ประสบการณ์จริง ลูกรอดมาได้เพราะคาร์ซีท!!
advertisement
คุณพ่อคุณแม่คะ หลายต่อหลายครั้งที่เรามักได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับอุบัติเหตุต่าง ๆ บนท้องถนน โดยหนึ่งในผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตนั้นมักจะมีเด็กเล็ก ๆ รวมอยู่ด้วย วันนี้เรามีเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งมาฝากค่ะ
advertisement
เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับคุณวิรุณ จินตนะกุลและครอบครัว โดยคุณวิรุณได้เล่าว่า ภายหลังจากที่เขาได้ซื้อคาร์ซีทมาได้เพียงเดือนเดียว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและร้ายแรงที่สุดในชีวิตก็เกิดขึ้น [ads]
เมื่อครอบครัวต้องเดินทางไปกรุงเทพโดยน้องปัณณ์ลูกชายวัย 2 ขวบ 5 เดือนได้นั่งคาร์ซีทตัวใหม่อยู่ด้านข้างคนขับ และน้องปุณณ์ลูกสาววัย 10 เดือนได้นั่งบนคาร์ซีทตรงกลางเบาะคนนั่งซึ่งนั่งหันหลังให้กับถนน โดยมีภรรยาและพี่เลี้ยงนั่งขนาบข้าง
เมื่อวันเกิดเหตุ ระหว่างทางกลับโคราชบนถนนมิตรภาพใกล้ถึงจังหวัดสระบุรี รถผมได้เกิดประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำข้ามเลนไปฝั่งขาเข้ากรุงเทพ โดยตัวรถได้พุ่งชนรถยนต์คันอื่น ๆ อีก 4 คัน ภรรยาผมกระดูกต้นคอหัก นิ้วมือหัก 3 นิ้ว พี่เลี้ยงกล้ามเนื้ออักเสบไปทั้งตัว แต่น้องปัณณ์และน้องปุณณ์ กลับไม่มีแม้แต่แผลถลอก!!
advertisement
advertisement
และได้ฝากบทสรุปเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านว่า
ถ้าตอนนั้นผมดื้อรั้นไม่ซื้อเพราะเพียงเหตุผลว่า “แพง เดี๋ยวค่อยซื้อก็ได้” ตอนนี้ผมอาจจะไม่มีโอกาสได้กอดลูกผมคนใดคนนึงก็ได้ เงินสองสามหมื่น ก็ไม่ใช่เงินน้อย ๆ แต่เมื่อเทียบกับชีวิตลูกทั้งชีวิตแล้ว คงไม่ต้องพูดต่อกระมังว่ามันคุ้มค่าแค่ไหน แค่คิดว่าผมเป็นคนขับรถจนเกิดอุบัติเหตุ แถมยังไม่ยอมซื้อ คาร์ซีทจนต้องสูญเสียลูกไป ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าผมจะดำรงชีวิตต่อไปอย่างไร
หวังว่าบทเรียนบทนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็ก ๆ รวมถึงคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อแม่คน ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกน้อยให้มาก ๆ เงินเพียงสองสามหมื่นบาทแต่เมื่อเทียบกับชีวิตลูกทั้งชีวิตแล้ว ต่อให้ผมยากจนกว่านี้ ผมก็ยังยืนยันที่จะกัดฟันซื้อมาใช้อยู่เช่นเดิม หากจะคำนวณเป็นตัวเงินง่าย ๆ คาร์ซีทราคาอย่างสูง 3 หมื่นบาท ใช้ได้อย่างต่ำสำหรับช่วงอายุ 3 ปี ตกเฉลี่ยเพียงวันละประมาณ 27 บาท อย่าคิดว่าอุบัติเหตุเป็นเรื่องไกลตัว อย่าคิดว่าการอุ้มลูกบนรถจะปกป้องลูกได้ดีที่สุด เพราะหากเกิดเหตุขึ้นแล้วไม่มีใครที่มีสติดีพอที่จะคอยปกป้องลูกได้หรอก ครับ!!!
สรุปคือ
1) อย่าคิดว่าแพง หากพอที่จะซื้อได้จงซื้อซะ [yengo]
2) ซื้อมาแล้วอย่าใจอ่อน เด็กร้องไห้แน่ ๆ แต่คิดว่าเสมอว่า safety first
3) อย่าคิดว่าขับรถใกล้ๆ ขับช้า ๆ คงไม่เป็นไร เพราะหากรถชนขึ้นมามันมีแรงกระแทกมากพอที่จะทำให้เด็กเล็กๆ ได้รับอันตรายได้
4) ศึกษาและติดตั้งให้ถูกวิธีนะครับ (เห็นบางคนจับลูกนั่ง car seat จริง แต่ไม่คาดสายรัดเด็กเลย มันจะมีประโยชน์อะไร!)
ที่มา: เฟสบุ๊คของคุณ Wiroon Jintanakul เรียบเรียงเนื้อหาโดย : th.theasianparent.com