ร้านหมูกระทะให้ลูกค้านั่งปิ้งย่างชิลๆบนทางเท้า ไม่กลัว ตร.เพราะติดโรงพัก

ปัญหาเรื่องการรุกล้ำฟุตบาท หรือทางเท้าในประเทศไทยนั้นต้องเรียกได้ว่ากลายเป็นภาพที่เราเห็นกันจนชินตา และคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะทางเท้าเป็นทางสำหรับเดินเท้าสัญจรไปมา และหากมีการใช้ในทางที่ผิดก็อาจจะเกิดปัญหา และอันตรายขึ้นได้

อย่างล่าสุด (24 พฤศจิกายน 2565) เพจ เฟซบุ๊ก ขาเกือบพลิก ได้มีการโพสต์ภาพร้านหมูกระทะร้านหนึ่ง ซึ่งตั้งปูพื้นขายนั่งกันแบบชิล ๆ ชนิดที่เรียกว่ายึดครองทางเท้าตรงนั้นทั้งแถบเลยก็ว่าได้

โดยทางเพจได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมระบุว่า “”เปิดร้านหมูกระทะชิล ๆ ริมสถานีตำรวจ ประเทศกูมี ประเทศนี้คุณมรึง ไม่เอาอะไรแล้วใช่มั้ย อยู่กันแบบฮา ๆ ไปวัน ๆ นี่แหละ สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า วิถีชีวิต ภาพจากจังหวัด ตรัง ครับ ร้านนี้เปิดมากว่า 20 ปี””

“ลองปรึกษาคนที่มีความรู้เรื่องนี้มาแล้ว เค้าสรุปให้ฟังตามนี้นะครับ การขายของบนริมฟุตบาทนั้นถือว่าผิดกฎหมายจริง แต่ๆๆๆ ว่ามันก็มีข้อยกเว้นในกรณีที่ได้รับอนุญาตหรือเป็นจุดผ่อนปรนให้สามารถขายของได้โดย “ฝ่ายปกครองของท้องถิ่นนั้นๆ” ในที่นี้ก็คือเทศบาลครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าหากฝ่ายปกครองของท้องถิ่นมีการจัดเก็บรายได้กับผู้ที่มาขายของบนฟุตบาทนั้นแสดงว่าฝ่ายปกครองได้มีการอนุญาตให้จุดดังกล่าวเป็นจุดผ่อนปรนนั้นเอง ซึ่งการผ่อนปรนนี้ไม่ได้ยึดถือกฎระเบียบจากส่วนกลาง แต่เป็นฝ่ายปกครองท้องถิ่นนั้นๆ สามารถกำหนดได้เองตามสมควร โดนไม่ให้ขัดกับกฎหมายจราจร ประมาณว่าถ้าผ่อนปรนแล้วต้องไม่ให้มีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้นมาหรือทำให้การจราจรเกิดปัญหา สำหรับเคสนี้น่าจะต้องดูแลเรื่อง กรอบเวลาที่สามารถขายของได้ และรถของลูกค้าที่มานั่งทานอาหารอย่าให้จอดในจุดที่ห้ามจอดและก็เรื่องความสะอาดหลังจากใช้พื้นที่เสร็จแล้วนะครับ สรุปเรื่องที่โต้เถียงกันเรื่องวิถีชุมชนกับข้อกฎหมาย 2 เรื่องนี้สามารถเดินไปด้วยกันได้โดยมีเงื่อนไขตามที่บอกไปนั่นแหละครับ ว่าจะไม่เขียนอะไรแล้วนะแต่เข้าไปอ่านเมนต์ในโพสต์หลักมาดุเดือดจริงๆ เลยเอามุมมองนี้มาให้ได้อ่านครับ จากใจคนกันตังเหมือนกัน”

“ภาพ 1 ภาพ ไม่อาจอธิบายเหตุการณ์เรื่องราวทั้งหมดได้ ถ้าไม่เคยไป ไม่เคยสัมผัสวิถีที่แท้จริง ก็อย่าไปคิดแทน คนในพื้นที่เขาเลยครับ”

“อยากจะรู้ว่าจังหวัดอื่นมีแบบนี้เยอะหรือไม่ คือเห็นในกทม.และรอบๆกทม.จนชิน แต่ก็อยากจะบอกว่าไปสอสระเอืออะไรบ้านเขา เราต้องเอากรุงเทพให้จบก่อนดีกว่า ตอนนี้ขายของริมถนนหรือบนฟุตบาทกลับมาแล้ว อยากให้ช่วยๆกันขยี้ลงภาพให้เยอะๆหน่อยครับ ต้นแบบกรุงเทพยังแก้ไม่ได้ อย่าหวังเลยต่างจังหวัดจะแก้ได้ ขายของแบบนี้ตจว.มีเยอะแน่นอน”

“ทำผิดจนเคยตัว ทำชั่วจนเคยชิน พอไม่มีที่ทำกิน ก็บอกรังแกคนหาเช้ากินค่ำ ประเทศจะพัฒนาได้อย่างไรหากเราไม่ช่วยกันปฏิบัติตามกฎหมาย ทำผิดต้องรู้ว่าผิด ไม่ใช่ปกป้องคนผิด หากคนรุ่นหลังเห็นเป็นเรื่องปกติ คนรุ่นใหม่แบบผมแบบลูกหลานท่านจะเป็นยังไง คุณจะเลือกสอนลูกหลานท่านให้รู้จักผิดถูก หรือสอนให้ผิดก็ไม่เป็นไรคนอื่นก็ทำกันละครับ เลือกได้เลยวันนี้”

“ถึงขนาดนี้เลย เละจริงๆ ขอพูดตามตรงถึงแม้ประเทศนี้จะมีข้อจำกัดด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ การคิดค้นเทคโนโลยีอะไรต่างๆ แต่เมื่อผู้คนเริ่มจริงจังตั้งแต่พื้นฐานเลย เคารพกฏระเบียบทั้งต่อหน้าและลับหลัง รู้จักและเคารพสิทธิของตัวเองและผู้อื่น มีระเบียบวินัย และไม่ทำลายสิ่งของสาธารณะ ถ้าทำตามเช่นนี้ได้ ก็เริ่มเห็นความเจริญแล้วละ”

  จากโพสต์นี้ก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ทั้งมีคอมเมนต์ที่บอกว่า “คนทำว่าแย่แล้ว แต่มีเจ้าหน้าที่เห็นชอบด้วย มันยิ่งดูแย่ยิ่งกว่ามาก”

ขอขอบคุณที่มาจาก : ขาเกือบพลิก