ฮุน เซน โพสต์ไม่ง้อไทยเปิดด่าน จะปิดอีก 100 ปี หรือ 500 ปี เขมรก็ไม่เดือดร้อน
advertisement
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวร้อนแรงอีกรอบ หลังจากที่ สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า นับตั้งแต่มีการลงนามแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยสันติภาพระหว่างกัมพูชา-ไทย ระหว่างนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายกรัฐมนตรีไทย ภายใต้การอำนวยความสะดวกของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน และประธานาธิบดีสันติภาพแห่งสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์
advertisement
เราสังเกตเห็นว่า มีความคืบหน้าที่เด่นชัดอย่างมาก นับตั้งแต่การประชุม JBC (คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม) และ RBC (คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค) ไปจนถึงการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่พิพาทในขั้นแรก ภายใต้การตรวจสอบและรับรอง ของทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) นี่คือเส้นทางที่มุ่งไปสู่การยุติหรือลดความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งเราทุกคนควรยินดีด้วย
แม้จะรู้สึกยินดี แต่ผมก็มีความจำเป็นที่จะต้องแจ้งให้ประชาชนชาวกัมพูชาทราบ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเปิดจุดผ่านแดนกัมพูชา-ไทยอีกครั้ง เพราะในช่วงหลังมานี้ ผู้นำไทยบางส่วนได้หยิบยกเรื่องการเปิดจุดผ่านแดนกลับมาพูดถึงอย่างมาก ซึ่งอาจกลายเป็นหัวข้อสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในประเทศไทย
การที่ผู้นำไทย รวมถึงนายกรัฐมนตรีไทย พูดถึงเรื่องการเปิดจุดผ่านแดนบ่อยครั้งเช่นนี้ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนชาวกัมพูชาหรือประชาชนชาวไทยว่า ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ไปร้องขอให้ฝ่ายไทยเปิดด่านกลับมา ผมไม่ต้องการให้ประชาชนชาวกัมพูชาต้องนอนหลับไปพร้อมกับความเข้าใจผิดนั้น
advertisement
สำหรับประชาชนชาวไทยนั้น เป็นเรื่องภายในของไทยที่อาจถูกหลอกล่อเพื่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง โดยที่การเปิดจุดผ่านแดนกลายเป็นหัวข้อหาเสียงด้วยเช่นกัน สำหรับประชาชนชาวกัมพูชา ผมขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า นับตั้งแต่ที่ฝ่ายไทยปิดจุดผ่านแดนฝ่ายเดียว กัมพูชาไม่เคยไปขอให้ไทยเปิดด่านกลับมา
ไทยจะปิดต่อไปอีก 100 ปี หรือ 500 ปี ก็เป็นเรื่องของไทย เพราะกุญแจอยู่ในมือของไทย การปิดที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้กัมพูชาล่มสลาย แต่ตรงกันข้ามกลับทำให้สินค้าภายในประเทศเข้ามาแทนที่สินค้าไทย ซึ่งเป็นโอกาสในการส่งเสริมให้การผลิตในประเทศเติบโตขึ้น
advertisement
ผมได้บอกกับคณะผู้แทนมิตรประเทศว่า การที่ไทยปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชานั้น ไม่ใช่แค่การตัดขาดความเชื่อมโยงระหว่างกัมพูชา-ไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการตัดขาดความเชื่อมโยงของอาเซียนและเอเชียด้วย แล้วถนนหลวงอาเซียน (ASEAN highway) , ทางรถไฟอาเซียน และถนนหลวงเอเชียจะไปอยู่ที่ใด?
advertisement
หวังว่าสารนี้จะไปถึงผู้นำไทย และประชาชนชาวไทย ว่า กัมพูชาไม่ได้ร้องขอให้ไทยเปิดจุดผ่านแดนกลับมา และหวังว่าประชาชนชาวกัมพูชาจะไม่เข้าใจผิดว่า ผู้นำกัมพูชาทำตัวต่ำต้อยไปขอให้ไทยเปิดจุดผ่านแดนกลับมาเช่นกัน