ข้าวโพด..อาหารดีมีประโยชน์
advertisement
“ข้าวโพด” ผลผลิตจากพืชไร่ที่มีการเพาะปลูกในบ้านเราอย่างแพร่หลาย ถือได้ว่าเป็นพืชทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของไทย เป็นสินค้าส่งออก ทั้งการบริโภค และการแปรรูป ข้าวโพดนั้นเราสามารถนำมารับประทานเป็นได้ทั้งอาหารและผลไม้ ข้าวโพดยังเป็นธัญพืช ที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน นอกจากจะมีฝักและเมล็ดที่มีรสชาติ หวาน อร่อย แล้วยังประกอบไปด้วยคุณค่าทางอาหารอีกมากมาย ที่ Kaijeaw.com ขอบอกเลยค่ะว่าคนรักสุขภาพ ห้ามพลาดค่ะ
สารอาหารที่สำคัญในข้าวโพด
1. คาร์โบไฮเดรต ข้าวโพดเป็นพืชที่ให้พลังงาน ในเนื้อในของเมล็ดข้าวโพดที่แก่จัด จะมีสารอาหารคาร์โบไฮเดรต ประมาณร้อยละ 72 จึงจัดเป็นอาหารจำพวกแป้งที่ให้พลังงาน คือ 1 กรัม ให้พลังงาน 4 แคลอรี่
2. ไขมัน เมล็ดข้าวโพดที่แก่จัดมีไขมันอยู่ประมาณร้อยละ 4 เมื่อนำข้าวโพดไปผลิตเป็นน้ำมันข้าวโพด ใช้ประกอบอาหารจะได้น้ำมันที่ประกอบไปด้วยกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเป็นส่วนใหญ่ โดยมีกรดไลโนเลอิก 50% และกรดโอเลอิก 37% ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้จะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย คือจะช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลให้เป็นปกติ
3. โปรตีน ข้าวโพดมีโปรตีนเป็นองค์ประกอบประมาณร้อยละ 4 โปรตีนถือว่าเป็นโปรตีนที่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะจากกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายคือไลซีนและทริบโตฟาน ควรรับประทานข้าวโพดร่วมกับถั่วเมล็ดต่างๆ
advertisement
4. วิตามิน ทุกสายพันธุ์ของข้าวโพดจะมีวิตามินซี แต่วิตามินเอ จะมีเฉพาะในสายพันธุ์ที่มีเมล็ดสีเหลืองเท่านั้น โดยวิตามินเอจะอยู่ในรูปเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ สารเบต้าแคโรทีนช่วยป้องกันตาเสื่อมสภาพ นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 อีกด้วย
5. เกลือแร่ ข้าวโพดมีส่วนประกอบเกลือแร่ที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็กแต่ก็มีในปริมาณน้อยมาก
6. เส้นใยอาหาร ที่ช่วยในการขับถ่าย ข้าวโพดจะมีเส้นใยอาหารทั้งชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ จึงนอกจากจะช่วยในการขับถ่ายแล้วยังช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ดีอีกด้วย [ads]
advertisement
ประโยชน์จากการรับประทานข้าวโพด
– ช่วยบำรุงสายตา เพราะในตัวข้าวโพดจะมีสารเบต้าแคโรทีน (β-carotene) หรือที่เรารู้กันว่าเป็น โปรวิตามินเอ ร่างกายเราจะนำไปใช้สร้างสารโรดอปซินนะครับ ช่วยให้ลดอัตราเสื่อมของลูกตาและป้องกันการเป็นโรคต้อกระจกตาด้วย
– โฟเลตซึ่งจะช่วย สร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอในการเสื่อมสภาพของร่างกาย และยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง [ads]
– บำรุงหัวใจ เพราะว่าข้าวโพดจะมีเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ผูกกับใยที่ละลายกับน้ำดีจากคอเลสเตอรอลในตับของเรา ซึ่งจะช่วยให้คอเลสเตอรอลในร่างกาย สลายไปได้ดีอีกด้วย แถมยังอุดมไปด้วยโฟเลต, วิตามินบีที่ช่วยในการลดระดับของ homocysteine, กรดอะมิโนสำคัญในกระบวนการเมตาบอลิซึ่ม ระดับสูงของ homocysteine สามารถทำลายเส้นเลือดที่นำไปสู่หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ลดความดันในร่างกาย
– ช่วยในการขับถ่าย ทั้งระบบของการย่อยอาหาร ป้องกันริดสีดวงทวาร จากโรคทางเดินอาหาร หรืออาหารท้องผูก จะทุเลาลง และช่วยระบบขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้น
– บำรุงผิวพรรณ สารต่อต้านอนุมูลอิสระในข้าวโพด นอกจากจะช่วยให้เราแข็งแรง ไม่ป่วยบ่อยๆ ยังทำให้ผิวพรรณของเราไม่เหี่ยวย่น เปล่งปลั่งดูสดชื่นมีชีวิตชีวาอยู่เสมออีกด้วย
advertisement
การรับประทานข้าวโพดให้เกิดประโยชน์
– สารต้านอนุมูลอิสระในข้าวโพด คือ กรดเฟอรูริก (กรดเฟอรูริกเป็นของดี นอกจากข้าวโพดแล้ว ยังมีในธัญพืชอื่นเช่น ข้าว ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต เมล็ดกาแฟ ถั่วลิสง แอปเปิล ส้ม อาติโช้คและสับปะรดด้วย) กรดชนิดนี้จะอยู่ตามผนังเซลล์ของข้าวโพด ในข้าวโพดดิบ กรดเฟอรูริกตัวต้านมะเร็ง จะไม่ค่อยออกมา แนะนำว่าควรนำไปทำให้สุกก่อนโดยการต้มหรือย่าง กรดเฟอรูริก จะออกมามากขึ้น เพราะผนังเซลล์ถูกความร้อนสลายไป จะช่วยปลดปล่อยกรดเฟอรูริกต้านมะเร็งออกมาได้เยอะขึ้น การต้มนานๆ มีข้อดี คือ ได้ปลดปล่อยสารต้านมะเร็งออกมามาก ทำให้แป้งที่ไม่ย่อย กลายเป็นแป้งที่ย่อยได้ดีขึ้น แต่ก็ควรระวังไม่ต้มนานจนเกินไปเพราะอาจทำให้ข้าวโพดเหลือแต่ไฟเบอร์ได้
– แนะนำว่าควรรับประทานข้าวโพดต่อวันเกินครึ่งฝักหรือ 1 ฝักเท่านั้น เพราะข้าวโพดนั้นให้พลังงานถึง 150 กิโลแคลอรี่ อาจจะทำให้เรากินเกินน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้
– ข้าวโพดที่กำลังงอก เหมือนมีต้นอ่อนอยู่ในเมล็ดข้าวโพด จะมีสารกาบ้าเหมือนข้าวกล้องงอก มีประโยชน์ต่อสมอง
– สีของข้าวโพดที่แตกต่างกันตามสายพันธุ์ก็มีส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น สีเหลือง สีเหลืองอ่อน สีม่วงดำ แนะนำว่าให้เลือกรับประทานข้าวโพดสีค่อนข้างเข้ม เช่น เหลืองเข้มจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ กลุ่ม “ลูทีน” และ “ซีแซนทีน” เยอะ ส่วนสีดำ หรือสีม่วงเข้ม เพราะจะมีสารโอพีซี เหมือนสารสกัดในเมล็ดอุง่น
advertisement
ข้าวโพดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับ
– วัยเด็ก เพราะจะช่วยสร้างเซลล์ประสาทที่จอ ตา
– คนที่ใช้สายตาเยอะ นั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ หรือโดนแดด ควัน และฝุ่นเยอะ จอประสาทตาอาจจะเสื่อมง่าย
– ในคนเป็นมะเร็ง หรือเป็นโรคอัลไซเมอร์ ก็ควรรับประทาน เพราะจะมีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ
ส่วนคนที่ไม่ควรรับประทานข้าวโพด คือ ผู้สูงอายุที่มีปัญหาท้องอืดบ่อย หรือว่าลำไส้ย่อยยาก รวมทั้งคนที่เพิ่งผ่าตัดช่องท้องมาใหม่ๆ เพราะจะทำให้ท้องอืดได้ง่าย
ข้าวโพด มักจะเป็นผักผลไม้ชนิดหนึ่ง ที่เรามักจะมองข้ามกันอยู่เสมอๆ นะคะ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นผักที่เราคุ้นเคย เห็นได้ทั่วๆ ไป ต่างจากผักอื่นๆ โดยเฉพาะผักจากนอก แต่เมื่อได้รู้คุณประโยชน์แบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมหามารับประทานกันบ่อยๆ นะคะ รับประทานข้าวโพดได้ทุกสี รวมถึงข้าวโพดอ่อนด้วย หาได้ง่ายๆ ในตลาดบ้านเรา แถมราคาก็ประหยัดอีกด้วย
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com