สาวลดน้ำหนัก ด้วยการทานแค่เนื้อสัตว์กับนมนาน 6 ปี ผลที่ได้แทบไม่น่าเชื่อ

  เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่หลายคนอาจจะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการทานแค่เนื้อสัตว์และนมนั้นจะสามารถช่วยให้น้ำหนักลด และสุขภาพดีขึ้นได้ โดยล่าสุดที่หญิงสาวชาว สหรัฐรายหนึ่ง วัย 28 ปี เลิกทานมังสวิรัติ หันมาทานแต่เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เท่านั้น ไม่แตะต้องผลไม้ ผัก หรือคาร์โบไฮเดรตใดๆ ตลอกระยะเวลา 6 ปี อ้างช่วยรักษาปัญหาสุขภาพ และทำให้น้ำหนักเธอลดลงกว่า 11 กก

อิซาเบลลา หรือ ‘เบลลา’ หม่า วัย 28 ปี เผยว่า ก่อนหน้านี้เธอเป็นมังสวิรัติ แต่ปัจจุบันเธอหันมาทานอาหารแบบสุดโต่ง ทานแต่เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เลี่ยงผัก ผลไม้ อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตอย่างสิ้นเชิง มาเป็นเวลากว่า 6 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม การทานอาหารแบบสุดโต่งของเธอนี้ เป็นที่ถกเถียงมาตลอด เธออ้างว่า “การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนทั้งหมด” นี้ ทำให้อาการปวดประจำเดือนของเธอไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ปัญหาผิวหนัง อย่าง สิว กลาก และโรคสะเก็ดเงินที่เธอเคยเป็นก็หายไปอีกด้วย รวมถึงการทานอาหารประเภทดังกล่าวยังช่วยยังระงับกลิ่นกายได้เช่นกัน

คลิปวิดีโอหนึ่งที่เธอโพสต์ผ่านอินสตราแกรมที่มีผู้ติดตามกว่า 4.26 แสนคน เผยให้เห็น เบลลาทานไก่ย่างทั้งตัว พร้อมบอกว่า “ฉันจะไม่ตายจากพลังงานต่ำหรือทำลายฮอร์โมนของฉัน อันที่จริง ฉันลดน้ำหนักได้ 11 กก. และตอนนี้ก็ไม่ปวดประจำเดือนแล้วด้วย และฉันรู้สึกสดชื่นขึ้น มีสุขภาพดี”

ในด้านอารมณ์ เธอกล่าวว่า เธอควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะตอนนี้ร่างกายของเธอใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงาน เธออ้างว่า เธอเคยกินเนยหนึ่งแท่งทุกวันเป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งกระตุ้นความต้องการทางเพศของเธอ และทำให้หน้าอกของเธอบวมขึ้น

ขณะที่ สื่อต่างประเทศ ระบุว่า การเลือกทานอาหารของเบลลาขัดแย้งกับคำแนะนำของ สำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติอังกฤษ (NHS) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ที่แนะนำให้ประชาชนเลือกทานอาหารที่สมดุล อุดมแด้วยสารอาหารครบถ้วน

ซึ่งทางนักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า การบริโภคเนื้อแดงในปริมาณมากเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพหลายประการ รวมถึงโรคหัวใจและมะเร็ง

 ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เผยผลวิจัย ปี 2023 จากการสำรวจติดตามผลเกือบ 40 ปีของผู้บริโภคมากกว่า 200,000 คน พบงว่า ผู้ที่บริโภคเนื้อแดงในปริมาณมาก มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งสูงกว่า ผู้ที่บริโภคเนื้อแดงในปริมาณเล็กน้อยถึงร้อยละ 62 ของผู้บริโภคทั้งหมด

ขอขอบคุณที่มาจาก : ข่าวสด