แม่เรียกสินสอดจากแฟนฝรั่ง รู้เรื่องราวแล้วชาวเน็ตคอมเมนต์เสียงแตก
advertisement
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่เรียกได้ว่าหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างมากมาย เมื่อคุณ สมาชิกหมายเลข 5043951 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาตั้งกระทู้เล่าเรื่องราว ระบุว่า “แม่เรียกสินสอดจากแฟนฝรั่ง”
advertisement
สวัสดีค่ะ เรารู้ว่ากระทู้เรื่องสินสอดมีเยอะมาก แต่ก็ยังอยากฟังความเห็นของเพื่อนๆ หลายๆ คน เข้าเรื่องเลยนะคะ แฟนเราก็เป็น ผช อเมริกันทั่วไปที่ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน พอมีเงินเก็บบ้าง มีหนี้สินเล็กน้อย ส่วนตัวเรามาที่เมกาด้วยวีซ่านักเรียนต้องส่งเสียตัวเองเรียน ค่าเทอมของ International student ก็แสนจะแพง เราก็ไม่ค่อยมีเงินเก็บเหมือนกันค่ะ ที่ผ่านมาแฟนก็ช่วยเหลือตลอดแต่ไม่ใช่ช่วยเหลือเรื่องเงินนะคะ เพราะเราดูแลตัวเองได้ แต่จะไปช่วยเรื่องบ้านที่ให้เราไปอยู่ด้วย หรืออะไรที่เขาพอจะช่วยได้ แฟนเราไม่ใช่สายเปย์ค่ะแต่แฟนเราหารายได้มากกว่าเราเค้าก็เลยออกซะส่วนมากเวลาไปเที่ยวหรือไปกินข้าว
advertisement
และเราพึ่งจะแต่งงานได้ 2 เดือนค่ะ แม่เราถามว่าจะกลับไทยเมื่อไหร่ เราก็ยังไม่มั่นใจเพราะต้องรอกรีนการ์ดก่อน แม่เราก็เลยพูดขึ้นมาว่าเค้าอยากได้สินสอด ถ้ากลับไทยไปต้องมีให้แม่นะ ส่วนตัวเราคิดว่า เรื่องสินสอดมันไร้สาระมาก แฟนเราเค้าดูแลเราดีมากๆ ตอนแต่งงานก็จ่ายค่าแต่งงาน ค่าทนายทำเรื่องกรีนการ์ดหลายแสนบาท เค้าก็ช่วยเราออกเยอะมาก เรารู้สึกว่าสินสอดมันไม่จำเป็นเลย เราดีใจมากแล้วที่เค้าช่วยเหลือเรามากขนาดนี้
advertisement
อีกอย่างหนึ่งถึงเราจะไม่ค่อยมีเงินเก็บ เราก็ส่งเงินให้แม่ทุกๆ ปีค่ะเราพอจะมีรายได้บ้างเล็กน้อยเราก็ส่งให้แม่ ให้เค้าพอได้เอาไปอวดป้าข้างบ้าน จริงๆ แล้วแม่เราไม่มีหนี้ ไม่มีภาระอะไรเลยค่ะ งานกิจการที่บ้านก็ดีไม่ลำบาก เผลอๆ แม่มีเงินเยอะกว่าเราซะอีก
ครอบครัวเราเลี้ยงเรามาอย่างดีค่ะ เราไม่เคยต้องลำบาก ให้เราได้เรียนที่ดี มีชีวิตที่ดี เราสำนึกในบุญคุณนี้มาก เราก็เลยส่งเงินให้เค้าเท่าที่เราไหว แต่เราแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงอยากได้สินสอดขนาดนั้น อีกอย่างหนึ่งเรากับแฟนตั้งใจจะเปิดธุรกิจร้านอาหาร american breakfast เล็กๆ ด้วยกัน แต่ถ้าเราเอาเงินให้แม่ค่าสินสอด เราก็จะยังไม่มีเงินไปซื้อร้านอาหารที่เราต้องการ ในส่วนตัวของเรา เราแค่อยากตั้งตัวให้ได้ก่อนกับชีวิตแต่งงานของเราค่ะถ้าเรามีเงินเหลือเยอะๆ เราก็จะให้แม่แน่นอน แต่ตอนนี้เรายังไม่มีอะไรเลยแม่เรายังจะมาเก็บค่าสินสอดอีก เราคิดว่าเราจะเอาเงินเราให้แม่ เพราะไม่อยากเดือดร้อนแฟนแล้ว เพื่อนๆ มีวิธีการคุยกับแม่ยังไงหรือความเห็นว่ายังไงคะ
เพิ่มเติมนะคะ เราคิดว่าแม่เราไม่คืนแน่ๆ แล้วสมมติถ้าแม่เรียกล้านหนึ่ง แล้วเราบอกแม่ว่า สามีจ่ายค่าทำเรื่องกรีนการ์ดกับค่าแต่งงานไปแล้ว ถ้ามาหักลบกันหนูให้แม่ 3 แสน จะดูน้อยไปมั้ยคะ
advertisement
“จากกระทู้นี้นะ พ่อแม่จขกท.ไม่ใช่ลักษณะขายลูกกิน กลับไปคุยกับแม่ก่อน ว่าอะไร ยังไง… แฟนทำงานอะไร ฐานะแค่ไหน ช่วยอะไรมาบ้าง เงินสองคนต้องเก็บไว้ทำอะไรบ้าง… บางทีแม่ก็นึกอยากได้สินสอดแค่เพราะป้าข้างบ้านถามมา”
advertisement
“ยอมรับเถอะว่าการขายลูกสาวกินในยุคสมัยนี้มันยังหลงเหลืออยู่ บางทีลูกสาวก็ไม่ได้ ดีเลิศประเสริฐศรี อยู่หอกับผัวมาตั้งแต่เรียน เรียนจบมาก็โหวงหมดแล้ว สุดท้ายคนสุดท้ายก็ต้องล้างชามแถมเสียค่าล้างชามอีก ด้วยข้ออ้างที่ว่าค่าน้ำนมเลี้ยงผู้หญิงมา จวย ผู้ชายเขาพ่อแม่เลี้ยงมาด้วยดินด้วยทรายมั้ง”
advertisement
“ก็ต้องอธิบายให้เข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย แฟนฝรั่งก็ต้องให้รู้ว่าธรรมเนียมไทยต้องมีสินสอดนะ ปกติจะเรียกให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ดูว่าลูกสาวที่เขาจะเอาไปเป็นเมียมีคุณค่าที่ตีเป็นมูลค่า แต่ตัวเราไม่ได้สนใจสิ่งนี้ และครอบครัวเรา(อาจ)ก็ไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไรมากมาย แต่จริงๆ ก็คือของมันต้องมีให้บ้าง ส่วนทางครอบครัว ก็ต้องบอกให้เข้าใจ ว่าฝรั่งเขารู้ แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ พ่อแม่จะเรียกเท่านั้นเท่านี้คงไม่ได้ เดี๋ยวเราจะลองคุยดูว่าจะได้เท่าไหร่ คือตัวเราเป็นคนกลาง เป็นคนที่รู้ดีที่สุด ว่าพ่อแม่เป็นไง ฝั่งแฟนเป็นไง ก็แค่คิดคำพูดให้เหมาะสมที่สุด”
advertisement
“คนมีพ่อแม่ก็ต้องคิดถึงจุดนี้กันทั้งนั้น ถึงมันจะไม่มากไม่มาย แต่มันก็คือการตอบแทนบุญคุณ อย่าไปคิดแทนผู้ชาย คนเราเลิกกันไปก็เป็นคนอื่นแต่พ่อแม่เลี้ยงคุณมาอย่างดี ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่ต้องกลับไทย ตั้งตัวได้ก็กลับไปบอกว่าตอนนี้ติดทำเรื่องกรีนการ์ดอยู่ อย่างน้อยก็เป็นการบอกปัดแบบไม่ทำร้ายน้ำใจคนเป็นแม่ อย่าออกตัวแทนผู้ชาย บอกเค้าไปตามตรงว่าไทยมีธรรมเนียมแบบนี้ แต่ฉันก็ไม่เอาเปรียบคุณเราค่อยๆหาด้วยกัน ถ้าทุกอย่างลงตัว และพร้อมแล้วเรากลับไปพบครอบครัวฉัน ทำให้ถูกต้องตามธรรมเนียมไทย….”
ทั้งนี้จากในกระทู้ดังกล่าวก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บางส่วนก็บอกว่าตามธรรมเนียมไทย การมอบสินสอดก็ถือว่าเป็นประเพณีที่ยังควรมีและให้พ่อแม่ตามความเหมาะสม แต่บางส่วนก็มองว่าเรื่องนี้ควรคุยกับพ่อแม่ อยู่ที่การตกลงและให้เกียรติกันมากกว่า
ขอขอบคุณที่มาจาก : สมาชิกหมายเลข 5043951