คนงานก่อสร้างจีน เผยเส้นทาง ทำงานมา 9 ปี เก็บเงินได้ 9 ล้านบาท

 สำนักข่าวจีน รายงาน บทสัมภาษณ์ของคนงานก่อสร้างชื่อเหอจี้หลินจากเมืองหนานชง มณฑลเสฉวน ซึ่งเขาสามารถเก็บเงินได้ 2 ล้านหยวน (ประมาณ 9.1 ล้านบาท) ในเวลา 9 ปี ทำให้เขาได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์

ตามรายงาน เหอจี้หลินเกิดในปี 1990 เขาเป็นคนงานขนอิฐที่เริ่มทำงานในมณฑลฟูเจี้ยนและกวางตุ้งตั้งแต่ปี 2016 เขาเก็บเงินได้ 2 ล้านหยวนในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา งานของเขา คือ การยกของขึ้นตึก, ขนอิฐ และก่ออิฐ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “ทั้งหมดเป็นงานที่ใช้แรงและจ่ายเงินตามผลงาน ยิ่งทำมากยิ่งได้มาก สำหรับงานของเรา แค่ยอมใช้แรง รายได้แบบนี้ไม่ถือว่าสูงหรอก”

เหอจี้หลินอธิบายเสริมว่า “การยกของขึ้นตึก” หมายถึงการใช้แรงคนขนวัสดุก่อสร้าง หิน ทราย และของหนักอื่น ๆ ในตึกที่ไม่มีลิฟต์ ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้แรงงานหนักมาก

เหอจี้หลินเล่าว่า ตอนเริ่มทำงานในที่ห่างไกลบ้าน เขายังไม่ชินกับการทำงานหนัก วันหนึ่งขนอิฐได้แค่ 500- 600 ก้อน แต่หลังจากเรียนรู้ด้วยตัวเองและขอคำแนะนำจากคนงานรุ่นพี่ ตอนนี้เขาสามารถขนอิฐได้มากกว่า 2,000 ก้อนต่อวัน “มันไม่ใช่แค่งานใช้แรง แต่เป็นงานที่ต้องมีเทคนิคด้วย”

ต่อมาเหอจี้หลินยังได้เรียนรู้การก่ออิฐ ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ของเขาอย่างมาก ปัจจุบันเขาสามารถหาเงินได้ 800 – 900 หยวนต่อวัน (ประมาณ 3,600-4,000 บาท) โดยระบุว่า “ไซต์งานต่างกัน อิฐคนละขนาด ความสูงของอาคารไม่เท่ากัน ราคาก็ไม่เหมือนกัน แต่สรุปคือต้องยอมใช้แรงและต้องขยัน!”

แม้ว่าเหอจี้หลินจะเล่าอย่างเรียบง่าย แต่ชีวิตของคนงานขนอิฐนั้นลำบากมาก พวกเขาต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อทำงาน ตอนเที่ยงก็แค่หามุมกำแพงนั่งกินข้าวกล่อง พักเพียงสั้น ๆ แล้วต้องกลับไปทำงานต่อ มักจะทำงานจนถึง 3 – 4 ทุ่ม

เหอจี้หลินยอมรับว่า ตอนเด็กเขาไม่เคยคิดว่าโตขึ้นจะทำงานขนอิฐ สิ่งที่ทำให้เขามีแรงฮึดสู้คือความปรารถนาที่จะปรับปรุงความเป็นอยู่ของครอบครัว โดยกล่าวว่า “พวกเราคนหนุ่มมีความรู้สึกที่ไม่ยอมแพ้ สิ่งใดที่คนอื่นมี เราก็อยากจะมี ดังนั้นจึงทำงานหนักเพื่อหาเงิน”

อย่างไรก็ตาม การใช้แรงงานหนักเป็นเวลานานได้นำมาซึ่งการบาดเจ็บจากการทำงาน กล้ามเนื้อบริเวณเอวของเหอจี้หลินมักจะรู้สึกไม่สบาย ซึ่งทำให้เขาคิดเกี่ยวกับอนาคตมากขึ้น “ตราบใดที่ยังไม่มีทางเลือกอื่น ก็ต้องทำงานนี้ให้ดีก่อน”

ทำก่อสร้างมีเงินเก็บ 9 ล้าน

เหอจี้หลินกล่าวว่า เมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกัน เขาถือว่าทำงานหนักมาก แต่ส่วนตัวเขาคิดว่าวิธีการทำงานหนักแบบนี้อาจไม่เหมาะกับทุกคน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เขาก็อิจฉาชีวิตที่น่าตื่นเต้นของคนรุ่น 90 หรือ 00 หลายคน แต่ทุกคนมีสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เขาจึงได้แต่พยายามไปทีละก้าว

ขอขอบคุณที่มาจาก : ข่าวสด