เจ้าของร้านเอือม ลูกค้ากินบุฟเฟ่ต์ซูชิแต่กินเหมือนซาซิมิ จะปรับยังไม่ยอม

กลายเป็นเรื่องราวที่น่าเห็นใจเจ้าของร้านอย่างมาก เมื่อทางเพจ Shabu Chain ได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวพฤติกรรมของลูกค้าที่ไปทานบุฟเฟ่ต์ที่ร้าน โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า

ขอร้องลูกค้าที่มาทานบุฟเฟต์นะครับ ทานซูชิ ควรทานทั้งคำ ไม่ทานแต่หน้าครับ เรื่องเกิดเมื่อวาน ทางร้านเป็นบุฟเฟต์ชาบู มีเสิร์ฟซูชิหน้าเนื้อ ลูกค้ารายนี้ได้สั่งซูชิหน้าเนื้อ 10 คำ ทางร้านเสิร์ฟให้ปกติ ผู้จัดการร้านเห็นว่าทางลูกค้าทานแต่หน้า จึงเข้าไปเตือน

ทางลูกค้าไม่สนใจ สั่งซูชิเพิ่มแล้ว ทานแต่หน้าอีกตอนเช็กบิล ทางร้านจะปรับขีดละ 50 บาท ซึ่งมีแจ้งไว้อยู่แล้วทางลูกค้าไม่ยอม ต่อว่าทางร้าน บอกว่าทางร้านไม่แจ้งว่าทานซูชิต้องทานเป็นคำ บอกว่าไปทานที่ไหนก็ทานแบบนี้ ไปทานสาขาอื่นก็ทิ้งแบบนี้ไม่มีใครว่าอะไร

แต่สุดท้ายลูกค้ายอมให้ปรับแค่ 100 บาทลูกค้าก็เป็นคนเปิดธุรกิจอาหารเหมือนกัน ไม่น่าจะมีความคิดแบบนี้เลยครับทางร้านอยากเรียนแจ้งว่า ทางร้านเข้าใจ และไม่ได้ว่าจริงๆ ถ้าคุณลูกค้าทานไม่หมดบ้าง หรือข้าวของทางร้านอาจจะเยอะไป แต่ทำกันแบบนี้ ร้านก็อยู่ไม่ไหวเหมือนกันครับ ขอให้ลูกค้าที่มาทานบุฟเฟต์เห็นใจทางร้านด้วยครับ เศรษฐกิจแบบนี้ ต้นทุนของสูงแบบนี้ครับ

“ไม่ยอมจ่ายตามตกลงนี่แจ้งความได้มั้ยนะ” “เป็นแพ่งครับ กฏหมายไทยชดเชยเท่าที่เสียหาย ก็ได้แค่ค่าปรับคืน เว้นแต่จะพิสูจน์เจตนาได้ว่าเข้ามากินฟรี หรือ จงใจไม่ช่ายเงินถึงจะเป็นโทษอาญาครับ”

“ตรรกะเสื่อมๆประเภท “จ่ายเงินแล้วทำได้” มีเยอะมากกกก” “จริงค่ะ แต่ก็ต้องให้ไปกินอะลาคาทแหล่ะถูกแล้ว ไม่มีวิธีไหนเยียวยาร้านได้ดีเท่าเงิน ถ้ากินแบบมักง่ายก็ต้องจ่าย พวกที่ไม่มีเงินไม่อยากจ่ายแพงแต่ก็จะทำตามใจตัวเองมันก็เยอะค่ะ”

“สังคมและสิ่งแวดล้อมที่บ้านสำคัญ ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างไร ก็คงทำออกไปแบบนั้น..คนแบบนี้เปลี่ยนยากมันฝังรากเหง้าในสมอง”

ซึ่งจากเรื่องนี้หลายคนมองว่าอยู่ที่สำนึกล้วนๆ เพราะบางคนเวลาไปทานบุฟเฟ่ต์แล้วมักจะสั่งแบบไม่ลืมหูลืมตา สุดท้ายทานไม่หมดก็เหลือทิ้ง แต่พอทานร้านจะปรับกลับไม่ยอม แบบนี้ก็ไม่ไหวจริงๆ เห็นใจทางร้านมากๆ

ขอขอบคุณที่มาจาก : Shabu Chain