เมื่อเรารู้สึกหมดไฟในการทำงาน การใช้ชีวิต ควรแก้ไขยังไงดี
advertisement
สมาชิกพันทิปรายหนึ่งได้ตั้งกระทู้ระบายและปรึกษาว่า รู้สึกหมดไฟในการใช้ชีวิตในวัย 30 ปี ควรจะทำยังไงดีกับความรู้สึกเช่นนี้ เลยมาขอคำปรึกษาจากชาวเน็ต
โดยเจ้าของกระทู้เล่าว่า “สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาระบาย เรารู้สึกว่าตัวเองเหมือนกำลังจะเป็นโรคซึมเศร้า หมดไฟในการทำงาน ไปจนถึงหมดไฟในการใช้ชีวิต ใครเคยเป็นแบบนี้มีวิธีไหนสามารถแก้ไขได้บ้างไหมค่ะ มันเกิดขึ้นหลังโควิดค่ะ ช่วงโควิด เราก็ WFH ทำงานวันเว้นวันมาเกือบ 2 ปี ช่วงที่ WFH เรารู้สึกว่าเห้ยมันดี มันโอเคเลย มันทำให้เรารู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องไปนั่งอยู่ที่ทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์งานเราก็เสร็จได้(งานเราออกแนวเป็นวิชาชีพที่ทำด้วยตัวเองคนเดียวเสร็จได้ ไม่วุ่นวายกับคนอื่น ทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จก็คือว่าง) แล้วเรายังมีเวลาให้ครอบครัว มีเวลาออกกำลังกาย มีเวลาพักผ่อน แถมเราเริ่มขายของออนไลน์ช่วงโควิดแล้วมันดันขายดีมาก จนรายได้เยอะกว่างานประจำ ชีวิตคือดีมาก มีเวลาพัก มีเงินใช้ มีเงินให้พ่อแม่ต่อเดือนเยอะมากๆ จากการขายของออนไลน์ แต่พอโควิดจบไป เรากลับมาทำงานทุกวัน เรารู้สึกเราเหนื่อย หรือเรายังปรับตัวไม่ได้ เวลาพักผ่อนหายไป กลับมาไม่มีเวลาออกกำลังกาย
advertisement
เวลาขายของออนไลน์ก็น้อยลง เงินก็น้อยลงด้วย งานที่ทำงานก็เคลียร์หมดแล้ว แต่ต้องไปนั่งเฉยๆ(ไม่ใช่ที่ทำงานไม่มีงานนะคะ มีแต่ขึ้นกับการบริหารงานของแต่ละคน) มันทำให้รู้สึกว่านี่เราต้องกลับมาใช้ชีวิตแบบนี้หรอ 1 เดือนมีเวลาพักแค่ ส-อ เวลาในชีวิตเราต้องหมดไปกับการนั่งอยู่ที่ทำงานแบบนี้หรอ คิดแล้วก็ไม่อยากมาทำงานเลยค่ะ ไหนจะต้องฝ่าคนมหาศาลเบียดกันขึ้น MRT BTS ทุกเช้า ทุกเย็นอีก คนทำงานกรุงเทพจะรู้ดี ว่าแค่การเดินทางไปทำงานก็นรกมากแล้ว แค่คิดก็ไม่อยากตื่นมาทำงานเลยค่ะ พาลไปรู้สึกชีวิตไม่มีคุณค่าเลย ถอนหายใจเข้าหายใจออกทุกวัน ปวดหัวจากความเครียดความวิตกกังวลทุกเย็น ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้แชร์กันได้นะคะ ยินดีรับฟังค่ะ”
advertisement
ด้านความคิดเห็นของชาวเน็ตมองว่า “อาจจะเป็นเพราะ WFH นานเกินไปครับ ผมก็ติดอยู่ในบ้าน 3 ปี ไม่ค่อยได้ออกไปไหน แต่ผมก็ทำงานได้เรื่อยๆ ช่วงปีแรกรายได้ดีพอสมควร หลังจากมาตรการผ่อนคลาย ผมก็ไปงานสัมนา ได้ไปคุยกับผู้คน ลูกค้าทำให้เราสนุกครับ ยิ่งได้คุยกับคนแบบเห็นหน้า มันทำให้เราสนุกขึ้น”
advertisement
“อันดับแรกไปต่อรองกับบริษัท ของ WFH เข้าออฟฟิสสัปดาห์ละสองวัน ถ้าไม่ได้ ก็ลาออกมาขายของ ออนไลน์ต่อไปครับ แต่จะขายได้ตลอดไปไหม รายได้จะดีตลอดไปไหม เอาเป็นว่าคุณขาดรายได้เมื่อไหร่ passion การทำงานก็จะกลับมา เพื่อความอยู่รอดครับ”
advertisement
“อ้าว ทำยังกับ จขกท ไม่รู้ภาวะที่ต้องเผชิญในการเดินทางไปทำงานซะอย่างนั้นแหละครับ แล้วคุณเอาเวลาว่างจากการ wfh มาหารายได้ในเวลางานแทนที่จะเอาไปใช้ในการพัฒนางานที่ทำให้มันดียิ่งๆ ขึ้นไป มันสมควรแล้วหรือครับ ลองถามใจตัวเองดูว่าถ้าคุณเป็นนายจ้าง แล้วมีลูกน้องใน บ. อย่าง จขกท ทำแบบนี้ จะยอมรับได้รึเปล่าหละครับ เหมือน คคห ข้างต้น ถ้ามันหมดแพสชั่นเพราะเอาเวลางานมาหากินไม่ได้แบบเดิมก็ลาออกจากงานมันซะนะครับ ยุติธรรมกับตัวเองและงานที่ทำอยู้ด้วยครับ”
advertisement
จากกระทู้ดังกล่าว ชาวเน็ตมองว่า อาจจะเป็นเพราะทำงานที่บ้านนาน แล้วไม่ค่อยได้ออกไปไหน แถมมีเวลาได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว แต่พอกลับมาทำงานในที่ทำงานปกติ ทำให้เราปรับตัวยังไม่ได้ จึงเกิดความรู้สึกนี้ขึ้น หรือว่าถ้าไม่ไหวจริงๆ ลองทบทวนดีๆ ว่าเราจะไปต่อหรือพอแค่นี้
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Zdevers