หน่อไม้ฝรั่ง..อุดมไปด้วยสารอาหาร มากคุณค่า!! ไม่กินได้ไง!!
advertisement
“หน่อไม้ฝรั่ง” (Asparagus) ดั้งเดิมเป็นพืชพื้นเมืองแถบยุโรปและแอฟริกา แต่ปัจจุบันมีการเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์กันอย่างแพร่หลาย แม้แต่ประเทศไทยบ้านเราก็นิยมกินหน่อไม้ฝรั่ง สามารถปลูกได้และมีวางขายได้ทั่วไป มีทั้งชนิดที่เป็นหน่อสีเขียว และหน่อสีขาว เป็นผักที่กินอร่อย กรุบกรอบ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สามารถนำไปทำปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย นิยมจะนำไปผัดเป็นส่วนใหญ่ หรือจะลวกทานเป็นผักเคียงกับอาหารอื่นๆ ได้อีกมากมาย นอกจากจะกินอร่อยแล้ว หน่อไม้ฝรั่งยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารอย่างมากมาย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูกันค่ะ
[ads]
หน่อไม้ฝรั่งมี 2 ชนิด คือ หน่อขาวและหน่อเขียว ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์เดียวกัน ต่างกันที่กระบวนการผลิต โดยหน่อขาว เป็นหน่อที่พูนดินกลบโคนต้นสูง 25-30 เซนติเมตร ไม่ให้หน่อถูกแสงแดด นิยมนำไปบรรจุกระป๋องหรือประกอบอาหารฝรั่ง ส่วนหน่อเขียวเป็นหน่อที่โผล่พ้นดิน ได้รับแสงแดดเต็มที่ มักเห็นวางขายตามท้องตลาดทั่วไป
หน่อไม้ฝรั่งมีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย มี โปรตีน แร่ธาตุต่างๆ เช่น สังกะสี ทองแดง ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เซเลเนียม โฟลาซิน และกากใยมาก อุดมไปด้วยวิตามินหลากหลาย มีวิตามินซี วิตามินบี ทั้งบี 1 บี 2 บี 3 และบี 6 วิตามินเค วิตามินบี วิตามินเอ โฟเลต มีสารกลูตาไธโอน มีปริมาณเกลือต่ำมาก และไม่มีไขมันหรือคอเลสเตอรอล
1) สารเส้นใย ในหน่อไม้ฝรั่งอุดมไปด้วยกากใย ช่วยในการขับถ่าย บำบัดอาการท้องผูก และกากใย แถมดีตรงที่กินแล้วอิ่มได้ง่าย จึงดีต่อการควบคุมน้ำหนัก และลดความอ้วน
2) ช่วยในการทำงานของลำไส้เล็ก มีอินนูลินมาก อินนูลินจะเป็นอาหารของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ประเภท แลคโตบาซิลไล และบิฟิโดแบคทีเรีย ทำให้สุขภาพลำไส้ใหญ่ดีขึ้น จึงเหมาะมากสำหรับคนที่มีอาการท้องผูก
3) มีวิตามินซีสูง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ป้องกันการเป็นหวัดบ่อยๆ ช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้สมบูรณ์ จึงทำให้ผิวพรรณผ่องใสดูอ่อนวัย
4) หน่อไม้ฝรั่ง มีโฟเลตสูงจึงช่วยในการบำรุงเลือด และช่วยยับยั้งโฮโมซีสเตอีนจึงป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ เสริมสร้างให้ทารกในครรภ์มีความแข็งแรงสมบูรณ์ หน่อไม้ฝรั่ง จึงเป็นผักอีกชนิดที่แนะนำสำหรับแม่ที่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในเดือนแรกๆ โฟเลตยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอด เพราะมะเร็งปอดเกิดจากการที่มีปริมาณโฟเลตในเลือดต่ำ และดีสำหรับคนที่เคยมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจหรืออัมพาต
5) มีโพแทสเซียมสูง ทำให้ หน่อไม้ฝรั่ง มีสรรพคุณขับปัสสาวะ และมีรายงานว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียม จึงชะลอการเกิดกระดูกผุ กระดูกเสื่อมก่อนวัย
6) มีแอสพาราจีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโน ทำให้ หน่อไม้ฝรั่งมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ
7) มีการศึกษาไว้ว่ากรดอะมิโนและแร่ธาตุในสารสกัดจากหน่อไม้ฝรั่ง สามารถช่วยแก้อาการเมาค้างและป้องกันเซลล์ตับจากพิษของแอลกอฮอล์ได้
8) ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ ในหน่อไม้ฝรั่งมีสารกลูตาไธโอน ซึ่งสารตัวนี้จะทำงานร่วมกับวิตามินซี ช่วยในเรื่องการกระตุ้นให้สเปิร์มมีความตื่นตัวมากขึ้น แข็งแรงมากขึ้น จึงเหมาะสำหรับผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
หน่อไม้ฝรั่ง มีสารประกอบกำมะถันเรียกว่ากรดแอสพารากูสิคสูง ซึ่งทำให้บางครั้ง คนกิน หน่อไม้ฝรั่ง แล้ว ปัสสาวะจะมีกลิ่นฉุน ซึ่งจะเกิดหลังจากกิน หน่อไม้ฝรั่ง เร็วมากคือภายใน 15-30 นาทีเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หน่อไม้ฝรั่ง ไม่ได้มีผลร้ายต่อไตในคนปกติ
ข้อควรระวัง
จะเห็นว่า หน่อไม้ฝรั่ง มีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังในการกิน หน่อไม้ฝรั่ง เช่นกันคือ
– ผู้ที่เป็นโรคเกาต์ไม่ควรกินหน่อไม้ฝรั่ง เนื่องจากมีสารพิวรีน (Purine) ในปริมาณสูง หากกินหน่อไม้ฝรั่งมากสารพิวรีนจะกระตุ้นให้เกลือของกรดยูริคในกระแสเลือดเข้าไปเกาะตามข้อมากขึ้น ก่อให้เกิดอาการปวดยิ่งขึ้น
[yengo]
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
– ผักผลไม้ที่ยังสดกรอบจะมีโฟเลตมากกว่าผักเหี่ยว จึงควรนำหน่อไม้ฝรั่งมาปรุงอาหารทันทีที่เก็บเกี่ยว อย่าวางทิ้งไว้นาน
– ในขั้นตอนการล้างและปรุงอาหารหน่อไม้ฝรั่ง อาจทำให้สูญเสียโฟเลตไป เนื่องจากโฟเลตละลายได้ดีในน้ำ จึงควรเลือกวิธีประกอบอาหารที่ใช้น้ำน้อย เช่น ต้มหรือลวกน้ำน้อยๆ และกินน้ำต้มไปด้วย โดยวิธีนึ่งจะมีโฟเลตเหลือมากกว่าการต้ม
– วิธีการเลือกซื้อหน่อไม้ฝรั่ง ควรเลือกหน่อที่ตรง ไม่โค้งงอ หน่อยังอ่อน สด ไม่มีโรคแมลง หรือรอยช้ำ ถ้ายังไม่นำมากินทันที สามารถเก็บหน่อไม้ฝรั่งให้คงความสดกรอบ ด้วยการตั้งแช่โคนในถาดบรรจุน้ำสูงประมาณ 1 นิ้ว เก็บไว้ได้ 6 ชั่วโมง ถ้าไม่แช่น้ำจะเกิดเสี้ยนและดอกบาน หากต้องการเก็บไว้นานกว่านี้ ควรแช่ตู้เย็น ซึ่งจะเก็บได้ 10-20 วัน
คุณประโยชน์ของหน่อไม้ฝรั่งนั้นมีมากมายเลยทีเดียวนะคะ หากใครที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคไตก็สามารถทานได้ และยิ่งเหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือผู้ที่เป็นเบาหวาน เพราะมีปริมาณของคาร์โบไฮเดรต แครอรี่ และไขมันต่ำ แล้วยังช่วยขับปัสสาวะ ลดกรดในลำไส้ ให้พละกำลัง และบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดชื่นอีกด้วยนะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com