เผยสาเหตุ แค่รีวิวยาสีฟันแต่โดนฟ้อง 1.7 ล้าน เรื่องนี้ต้องระวัง

เป็นประเด็นที่ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก กับประเด็นของผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายหนึ่ง ที่เธอได้ออกมาโพสต์รีวิวยาสีฟันยี่ห้อหนึ่ง แต่เธอนำไปเปรียบเทียบกับยาสีฟันอีกยี่ห้อหนึ่ง ที่เธออ้างว่าเคยใช้แล้วมีอาการแพ้ โดยมีการเอ่ยชื่อแบรนด์ชัดเจนทั้ง 2 ยี่ห้อ

ในคอมเมนต์โพสต์ของเธอ มีหลายคนเข้าไปเตือนว่า หากจะรีวิว ควรจะพูดถึงแค่สินค้าที่เธอแนะนำ โดยไม่ควรพาดพิงถึงอีกหนึ่งยี่ห้อหากไม่มีหลักฐานประกอบ แต่เธอก็ยังคงยืนยันว่าเธอเป็นลูกค้า มีสิทธิที่จะรีวิว และหากจะฟ้องก็ให้ฟ้องมาได้เลย

สุดท้ายเธอถูกทางบริษัทยาสีฟันที่กล่างถึง ฟ้องค่าเสียหาย 1.7 ล้านบาท จนเธอต้องออกมาโพสต์ขอความเห็นใจ ซึ่งล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ ผู้บริโภค ได้ออกมาอธิบายเหตุผล ว่าเพราะอะไร การที่เธอรีวิวสินค้า จึงถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายมากมาย โดยทางเพจได้ระบุว่า

“หลายๆคนน่าจะเห็นประเด็นนึงในโซเชี่ยลกำลังฮือฮาในตอนนี้เกี่ยวกับที่ #ผู้บริโภค ถูกยาสีฟันยี่ห้อนึงฟ้อง 1.7 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้หลายคนยังคงไม่เข้าใจรายละเอียด ซึ่งพี่งัวจะมาสรุปให้ฟัง จงจำไว้ว่าทุกคนมีสิทธิ์รีวิวและวิจารณ์ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อย่างนึงที่ควรจะให้ความสำคัญคือการวิจารณ์โดยสุจริต ไม่มีการบลัฟหรือพูดถึงอีกแบรนด์แบบเสียๆหายๆ

จากในกรณีนี้เจ้าตัวใช้ยาสีฟันแล้วเกิดปัญหา เวลาลงรีวิวหรือโพสต์อะไรก็ตามแต่ควรจะมีภาพความเสียหายเพื่อประกอบกันให้ดูมีความน่าเชื่อถือนอกเหนือจากการเขียนนั่นเอง ทุกคนทุกสิ่งเกิดความเสียหายได้เสมอ แต่ต้องมีหลักฐานที่เพียงพอ เพื่อที่สินค้าดังกล่าวจะได้ติดต่อเจ้าตัวไปและแก้ไขปัญหาในที่สุด

จริงๆพี่งัวเห็นใจกรณีนี้นะ แต่ก็ต้องเข้าใจว่ามันเกินคำว่าวิจารณ์โดยสุจริตไปพอสมควรเลยล่ะ ยังไงก็ให้กำลังใจละกันนะ…”

ทางด้านชาวเน็ตต่างเข้าใจดีว่า การที่เธอโพสต์พาดพิงถึงอีกแบรนด์ โดยไม่มีหลักฐานเป็นใบรับรองแพทย์ มีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องกลับได้ง่ายๆ

สำหรับใครที่จะรีวิวสินค้า หรือคอมเมนต์พาดพิงถึงสินค้าใดๆ ก็ควรระมัดระวังกันให้มาก เพราะอาจจะมีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องได้

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com, ขอขอบคุณที่มาจาก : ผู้บริโภค