ปลา.. ประโยชน์ดีๆ ที่ไม่ควรมองข้าม!!
advertisement
อาหารมีให้เราเลือกทานมากมายหลายชนิดค่ะ แต่ละอย่างก็มีประโยชน์มากน้อยแตกต่างกันไป แล้วแต่ความต้องการของแต่ละบุคคล แต่อย่างไรก็ตามแต่คนเราจำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ และวันนี้ Kaijeaw.com อยากจะขอพูดถึงเรื่อง หมู่อาหารโปรตีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสารอาหารที่เราจะขาดเสียไม่ได้เลย และแหล่งของโปรตีนที่ดีมากๆ ได้รับฉายาว่าเป็นราชาแห่งโปรตีน นั่นก็คือ “ปลา” นั่นเองค่ะ หลายคนคงจะเคยได้ยินจนคุ้นหูว่า กินปลาแล้วจะฉลาด แข็งแรง นั่นดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ผิดอะไรเลย และในความเป็นจริงแล้วกินปลาแล้วดีมากกว่าฉลาดและแข็งแรง ดังนั้น หากหากคุณอยากรู้แล้วว่ากินปลาดีอย่างไร มาดูกันเลย…
1. กินปลาเป็นประจำทำให้ห่างไกลจากโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับกระดูกและฟัน ที่เกิดจากการขาดธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียมสารอาหารสำคัญที่เสริมสร้างและบำรุงกระดูกและฟันอย่างสมบูรณ์ โดยควรเลือกทานปลาเล็กปลาน้อยที่กินได้ทั้งตัว เพราะกระดูกของปลานั้นเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดี
2. ปลามีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่สำคัญอีกหลายชนิดด้วยกัน ทั้งโอเมก้า 3 เช่น กรดไอโคซาเพนตะอีโนติก (EPA) และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือกอุดตัน ช่วยลดระดับไขมันในเลือด จะพบได้มากในปลาทะเล และปลาน้ำจืดที่นิยมเลี้ยงเพื่อจำหน่าย เช่น ปลาจะละเม็ดดำ ปลาจะละเม็ดขาว ปลากะพงขาว ปลาสวาย ปลาสลิด ปลาดุก และปลาช่อน เมื่อนำมาต้มหรือนึ่งจะให้กรดไขมันโอเมก้า 3 สูง
[ads]
3. มีโปรตีนที่ย่อยง่าย โดยทั่วไปในเนื้อปลามีโปรตีนประมาณร้อยละ 17-23 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ช่วยระบบการย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนัก โปรตีนมีประโยชน์สูง ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อหรือส่วนต่างๆ ที่สึกหรอ และเสริมสร้างร่างกายให้เจริญเติบโตตามวัยอันควร ในบรรดาปลาชนิดต่างๆ แนะนำว่าปลาสลิดตากแห้ง มีโปรตีนมากกว่าชนิดอื่น เมื่อเทียบกับแหล่งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ และการปรุง ปลาดิบ ปลาต้ม และปลานึ่งทุกชนิดมีไขมันและพลังงานต่ำ ซึ่งปลาย่างและปลาทอดจะมีไขมันและพลังงานสูงกว่า
4. ปลามีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด โดยเฉพาะไลซีนและทรีโอนิน ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการสมองและการเจริญเติบโตในวัยเด็ก เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในสารสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้นอนหลับสนิท สมองทำงานได้ดี ไม่แก่เกินวัย และลดความหิวชนิดรับประทานไม่หยุดได้ โดยถ้าคิดเป็นหน่วยร้อยละ จะมีสูงถึงร้อยละ 92 เมื่อเทียบกับน้ำนมวัวซึ่งมีร้อยละ 91 เนื้อวัวมีร้อยละ 80 และถั่วเหลืองมีร้อยละ 63
5. ปลามีไขมันต่ำและเป็นไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวหรือที่เรียกว่า โอเมก้า3 ซึ่งเป็นไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งเราไม่สามารถสร้างเองได้ นอกจากกรดไขมันโอเมก้า3 ที่มีอยู่ในปลาช่วยป้องกันการสะสมตัวของไขมันอิ่มตัวหรือคลอเลสเตอรอล อันเป็นสาเหตุ ให้เส้นเลือดอุดตัน ซึ่งนำไปสู่โรคหัวใจและเส้นเลือดในสมองแตกได้
6. ช่วยในการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะการกินปลาที่มีโอเมก้า3 สูง เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอล จะช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผลดียิ่งขึ้น
7. บำรุงสมอง กรดไขมันดีเอชเอ (DHA) ในโอเมก้า 3 มีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะในส่วนของความจำและการเรียนรู้
8. ช่วยลดความเครียด มีรายงานการวิจัยต่างๆ มากมาย เกี่ยวกับน้ำมันปลา ว่าสามารถลดความเครียดในผู้ป่วยโรคประสาทที่มักจะอาละวาด ทำให้มีอารมณ์ที่สงบลงได้
9. บรรเทาอาการซึมเศร้า การศึกษาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดพบว่า การขาดโอเมก้า3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อสมอง อาจเป็นสาเหตุทำให้คนมีอาการซึมเศร้า สมาธิสั้น และขาดความสามารถในการอ่านหนังสือได้
10. บรรเทาอาการของโรคไขข้ออักเสบ จากการวิจัยพบว่า น้ำมันปลาช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยโรคไขข้ออักเสบ จนสามารถลดการใช้ยาบางส่วนลงได้
11. ลดการอักเสบของโรคผิวหนัง การศึกษาวิจัยระบุว่า การกินปลาที่มีไขมันมากจะช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนัง เช่นสะเก็ดเงิน(เรื้อนกวาง) เนื่องด้วยวิตามินดีจากกรดไขมันโอเมก้า 3 ปริมาณที่มากในปลานั่นเอง
12. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ จากการวิจัยในปี 1998 พบว่า การบริโภคปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคหัวใจลงได้ นอกจากนั้น จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยโอเรกอนยังระบุว่า ในไขมันปลามีกรดไขมันอีพีเอ (EPA ) ซึ่งเป็นกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า3 ยังช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดและลดระดับไตรกลีเซอไรด์ลงได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจด้วยเช่นกัน
13. ให้แร่ธาตุไอโอดีน ป้องกันโรคเอ๋อในเด็ก กินปลาทะเลแล้ว ร่างกายจะได้รับแร่ธาตุไอโอดีน ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันโรคคอหอยพอกชนิดที่เกิดจากการขาดธาตุไอโอดีน เด็กที่กำลังเจริญเติบโตหากขาดแร่ธาตุชนิดนี้ โอกาสที่จะเป็นโรคเอ๋อหรือภาวะปัญญาอ่อนก็มีมากขึ้น และยังทำให้ร่างกายเจริญเติบโตช้าอ่กด้วย
[yengo]
14. ป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เนื้อปลามีสารเซเลเนียม แร่ธาตุที่ช่วยต่อสู้กับมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย การกินเนื้อปลาจึงมีโอกาสเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าการที่ไม่ได้กินเนื้อปลาหรือกินน้อย 15. ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ความดันเลือดสูงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ เนื่องจากมีเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เซลล์ประสาทในสมองถูกทำลาย เนื้อปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายต้องการ จะช่วยกระตุ้นให้มีการส่งเลือดไปยังสมองมากขึ้น อีกทั้งสามารถป้องกันและลดอาการอัลไซเมอร์ได้เยอะเลยทีเดียว
16. ดูแลบำรุงผิวให้อ่อนเยาว์ ปลาเป็นประโยชน์ต่อระบบการทำงานภายในร่างกาย ส่งผลสู่ภายนอกทำให้ผิวภายนอกดูดีและชุ่มชื่นขึ้น
17. ป้องกันโรคหอบหืด ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูง โดยเฉพาะเด็กๆ ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ควรกินปลาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืดได้ และเนื้อปลายังประกอบด้วยสารอาหารหลัก อย่างเช่น โปรตีน มีผลต่อการการเจริญเติบโตที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และสมบูรณ์ สร้างภูมิคุ้มกันจากโรคต่างๆ
ใครที่อยากได้ประโยชน์อันมากมายเช่นที่ได้กล่าวไว้แล้วนั้น อย่าลืมกินปลาเยอะๆ นะคะ เหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกคนในครอบครัว กินปลาให้มากขึ้นเพิ่มเนื้อปลาเข้าไปในอาหารของแต่ละวัน ควบคู่กับอาหารหมู่อื่นๆ อย่างครบถ้วน จะช่วยทำให้ร่างกายของคุณได้รับสารอาหารดีๆ แข็งแรงได้มากขึ้นแน่นอนค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com