เมื่อไหร่ควรล้างแอร์ ทำไมต้องล้างแอร์?
advertisement
ในหน้าร้อนและช่วงที่อากาศร้อนๆ ของเมืองไทย อาจจะมีอุณหภูมิสูงเกิน 40 องศา!! เป็นเหตุให้แอร์หรือเครื่องปรับอากาศเป็นอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าที่ทำงานหนัก มีภาระการทำความเย็นในอากาศที่ร้อนเพิ่มขึ้น อีกทั้งแอร์ที่ไม่ได้ล้างก็มักจะสกปรก นอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพของผู้ใช้งานแล้ว ยังทำให้แอร์มีประสิทธิภาพการทำงานถดถอย บั่นทอนอายุการใช้งาน สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า ที่สำคัญก็คือค่าใช้จ่ายที่ต้องบานปลายแน่นอน แม่บ้านหลายคนคงจะเริ่มมองเห็นปัญหาและมีความกังวลใจ แต่ขอให้เบาใจได้เลยค่ะ เพราะ วันนี้ Kaijeaw.com วิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ไปได้ อย่างไรนั้น มาดูกันเลยค่ะ
ทำไมต้องล้างแอร์…
เมื่อมีการเปิดใช้งานแอร์บ่อยครั้งและนานแค่ไหน ยิ่งเปิดบ่อยๆ หรือเปิดนานๆ ก็ยิ่งต้องล้างแอร์บ่อยครั้งขึ้นเท่านั้น เพราะขณะที่แอร์กำลังทำงาน จะมีการดูดอากาศเข้าไปภายในตัวเครื่องเพื่อหมุนเวียนแล้วพ่นลมเย็นออกมา ทำให้มีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไป แล้วไปหมักหมมอยู่ภายในตัวเครื่อง และจะทำให้ระบายความเย็นได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้เเอร์ทำงานหนักและกินไฟเพิ่มขึ้น ผลพลอยได้คือช่วยลดเชื้อโรคที่หมักหมม ทำให้เกิดผลดีกับสุขภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้
เมื่อไหร่ที่ควรล้างแอร์…
ควรหมั่นล้างแอร์ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยช่างผู้ชำนาญทุก 6 เดือน และถอดหน้ากากแอร์ออกมาล้างเอง เป็นประจำ เดือนละครั้ง หรือล้างได้ทันทีที่พิจารณาแล้วว่าแอร์สกปรกแล้ว เพื่อให้แอร์ทำงาน ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่มีฝุ่นอุดตัน เป็นแหล่งของเหล่าเชื้อโรคทั้งหลาย ซึ่งนอกจาก ช่วยยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟได้ถึง 10%
[ads][fb1]
ข้อแนะนำในการล้างแอร์ ด้วยตัวเอง
เริ่มต้นที่ชุดจ่ายลมเย็น หรือ Fan coil Unit หรือแอร์ส่วนที่เรามองเห็นอยู่ ภายในบ้านทำได้โดยถอด หรือเปิดตระแกรงพลาสติก ด้านหน้าตัวเครื่องออก แล้วนำไส้กรองที่อยู่ด้านใน ซึ่งอาจทำด้วย พลาสติก หรือในสังเคราะห์ ออกมาเป่าด้วยลม หรือล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วผึ่งให้แห้ง จากนั้นนำมาประกอบกลับที่เดิม แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดฝุ่นละออง ที่ติดอยู่ที่หน้ากากแอร์ ให้สะอาด โดยควรถอดล้างทำความสะอาดเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ให้มากขึ้น
การล้างชุดระบายความร้อน หรือ Condensing Unit หรือส่วนของแอร์ที่ติดตั้ง อยู่ภายนอกอาคาร
มีวิธีการโดยใช้สายยางฉีดน้ำที่แรงดันไม่สูงนัก ฉีดน้ำทำความสะอาดบริเวณแผงอลูมิเนียม ครีบระบายความร้อน และพัดลมระบายความร้อน เพื่อล้างคราบฝุ่นละอองที่จับอยู่ โดยควรทำความสะอาดทุกๆ 6 เดือน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานของแอร์ ทำให้แอร์ระบายความร้อนได้ดีขึ้น และช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า ซึ่งการทำความสะอาดไส้กรอง หรือล้างแอร์ด้วยตัวเองนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องทำด้วยความระมัดระวัง และต้องทำ เมื่อปิดแอร์เท่านั้น โดยเฉพาะการล้างชุดระบายความร้อน ให้ระวังการฉีดน้ำ ไปยังบริเวณส่วนที่เป็น แผงขั้วต่อไฟฟ้า เพราะอาจเกิด ไฟฟ้าช็อตได้ ส่วนผู้ที่ไม่สะดวกที่จะล้างแอร์ด้วยตัวเอง หรือต้องการล้างแบบทั้งเครื่อง ควรเรียกช่างผู้ชำนาญ เป็นผู้ล้างจะเหมาะสมกว่า เพราะมีอุปกรณ์ และชิ้นส่วนต่างๆ ที่ละเอียดซับซ้อน โดยล้างปีละ 2 ครั้ง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การงานของแอร์ ปลอดภัยจากเชื้อแบคทีเรียที่หมักหมม ช่วยประหยัดพลังงาน ค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า และยืดอายุการใช้งาน ของเครื่องให้นานขึ้น
[yengo][fb2]
ข้อควรปฏิบัติเพื่อยืดอายุการใช้งานแอร์ และประหยัดพลังงานไฟฟ้า
– ตั้งอุณหภูมิแอร์ ต้องไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส และทดลองตั้งที่ 26-27 องศาเซลเซียส แล้วใช้พัดลมเบอร์ 5 พัดกระจายความเย็น ก็จะช่วยให้ประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 10-30% เลยทีเดียว
– ไม่ควรนำความชื้นเข้าไปในห้องแอร์ เช่น ไม่นำผ้าเปียกๆเข้าไปตาก ไม่ควรวางกระถางต้นไม้ ไว้ในห้องที่มีแอร์ และไม่ควรเปิดบานเกล็ด ระบายอากาศของประตูห้องน้ำ เพราะไม่เช่นนั้น แอร์จะทำงานหนัก ในการต้องรีดความชื้น ออกจากห้อง ทำให้ต้องสูญเสียพลังงานไปโดยใช่เหตุ
– ไม่ควรนำของร้อนเข้าไปในห้องแอร์ เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองไฟฟ้ามาก ดังนั้นจึงไม่ควรนำเตาไฟฟ้า หม้อต้มน้ำ หม้อสุกี้ เข้าไปในห้องแอร์
– ก่อนเปิดแอร์ให้เปิดประตู หน้าต่างให้อากาศภายนอก เข้าไปแทนที่อากาศภาย ในห้องเป็นการถ่ายเทความร้อน สัก 15 นาที เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดพัดลมระบายอากาศ และแอร์ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป
– ปิดประตู หน้าต่างให้สนิทขณะเปิดแอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศร้อน หรือความชื้นจากภายนอกเข้ามา เพราะจะทำให้ เครื่องปรับอากาศ ทำงานหนักขึ้น
– ปรับทิศทางของช่องจ่ายลมเย็น และความแรงของลมให้เหมาะสม กับตำแหน่งที่ต้องการ เพื่อจะได้เย็นเร็วขึ้น และไม่ต้องปรับอุณหภูมิให้เย็นขึ้น เพราะจะทำสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้า
– รักษาความสะอาดของบริเวณห้องที่ติดตั้งแอร์ อย่างดีและตลอดเวลา เพื่อลดการสะสมของฝุ่นละอองในแอร์ อันจะสะสมและก่อตัวเป็นเชื้อโรคทำลายสุขภาพ
– ตรวจเช็คฉนวนหุ้มท่อแอร์ว่ามีจุดไหนรั่วหรือไม่ ถ้ามีก็รีบเปลี่ยนใหม่ทันที รวมถึงสภาพการใช้งานของอุปกรณ์ส่วนประกอบอื่นๆ อีกด้วย
ประโยชน์ของการล้างแอร์และการบำรุงรักษาแอร์เบื้องต้น
– ช่วยให้ประหยัดค่าไฟเพิ่มขึ้น 10-15%
– เป็นการยืดอายุการใช้งานแอร์ให้นานขึ้น
– ช่วยขจัดกลิ่นเหม็นอับ เชื้อโรคที่สะสมอยู่ในแอร์ให้สะอาดอยู่เสมอ
– ทำให้แอร์ทำความเย็นได้เร็วมากขึ้น
– ลดความถี่ในการล้างแอร์ลง
– ประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่ต้องกลัวว่าแอร์จะเสียง่าย
เพราะมลภาวะทางอากาศ อย่างเช่น ฝุ่นละออง ควันพิษ เพิ่มมากขึ้น อากาศก็ร้อนขึ้นทุกวัน เป็นเหตุให้แอร์ทำงานหนัก เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ไม่เป็นผลดีต่อทั้งคนและแอร์ การล้างแอร์เป็นประจำ และการดูแลรักษาแอร์ในเบื้องต้น ที่เรามีมาแนะนำกันนั้น เป็นวิธีการง่ายๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพียงแต่เราให้ความสำคัญ หมั่นเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานแอร์ให้นานขึ้น ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่งเสริมสุขภาพที่ดีรวมถึงสุขภาพของเงินในกระเป๋าด้วยนะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com