เผยสาเหตุที่ ปอย ตรีชฎา แต่งงานทำไมใส่เครื่องทองและเครื่องเพชรเต็มตัว

advertisement
ต้องบอกเลยว่าเป็นคู่รักที่หวานกันตั้งแต่เริ่มต้น จนวันนี้มีข่าวว่าจะจัดพิธีแต่งงานกันแล้ว สำหรับปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์’ และแฟนหนุ่ม ‘โอ๊ค ภควา หงษ์หยก’ ทายาทธุรกิจดังหลายอย่างในจังหวัดภูเก็ต ที่ล่าสุดมีข่าวแว่วออกมาว่า ปอยและแฟนกำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ โดยได้มีการจัดงานในชุดบาบ๋า และเข้าไปเลือกเครื่องประดับด้วยตัวเองแล้ว
advertisement

โจ๊ก พุทธพงษ์ เพียรเจริญ นักสะสมชื่อดังในวงการเพชรและอัญมณี ได้โพสต์ภาพของ ปอย ตรีชฎา ที่ไปลองเครื่องประดับ ชุดเครื่องเพชร สำหรับงานแต่งงาน จัดเต็มทั้งกำไล สร้อย มงกุฎ และรัดเกล้า โดย โจ๊ก พุทธพงษ์ ระบุข้อความว่า “ปอยกับโอ๊คมาลองเครื่องประดับที่จะใช้ในงานแต่งงาน ลองจนโอ๊คนั่งซึมถามว่าเป็นอะไร เขาบอกเมาเพชร 555” โพสต์นี้ทำให้แฟนคลับจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์แสดงความยินดีกับปอยและโอ๊คกันเป็นจำนวนมาก
advertisement

ทั้งนี้พิธีการแต่งงานแบบจีนในลักษณะดังล่าวนั้นจะพบเห็นได้ทั้งในประเทศไทยตอนใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากประเพณีของคนจีนชาว “ฮกเกี้ยน” ที่อพยพมาอยู่และเกิดที่บริเวณคาบสมุทรมลายู ที่จะมีการเรียกกันว่า “เจ้าสาวเนื้อทอง” (ฮวงจินซินเหนียง) นั่นเอง
advertisement

โดยที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งในพิธีการแต่งงานแบบ “บ้าบ๋าย่าหยา” ก็คือเรื่องการแต่งกายของเจ้าสาวหรือที่เรียกว่าเจ้าสาวย่าหยา ที่จะมีการสวมเครื่องประดับจำนวนมาก
advertisement

ทั้งนี้นอกจากส่วนหนึ่งจะเป็นของหมั้นจากฝ่ายเจ้าบ่าวแล้ว อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นทางบ้านเจ้าสาวเองที่จะนำเอาเครื่องประดับโดยเฉพาะที่เป็นทองมาให้ลูกสาวตัวเองสวมใส่ในวันงาน ประมาณกันว่ารวมๆ กันแล้วน้ำหนักของเครื่องประดับนั้นจะอยู่ที่ 1 – 5 กิโลกรัม เรียกว่ามีเท่าไหร่ก็ขนมาใส่หมด
advertisement

ส่วนสาเหตุที่ทำเช่นนั้นก็เพื่อต้องการสื่อความหมายว่าเมื่อแต่งงานออกไปแล้วตัวเจ้าสาว หรือลูกสาวตนเองจะได้มีชีวิตอยู่อย่างสบาย สามารถนำเครื่องประดับไปเปลี่ยนเป็นทุนทำมาหากิน และที่สำคัญก็คือทำให้พ่อแม่พี่น้องของสามีเองเกรงใจ ไม่รังเกียจหรือข่มเหงลูกสะใภ้นั่นเอง
ขอขอบคุณที่มาจาก : mgronline.com , พุทธพงษ์ เพียรเจริญ โจ๊ก