เป็นเรื่องราวที่กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก เมื่อ แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้ออกมาพูดถึงประเด็นเรื่อง ปีชง ที่เจ้าตัวออกมาไลฟ์สดพูดถึงเรื่องนี้อย่างดุเดือด

โดยแพรรี่ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวกว่า 4 นาที ตอบคำถามที่ว่า “แพรรี่เชื่อเรื่องปีชงไหม” โดยแพรรี่ตั้งคำถามกลับไปว่าใช้ชีวิตมาไม่เคยเกิดปัญหาเลยหรือ ชีวิตดีมากจนทำอะไรก็ดีหมดมีจริงหรือ แน่นอนว่าไม่มี จะปีชงหรือไม่ชง ชีวิตทุกคนย่อมมีปัญหาทั้งสิ้น พร้อมระบุว่า

“ปีชงมีไว้สำหรับหลอกคนโง่ค่ะ เพราะมันขายของได้ ปีชงตามมาด้วยทำพิธีกรรม ทุกอย่างแก้ได้ด้วยการเสียเงิน ที่บอกว่ามีเคราะห์ ปีนี้ปีชง เดี๋ยวจะให้วิธีแก้ชง แต่วิธีแก้ชงก็คือการเสียเงินแน่นอน”

แพรรี่ยังได้ชวนให้คนดูหยุดคิดและใช้สติปัญญา ว่าการเป็นปีชงของแต่ละคน มักจะตามมาด้วยความไม่สบายใจ จากนั้นก็จะตามมาด้วยการทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ชง

“เพราะคิดว่าถ้าไปทำพิธี สิ่งที่ไม่ดีหรือสิ่งที่ชงจะไม่เกิด เสียเงินแน่นอน มากน้อยก็ต้องเสีย แล้วจะไปเชื่อทำไม ความเชื่อที่ทำให้เราต้องเสียเงินเสียทอง ความเชื่อที่เชื่อแล้วทำให้เราไม่สบายใจ เราจะไปเชื่อทำไม มันไม่เกี่ยว”

บางช่วงบางตอนของคลิปวิดีโอดังกล่าว แพรรี่ยังกล่าวถึงกลุ่มคนที่หากินกับความเชื่อของคน ระบุว่าอย่างไรก็ต้องเจอตน แพรรี่จะล้ำเส้นไปหาคนที่ชอบหากินกับความเชื่อของคนอื่น

“หลอกเขาได้ก็หลอกไป แต่เจอคนแบบกูแน่นอน พวกหากินกับความเชื่อคน บอกว่าอย่าไปล้ำเส้นอาชีพคนอื่น ทำไมไม่ประกอบสัมมาอาชีพล่ะ อาชีพมีเยอะแยะ มีมือมีเท้าก็ไปทำสิ มาหลอกหากินกับความเชื่อคน”

นอกจากนี้ แพรรี่ยังกล่าวถึงวัดต่างๆ รวมไปถึงการปฏิบัติของพระสงฆ์ ที่ทำพิธีแก้ชงแก้ราหู​ โดยกล่าวถึงการจัดพิธีประกอบราหูไหว้ของดำ ซึ่งของเหล่านี้ไม่มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกของพระพุทธเจ้าสักเล่ม สุดท้ายแพรรี่ยังระบุว่า ตัวเองมีหน้าที่ให้สติคน ไม่ได้ไปล้ำเส้นความเชื่อของคนอื่น

อย่างไรก็ตาม หลังคลิปวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นไวรัล แพรรี่ก็ได้โพสต์รูปภาพข้อความ ระบุว่า “รถทัวร์จะลงหรือยังคะ จะตั้งแผงขายปลาแล้วนะ”

ความเชื่อเรื่อง “ปีชง” มีรากฐานจากความเชื่อพื้นบ้านของชาวจีน เป็นการผสมผสานของความเชื่อขงจื้อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภูตผีปีศาจ สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติที่อยู่ในสังคมจีนโบราณ รวมถึงมีรากฐานจากลัทธิเต๋าที่เชื่อเรื่องดวงชะตา แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา

>>คลิป<<

ความเชื่อเรื่องปีชงเข้าสู่ประเทศไทยพร้อมๆ กับการอพยพเข้ามาของคนจีน และค่อยๆ ทวีความเข้มข้นมากขึ้น จากนั้นจึงหลอมรวมเข้ากับวัฒนธรรมไทย ทั้งนี้ อีกส่วนหนึ่งของความเชื่อเรื่องปีชงก็เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับประเด็นเรื่องโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างปฏิเสธไม่ได้

ขอขอบคุณที่มาจาก : ไพรวัลย์ วรรณบุตร