พ่อค้าเล้งแซ่บ หอบความหวังไปกับงานบิ๊กเมาน์เท่น สุดท้ายขาดทุนยับ

  สำหรับงานเทศกาลดนตรี ที่หลายคนคิดว่าเป็นงานให้คนได้ร่วมสนุกและมีความสุขมากๆ ซึ่งมีการจัดแสดงคอนเสิร์ต มีนักร้องมากมายหลายเวทีและมีคนที่มาร่วมงานกันอย่างมากมาย โดยล่าสุดบัญชีผู้ใช้ชื่อ เสี่ยต้น คนเดิม ได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวหลังจากที่ได้ไปขายอาหารภายในงาน

โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า “จบงาน จบชีวิต ไปกับบิ๊กเมาท์เท่น 12 ประสบการณ์นี้จำสุดชีวิต ค่าลงทุน สองแสน เผลอๆ เกินอีก เงินลงทุน ก็ต้องไปกู้มา เพราะคำการันตีจากผู้จัดงาน กับคำว่าต้องเตรียมสินค้าไว้วันละ 2500เสิร์ฟนะคะ ตาลุกดิงานนี้ได้ขายยอดเป็นแสนแน่นอน วันเปิดขายวันแรก เชี้ยมาก มองดูแล้วว่ามันไม่ใช่งานมหกรรมคอนเสิร์ต

แต่ มันคืองานเดินทางไกลแห่งชาติ งานแฟชั่นแห่งยุค และงานแข่งเยี่ยวนานาชาติ เละเทะม๊ากกก การจัดการระบบน้ำ น้ำแข็ง ห้องน้ำ ที่นั่งลูกค้าความสะดวกของร้านค้ากับค่าที่5หมื่นไม่มี สรุปเลย!!! เจ๊งเยสเข้ ขาดทุนหย่อยยับ กับงานขายฝัน เข็ดแล้ว งานเดินสาย ตอนนี้สงสารเมียมาก นางยิ้มกลบเกลื่อนความเศร้า ไหนจะเจ๋ง ไหนจะใช้หนี้ ไหนเงินที่เก็บ สูญเปล่ากับคำว่าการันตี เห้อ!!! “โปรดยืนไว้อาลัยพ่อค้าแม่ค้าที่เหมือนกับ1นาที””

“การศึกษาก่อนการเปิดธุรกิจจึงสำคัญมากค่ะ ฐานลูกค้า ความชอบ ลักษณะงาน สถานที่ คู่แข่ง เราควรศึกษาก่อนการลงทุนนะคะ เป็นกำลังใจให้เป็นบทเรียนต่อไปค่ะ”

“อันนี้พูดตรงๆนะครับ ผมไปงานแบบนี้ผมไม่กินอะไรแบบนี้แน่ มันกินยากอยากได้ง่ายๆ เช่นข้าวไข่เจียวหรือลูกชิ้นง่ายๆครับ ถ้ากินเล้งผมสู้ไปกลับจากงานไปนั่งกินที่ร้านไม่ดีกว่าเหรอ”

“ถ้าคุณขายกะเพรา ไข่เจียว เชื่อว่าเงินจะดีกว่า ดันขายของยากและไม่เข้ากับบรรยากาศ ,คือจมทุน เวลาลงทุน ต้องดูและมองรอบตัวว่ามันเป็นยังไงครับ”

“ซื้อประสบการณ์ เอาตรงๆทางนั้นก็แค่เหมือนมาหาเหยื่อรายใหม่ไปทดแทนร้านที่หายไป งานแบบนี้ต้องเน้นอาหารกินง่ายกินสะดวก”

ซึ่งจากโพสต์นี้หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ทั้งบอกว่าเป็นเพราะการขายเล้งนั้นไม่เหมาะที่จะเป็นอาหารในงานแบบนี้เพราะไม่มีที่ให้นั่งกิน ร้อนและถือยาก หากขายเป็นอาหารทานง่ายๆอย่างข้าวไข่เจียว น่าจะขายดีกว่า

ขอขอบคุณที่มาจาก : เสี่ยต้น คนเดิม