ได้ยินพ่อพูด อยู่ไปก็ไลฟ์บอย มันแปลว่าอะไร หลายคนบอกมันคือคำเก่าแก่
advertisement
สำหรับคำพูดติดปาก หรือคำพูดยอดฮิตมักจะเปลี่ยนไปตามสมัยนิยม อย่างในยุคปัจจุบันที่จะเน้นรวบคำ และพูดแบบง่ายๆ โดยล่าสุดบัญชีผู้ใช้ เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ Panadda Ratcha-in ได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวพร้อมเผยว่า
advertisement
“สวัสดีค่ะ อยากทราบว่า’อยู่ไปก็ไลฟ์บอย’ ‘เรียนไปก็ไลฟ์บอย’ มันแปลว่าอะไรคะ ได้ยินคุณพ่อพูดบ่อย เห็นบอกว่ามันคือคำเก่าที่ชอบพูดกัน555”
“สำนวนคนโบราณ อยู่ไปก็ไลฟ์บอย หมายถึง อยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ อยู่ไปก็ไม่มีความหมาย ไม่มีความสำคัญ อะไรทำนองนี้ครับ สมัยก่อนจะมีสบู่ยี่ห้อหนึ่งชื่อ ไลฟ์บอย ส่วนคำเปรียบเปรย อยู่ไปก็ไลฟ์บอย จะเกี่ยวอะไรกับสบู่ยี่ห้อดังกล่าวหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องครับ ที่มาสำนวนนี้มาจากเพลงวงสไปเดอร์ยุค70รึ80ครับชื่อเพลง”พูดไปก็ไลฟ์บอย” (ไปหาฟังได้ในยูทูบครับมีคนโพสต์อยู่ครับ) “
advertisement
“มันเริ่มต้นขึ้นในยุคหนึ่งจาก “ไลฟ์บอย” เป็นชื่อของสบู่ยี่ห้อหนึ่ง ราคาถูกมาก ก้อนละประมาณ 2-4 บาท สีแดงๆ ซึ่งเป็นสินค้าตลาดกลุ่มคนรายได้น้อย ประมาณ 30-40 ปีมาแล้ว กลิ่นไม่หอม ยุคนั้น สบู่ราคาแพงคือ เซฟการ์ด วินโนเลีย ทำให้เกิดเป็นสำนวนว่า “พูดไปก็ไลฟ์บอย นิ่งไว้ก็เซฟการ์ด” สำนวนนี้ จึงมีความหมายทำนองว่า พูดอะไรออกไป หรือทำอะไรไป ก็เสียเวลาเปล่าๆ ไม่มีใครเห็นคุณค่า ดูเหมือนของราคาถูก ถ้าเป็นการพูด ก็จะคล้ายๆ สำนวน “พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง””
advertisement
“บ้านเราไม่ทำตลาดนานแล้ว มาเลย์ อินโด ยังมีขายอยู่ทั่วไป น่าจะมีโรงงานผลิตที่นั่น แต่หาในแอปช้อปปิ้งไทยยังมีขาย แถมเป็นฉลากภาษาไทยด้วย”
advertisement
“มันเป็นคำพูดทับศัพท์ที่เข้าใจความหมายโดยอัตโนมัติแต่ที่มาจริงๆ ของต้นตอเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้นไม่ทราบแน่ชัด คงเป็นเช่น เต็มคาราเบล ที่พวกเราท่านๆ ทั้งหลายคงพอจะรู้ว่าต้นตอมาจากอะไรและคงจะมีการพูดคำคำนี้อึกยาวนานดั่งเช่นไลฟ๋บอย ว่าไหมเพื่อนๆ”
advertisement
“พูดไปก็ไลฟ์บอยย์”คำนี้เป็นคำฮิตของคนในยุคหนึ่ง ถอยหลังกลับไปประมาณ 30ปีก่อนเห็นจะได้ มีที่มาจากสบู่ดังในอดีต ยี่ห้อ “ไลฟ์บอยย์” (Lifebuoy) ที่มีราคาถูกเพียง 2.50 บาท และวางจำหน่าย
advertisement
ในช่วงต่อมา ก็มีคู่แข่งคือสบู่ยี่ห้อ “เซฟการ์ด” (Safeguard) ซึ่งจะมีราคาแพงกว่าเพราะนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา จึงถูกนำมาเปรียบเทียบจนเป็นประโยคดังแห่งยุคที่ว่า “พูดไปก็ไลฟ์บอยย์ นิ่งไว้ก็เซฟการ์ด” ซึ่งจะมีความหมายในทำนองเดียวกับสุภาษิตไทยที่ว่า “พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง”
ขอขอบคุณที่มาจาก : Panadda Ratcha-in