อังกาบหนู..แก้ไข้ ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย!!
advertisement
“อังกาบหนู” มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า อังกาบเหลือง พืชชื่อแปลกหูชนิดนี้ จัดเป็นพืชที่มักพบขึ้นหนาแน่นเป็นวัชพืชอยู่ตามเขาหินปูน จะพบได้ในที่แห้งแล้งทางภาคใต้และภาคตะวันตกเฉียงใต้ของไทย อังกาบหนูหรืออังกาบเหลืองลักษณะเป็นไม้พุ่มเล็ก แตกกิ่งก้านเป็นจำนวนมาก ความสูง 1 ถึง 2 เมตร ใบนั้นเป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน รูปไข่หรือวงรีปลายใบและโคนใบแหลม ออกดอกสีเหลืองเป็นช่อเป็นกระจุกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกอังกาบหนูมีกลีบดอก 5 กลีบ มีผลเป็นฝักแบนๆ ปลายแหลม ภายในจะมีเม็ดเล็ก และสามารถนำมาใช้เป็นยาได้ดังนี้ค่ะ
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, ดอก และ ใบ
[ads]
สรรพคุณและวิธีการใช้
1) ยาแก้กลากเกลื้อน และถูกงูกัด – นำใบตำระเอียด พอกบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อน หรือบริเวณที่ถูกงูกัด จะบรรเทาอาการปวดได้ดี
2) ช่วยแก้ปวดฟัน – นำใบมาเคี้ยวให้ระเอียด
3) แก้หวัด ลดไข้ – นำใบมาคั้นเอาน้ำมาดื่ม หรือใช้รากที่ตากแห้งแล้วนำมาต้มเป็นยาดื่ม
4) แก้อาการท้องผูก – นำใบมาคั้นเอาน้ำนำไปผสมกับน้ำมะนาว
5) บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย – ใช้รากที่ตากแห้งแล้วนำมาต้มผสมน้ำมะนาว
6) ยาบำรุงธาตุ – ช่วยให้เจริญธาตุไฟได้ดีมาก ยาลดไข้ ช่วยขับเสมหะ ช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย ช่วยรักษากลาก เกลื้อน ยาแก้ฝี ยาแก้ไข้ข้ออักเสบ ยารักษาโรคมะเร็ง เนื้องอกในสมอง และเบาหวาน คุมกำเนิด โดยใช้รากหรือดอกมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
7) แก้ส้นเท้าแตก – คั้นจากใบ สามารถใช้ทาได้
8) การคุมกำเนิด – สารสกัดจากรากอังกาบหนู มีฤทธิ์ในการคุมกำเนิด โดยมีการทดลองในหนูเพศผู้นานติดต่อกัน 60 วัน พบว่าสามารถคุมกำเนิดได้ 100% เนื่องจากสารสกัดดังกล่าวมีฤทธิ์ในการรบกวนการสร้างสเปิร์ม ลดจำนวนสเปิร์ม และทำให้การเคลื่อนไหวของสเปิร์มลดลง โดยสารสกัดจากอังกาบหนูนั้นส่งผลต่อการสร้างสเปิร์ม ทำให้โครงสร้างและหน้าที่ของสเปิร์มผิดปกติไป
[yengo]
เนื่องจากอังกาบมีดอกที่สวยงาม (แต่ในปัจจุบันอังกาบดอกเหลืองนั้นก็หายากมาก) โดยทั่วไปแล้วจะนิยมปลูกไว้เป็นไม้ประดับสวน แถมยังมีประโยชน์ทางยาได้อีกด้วย ใครที่ชื่นชอบพืชพรรณไม้ ก็ลองหาอังกาบไปปลูกบ้างนะคะ ทั้งสวยและมีประโยชน์แบบนี้ คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มนะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : ไข่เจียว.com