโนเรล ซึ่งโมโนเรลมีทั้งแบบคร่อม เช่นสายสีชมพูและเหลือง และแบบแขวน ส่วนมากจะเป็นรางเบา (Light rail) ส่วน BTS เป็นรางหนัก (Heavy rail) ขนาด ความจุคือคนละเรื่อง โมโนเรลแบบแขวน มีข้อดีแค่พื้นที่ด้านล่างดูโปร่ง โล่ง และหิมะไม่เข้าราง แค่นั้น นอกนั้นคือข้อเสียทั้งหมด และมันก็ไม่ได้เป็นที่นิยมอะไร มีน้อยมาก หลักสิบระบบ ทั่วโลก"
advertisement

โดยจากเรื่องนี้ก็ได้มีชาวเน็ตหลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ซึ่งรถไฟทั้งสองแบบนั้นใช้งานแตกต่างกัน ซึ่งแบบที่ 1 หรือแบบรางห้อยนั้น จะเน้นเพื่อการท่องเที่ยวมากกว่า
ขอขอบคุณที่มาจาก : Ea Tanaiporn