สั่งหยุดขายมือถือ OPPO-realme ที่มีแอปเงินกู้ เช็กวิธีลบแอป
advertisement
‘กสทช.-สคส.’ สั่งหยุดขายมือถือ OPPO-realme ที่มีแอพพ์ปล่อยกู้ เดดไลน์ 2 บริษัทชี้แจงภายใน 16 ม.ค.
เมื่อวันที่ 13 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน กสทช.เชิญ 2 บริษัท คือ บริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ OPPO และ บริษัท โปรทา จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ realme เข้าชี้แจงกรณีผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนแบรนด์ OPPO และ realme พบการติดตั้งแอพพลิเคชั่น สินเชื่อความสุข หรือ Fineasy โดยไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ใช้งาน ไม่สามารถควบคุม ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว และลบออกจากอุปกรณ์ได้
advertisement
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) สั่งการให้ทั้ง 2 บริษัทระงับการจำหน่ายโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นสินเชื่อและแอพพลิเคชั่นอื่นที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่แจ้งหรือขอความยินยอมจากผู้ใช้งาน เพราะเข้าข่ายความผิดฐานละเมิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากยังพบการจำหน่ายโทรศัพท์เหล่านี้ อาจถูกปรับสูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อกรณี
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ผู้ผลิตปรับปรุงระบบอัพเดตซอฟต์แวร์ เพื่อเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถลบแอพพลิเคชั่นดังกล่าวออกจากเครื่องได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ศูนย์บริการ
จากข้อมูลพบว่า การละเมิดดังกล่าวครอบคลุมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2566 โดยแอพพลิเคชั่นที่เป็นปัญหาได้ถูกติดตั้งมากับเครื่องตั้งแต่โรงงาน ขณะที่โทรศัพท์รุ่นเก่าอาจได้รับการติดตั้งผ่านการอัพเดตซอฟต์แวร์ (OTA : Over-The-Air) โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ ดังนั้น สคส.จึงกำหนดให้ 2 บริษัท ทำรายงานรายละเอียด ได้แก่
advertisement
1.ขอสัญญาการแต่งตั้งตัวแทนของไทย ตามมาตรา 37(5)
2.พิจารณามาตรการทางกฎหมายติดตั้งแอพพลิเคชั่นตามมาตรา 23 พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
3.ข้อมูลไม่ได้รับความยินยอมเปิดช่องทางให้ลบได้อย่างไร
4.เครื่องใหม่ต้องไม่มีแอพพลิเคชั่นอยู่ในเครื่อง
และ 5.ใครเป็นผู้รับเงินกู้ แหล่งทุน โดยชี้แจงกลับมายัง สคส.ภายใน 3 วัน หรือวันที่ 16 ม.ค.68 หากไม่ดำเนินการจะเป็นกรณีที่ฝ่าฝืนมาตรา 83 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ระวางโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท
advertisement
การลบแอพพลิเคชั่นที่เป็นปัญหานี้ จะดำเนินการใน 2 แนวทาง คือ
1.ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตซอฟต์แวร์ด้วยตนเองผ่าน OTA ซึ่งจะมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้สามารถถอนการติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่ละเมิดได้อย่างสมบูรณ์
2.สำหรับผู้ที่ไม่สามารถอัพเดตผ่าน OTA ได้ จะมีช่องทางพิเศษในการให้บริการลบแอพพลิเคชั่นที่ศูนย์บริการ โดย สคส.ได้สั่งให้บริษัทจัดเตรียมขั้นตอนที่ชัดเจนและต้องดำเนินการเสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน
ส่วนปัญหาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภคบางราย เช่น การที่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานถูกนำไปใช้โฆษณาสินเชื่อ โดยไม่ได้รับความยินยอม หรือการได้รับสินเชื่อที่ไม่ได้ตั้งใจใช้ ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาทางการเงิน โดยมีรายงานว่า ผู้ใช้งานบางรายตั้งใจขอสินเชื่อเพียง 50,000 บาท แต่กลับกลายเป็นหนี้สะสมสูงถึง 700,000 บาท สคส.ยืนยันว่าผู้เสียหายสามารถยื่นร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ของ สคส. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบและเยียวยาได้ทันที
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) กล่าวว่า ทั้ง 2 บริษัทจะต้องแต่งตั้งตัวแทนในประเทศไทย เพื่อรับผิดชอบต่อการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยตัวแทนต้องมีอำนาจเต็มและรับผิดชอบไม่จำกัดกรณี หากไม่ดำเนินการแต่งตั้งตัวแทนจะถูกปรับตามกฎหมาย และหากเกิดการฝ่าฝืนหรือการละเมิด ข้อมูลส่วนบุคคลอีกในอนาคตอาจมีโทษทั้งทางแพ่ง อาญา และปกครอง
advertisement
“การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะนี้เป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและจะเร่งดำเนินการอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป” พ.ต.อ.สุรพงศ์กล่าว
ขอขอบคุณที่มาจาก : matichon.co.th