เจ้าของที่ดินโดนบุกรวบ สงสัยตักดินที่ตัวเองขาย ทำไมมีความผิด
advertisement
เป็นเรื่องราวที่โดนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย เมื่อทางเพจ โหนกระแส ได้ออกมาเผยเรื่องราวระบุว่า “เจ้าของที่ดินงง! ตักดินที่ตัวเองขาย กลับโดน ตร. บุกรวบ ถามผิดด้วยหรือ? เจ้าหน้าที่อธิบายละเอียดยิบ ขุดกว้างและลึกเกินกำหนด เสี่ยงดินพังทลาย ส่งผลต่อพื้นที่รอบ ๆ
พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) สั่งการให้ พ.ต.ต.หญิง ภิ์ษัชกร เลิศวิลัย ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ออกตรวจพื้นที่การขุดถมดิน บริเวณ ต.สำนักขุนเณร อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร
advertisement
พบมีรถบรรทุก 2 คัน ขนดินเหนียวเปียกน้ำ แบกน้ำหนักจนน่าสงสัยบนถนนทางหลวง จึงขับรถติดตามดู พบนำไปถมในที่ดินชาวบ้าน ลักษณะเป็นการนำไปขายเชิงพาณิชย์หลายเที่ยวรถ
ติดตามต่อจนพบว่ามีการลักลอบขุดตักดินในพื้นที่หลังฟาร์มไก่แห่งหนึ่งใน ต.สำนักขุนเณร จึงขับติดตามรถบรรทุกดังกล่าวเข้าไปจนถึงที่ขุดตัก พบมีรถแบ็กโฮกำลังขุดตักดินเป็นบ่อขนาดใหญ่ มีความลึกกว่า 5 เมตร มีรถบรรทุกเข้าไปรอรับดินอยู่พอดี
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. แสดงตนขอตรวจสอบเอกสารการแจ้งการขุดต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น และเอกสารการได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 ตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 มี นายวอ (นามสมมติ) คนขับรถแบ็กโฮ มาแสดงตนเป็นผู้จัดการบ่อ และเป็นเจ้าของรถทั้งหมด รวมถึงรถบรรทุกด้วย มีลูกจ้าง 2 คน เป็นคนขับรถขนส่งดินให้ พร้อมแจ้งว่า ไม่มีเอกสารดังกล่าวตามที่ขอตรวจสอบ เพราะขุดดินในที่ตัวเองขาย ไม่จำเป็นต้องบอกใคร ผิดด้วยหรอ?
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. จึงแนะนำให้ทราบว่า การขุดดินลึกเกิน 3 เมตร หรือพื้นที่ปากบ่อเกินกว่า 10,000 ตารางเมตร โดยปากบ่อดินมีระยะห่างถึงเขตที่ดินข้างเคียง เกิน 2 เท่าของความลึก แม้จะเป็นที่ดินของตนเองก็ตาม ต้องแจ้งการขุดต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อนจะทำการขุดดิน
advertisement
เพราะการกระทำดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการพังทลายของดิน ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและพื้นที่ข้างเคียง จึงต้องขออนุญาตเพื่อจัดการป้องกันการพังทลายของดิน โดยต้องได้รับการรับรองจากวิศวกรเสียก่อน หากไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น และกระทำการโดยพลการ มีโทษตาม พ.ร.บ.การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ในส่วนของการขุดดินขาย ถึงแม้จะเป็นที่ดินตนเอง แต่ถือเป็นการประกอบกิจการพาณิชย์ เพราะได้รับผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน ทั้งเงินจากการขายดินในที่ดินของตนแก่บุคคลทั่วไป และได้ทั้งบ่อน้ำเพื่อการเกษตรในที่ดินของตนด้วย การใช้รถแบ็กโฮซึ่งมีแรงม้าสูงกว่า 50 แรงม้า ขุดตักดิน จึงเป็นการเข้าองค์ประกอบของการจัดตั้งโรงงานจำพวกที่ 3 ตามบัญชีจำแนกประเภทโรงงานท้าย พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 หากจะประกอบกิจการต้องขออนุญาตจากอุตสาหกรรมจังหวัดเสียก่อน ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายวอ อ้างว่า ตนทราบดี เพราะประกอบกิจการมานาน และเคยขออนุญาต แต่เข้าใจว่าพอเป็นที่ของตัวเอง เลยเจตนาไม่ขอ เพราะคิดว่าเรื่องเล็ก ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นความผิด จึงตรวจยึดของกลาง พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดงเจริญ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”
ขอขอบคุณที่มาจาก : โหนกระแส