สรุปดราม่าจดทะเบียน ปังชา สงวนสิทธิ์ห้ามเลียนแบบ เจอเรียก 102 ล้านบาท
advertisement
จากกรณีที่มีร้านอาหารชื่อดังซึ่งมีเมนูฮิตอย่าง ปังชา ออกมาโพสต์รูปเมนูดังกล่าว พร้อมข้อความว่า จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ปังชา ได้รับความคุ้มครองเครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ และสิทธิบัตร สงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ภายหลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ไป ปรากฏว่ากลายเป็นประเด็นที่ผู้คนให้ความสนใจ ซึ่งหลายคนก็เกิดความสงสัยว่าหากร้านอื่นที่ขายเมนูคล้ายกันจะไม่สามารถใช้ชื่อ ปังชา หรือทำเมนู ปังชา ขายเองได้เลยหรือไม่ ทั้งที่ของหวานลักษณะนี้ก็ดูจะไม่ใช่อะไรที่ไกลตัวคนไทยแต่อย่างใด
advertisement
ซึ่งทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา ระบุถึงกรณีปังชาร้านลูกไก่ทองว่า ได้จดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไว้ ดังนั้นเมนูน้ำแข็งไสราดชาไทย ใครก็ขายได้ แต่อย่านำลวดลายหรือแบบภาชนะ ที่มีการจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไว้ไปใช้ และไม่ควรใช้รูปแบบฟอนต์ที่ชวนให้นึกถึงแบรนด์นั้น ๆ
advertisement
ที่ผ่านมาจากกระแสที่เกิดขึ้น ทางร้านลูกไก่ทองและปังชา มิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด แต่ได้มีการสอบถามและหาปรึกษาแนวทางร่วมกัน ชี้แจงกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงออกมาชี้แจง ณ ที่นี้พร้อมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา”
advertisement
ขณะที่เฟซบุ๊ก หมายจับกับบรรจง ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า “โดนทนายส่งโนติส เรียก 102 ล้านบาท ! มีน้องคนหนึ่งชื่อ “นิว” เปิดร้านขายขนมปังปิ้ง-ชา เครื่องดื่มอยู่ที่เชียงราย ปัจจุบันมี 2 ร้าน ร้านแรกอยู่ในฟู้ดคอร์ต ในห้างเซ็นทรัลเชียงราย ก็ร้านเล็ก ๆ ร้านสองอยู่ในตัวเมืองเชียงราย ร้านริมถนน มีประมาณ 30 โต๊ะ เปิดมาตั้งแต่ปี 2564 ใช้ชื่อร้านที่มีคำว่า “ปังชา”
advertisement
ล่าสุดมีบริษัทในกรุงเทพฯ ที่เพิ่งไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อน ให้ทนายความส่งโนติสมา เรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท ถ้าไม่จ่ายมีบวกค่าปรับอีกวันละ 1 หมื่นบาท ต่อ 1 ร้าน น้องบอกว่าโลโก้ร้านผมก็ไม่เหมือนกับของบริษัทดังกล่าว และไม่มีเจตนาที่จะไปลอกเลียนแบบใด ๆ
advertisement
นอกจากร้านของ “นิว” แล้ว เห็นว่ามีร้านคนอื่น ๆ อีกที่โดนโนติสส่งไปเรียกค่าเสียหาย เพราะมีชื่อร้านคำว่า “ปังชา” ตอนนี้เครียดเลย บอกว่าไปปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินฯ ก็ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน เลยอยากให้คนที่รู้กฎหมายแม่น ๆ แนะนำหน่อย ถ้าต้องจ่ายเป็นร้อยล้านขนาดนี้ ผมจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายให้เขา…? น้องนิวทิ้งท้าย..”
advertisement
ซึ่งจากเรื่องราวทั้งหมดถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากมาย ยังไงก็รอติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นยังไงต่อไป
ขอขอบคุณที่มาจาก : Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant