บัณฑิตจบใหม่ด้วยเกียรตินิยม แต่ชีวิตจะไม่หวานหมูอย่างที่คิดจริงไหม
advertisement
ถ้าพูดถึงบัณฑิตจบใหม่หลายๆ คน ที่กำลังร้อนวิชา พอเรียนจบใหม่ก็จะหาสมัครงาน แต่หารู้ไหมว่าการที่เราจะได้งานทำนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย วันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับบัณฑิตจบใหม่มาฝากทุกคนค่ะ
ล่าสุด ทางด้านผู้ใช้พันทิป สมาชิกหมายเลข 3936991 ได้โพสต์เกี่ยวกับนักศึกษาจบใหม่ด้วยเกียรตินิยม แต่เหมือนทุกอย่างจะไม่หวานหมูเลยครับ โดยระบุว่า…
advertisement
ผมจบบัญชีครับ ตามหัวข้อกระทู้ มหาวัทยาลัยที่จบ เป็นมหาวิทยาลัยระดับภาคครับเก่าแก่เลยทีเดียว แต่พอจบมาแล้ว ด้วยตอนนั้นใจอยากอยู่บ้านเลยยื่นแถวบ้านครับ ปรากฏว่า…ไม่ค่อยมีใครโทรมาเลยครับ (ติต่างเอาเองว่าต้องการคนมีประสบการณ์) แต่ไปๆ มาๆ ไอ้เราดันเห็นเพื่อนได้ บริษัทดีๆ (บริษัทใหญ่เลยครับ) ทั้งที่เพื่อนที่ได้บางคนเกรดก็ต่ำกว่าเรา (ส่วนหนึ่งเพราะผมไม่อยากยื่นเองครับ แต่ตอนนี้ดันเสียดายแบบสุดๆ) ต่อเลยครับ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า รู้สึกเสียดายกับเวลาที่ผ่านไป ได้แต่พยายามปลอบตัวเอง (แต่มันก็อดเสียดายไม่ได้นั่นแหละครับ) แต่พอลองอยู่บ้านมันก็ไม่ได้น่าอยู่ขนาดนั้น การเดินทางก็ไม่สะดวก คิดไปคิดมาไปหางานแถวกทม โอกาสในการเติบโตน่าจะเยอะกว่าด้วยซ้ำ (จังหวัดที่ผมอยู่ค่าครองชีพแพงมากครับ ถ้าจะประหยัดเงินด้วยการทำงานใกล้บ้าน แบบไม่ต้องไปเช่าหออยู่ ไม่มีงานที่มีโอกาสเติบโตเลยนั่นสิครับ
advertisement
แต่ความผิดหวังก็มีมาเรื่อยๆ ครับ ได้สัมภาษณ์บริษัท ใน กทม. (ขาด budget บ้างไรบ้าง ก็เป็นอันต้องตัดใจไป ก็เลยต้องเก็บเงินกับงานที่ทำอยู่ตอนนี้ก่อน ไม่ใช่งานตรงสาย แต่มีที่พักกับอาหารให้ครับแม้จะไม่ถนัดแต่ได้ภาษาด้วยก็ถือว่าดีระดับที่พอจะถูไถได้) บางทีก็รู้สึกเสียใจ ผิดหวัง ท้อแท้ ตั้งคำถามว่าทำไม ถ้าเรา…เราจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ยิ่งคิดมันก็ยิ่งเจ็บครับ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตต่อไป และเก็บเอาไว้เป็นบทเรียนในความผิดพลาดครั้งนี้ แต่ความรู้สึกเจ็บปวดนี่สิครับมันยังไม่จากผมไปไหนเลย พอบ่นออกมาก็รู้สึกเป็นการทำร้ายคนรอบข้างอีก ตอนนี้ภาวนาให้เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว กับอ้อนวอนโชคชะตาที่มันมักจะไม่น่ารักให้หยิบยื่นสิ่งดีๆ เข้ามาบ้าง
advertisement
อีกเรื่องครับ ผมเป็นเห็นอกเห็นใจคนอื่นแบ่งปันและคิดว่าก็ดีกับเขา (หรือผมไม่เข้มแข็งกันแน่) แต่เหมือนผมยิ่งทำ ผมยิ่งเหมือนโดนเอาเปรียบ โดนควบคุม เป็นเหมือนนกในกรง (ใครบางคนบอกว่าแม้คนจบจากที่อื่นก็มาทำงานแถวบ้านกัน แต่ผมกับมองว่าตัวเองดีขึ้นกว่านี้ได้ ควรอยู่ในจุดที่ดีกว่าที่นี่) สุดท้ายกระทู้นี้ไม่มีอะไรครับ แค่อยากระบายความรู้สึกตอนนี้ ถ้าเข้ามาอ่านแล้วเกิดความทุกข์ก็ขอขมาลาโทษด้วยนะครับ
advertisement
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
advertisement
“เส้นทางชีวิตคนเรากำหนดได้ด้วยตัวเอง 80% และดวงอีก 20% ค่ะ โชคชะตาอาจจะไม่พาคุณไปเจองานตรงสาย แต่พาคุณไปเจองานคนละสายงาน ซึ่งถ้าปรับตัวทำให้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด มันอาจจะพาคุณไปอยู่ในจุดที่ดีกว่างานตรงสายก็ได้ค่ะ ยอมรับในสิ่งที่เลือก ยอมรับในสิ่งตรงหน้า ทำให้ดีที่สุดแล้วหาช่องทางที่จะเติบโต หรือหันหัวกลับมาในทางที่ต้องการค่ะ”
advertisement
“เป็นปกติที่หลายคนจะ ผิดหวัง ปวดหัว กับการตัดสินใจผิดพลาด มองความผิดพลาดนั้นให้เป็นบทเรียนแล้วลืมๆไป เพราะยังไงมันก็ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ “คิดประมาณว่า ถ้าย้อนกลับไปแก้ไขได้คงไปซื้อหวยรางวัลที่ 1 แทนแล้ว” พอปล่อยวาง สมองแล่น ก็เพิ่ม สกิลของตัวเองในแง่ต่างๆ เยอะขึ้น ส่วนเกรียรตินิยม อย่ายึดติดมากจ้า เรียนจบแล้วก็ผ่านไป ฝีมิอในการทำงาน บุคลิกภาพ ความสามารถแก้ไขปัญหารอบตัว อยู่กับตัวเองในปัจจุบัน และมองอนาคต”โอกาสและเงิน” อยู่รอบตัวเราจ้า สู้ๆ”
advertisement
คนไทยยังเข้าใจอะไรผิดๆอยู่เยอะนะ โดยเฉพาะเรื่อง “จบเกียรตินิยม = เก่ง ดี จบแล้วต้องได้งาน” อันนี้โคตรไม่จริงเลย
ผมมีเพื่อนสนิทอยู่สองคน คนนึงเรียนไม่เก่งมาก ติด F หลายตัว กับอีกคนเกรดสูงสุดในภาค เคยสอบได้คะแนนอันดับ 1 ของคณะหลายรอบ
ตอนเรียนจบไอสองคนนี้มันไปสัมภาษณ์งานพร้อมกัน กับบริษัทรถชื่อดังเจ้านึง สรุปคนเกียรตินิยม ไม่ได้งาน แต่คนติด F ได้งาน แถมได้ให้ไปดูงานตปท. ด้วย
ถามว่าทำไม?
คนเรียนเก่งเอาแต่เรียนอย่างเดียว ทั้งชีวิตไม่มีความรู้นอกห้องเรียนเลย กิจกรรม กีฬา อะไรไม่เอาทั้งสิ้น แต่ผมเห็นอีกคน เรียนไม่ดีมาก แต่ภาษาได่อย่างเป๊ะ กิจกรรมเต็มพอร์ท
เป็นใครก็เลือกแบบที่สอง คนเกรดดีมีเป็นหมื่นเป็นแสน คนที่มีประสบการณ์อย่างอื่นต่างหากที่มีค่า ไม่ใช่เกียรตินิยม
บัณฑิตที่จบใหม่ด้วยเกียรตินิยมหลายๆ คน การเริ่มต้นชีวิตในการทำงานไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดกว่าที่จะหางานทำได้นั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก สมาชิกหมายเลข 3936991