สาวถูกงูกัดที่ห้างดัง ต้องนอนโรงพยาบาล ซ้ำโดนปัดรับผิดชอบ

            จากกรณีสาวร้องทุกข์ ถูกงูเขียวหางไหม้กัดที่ห้างดังทำต้องเข้าโรงพยาบาล ซ้ำห้างปัดรับผิดชอบ ชี้ไม่ใช่เจ้าของงู ยินดีให้แจ้งความหรือโพสต์แฉได้เลย 

ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เตือนภัยไปเดินห้างดังย่านบางแค เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา กำลังเดินจากที่จอดรถชั้น 2 เข้าตัวห้าง แต่โดนงูเขียวหางไหม้ฉกเท้า ยอมรับว่าตกใจมากเพราะไม่คิดว่าในห้างจะมีงู หลังโดนฉก ได้ตีงูจนตายและนำไปที่โรงพยาบาลด้วย

หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ห้างเข้ามาถามว่าเธอมีสิทธิ์รักษาพยาบาลที่ไหน หลังจากนั้นทางห้างนำรถไปส่งที่โรงพยาบาลแบบไม่ค่อยเร่งรีบ ไม่มีการเปิดสัญญาณไฟขอทาง เธอจึงเริ่มกังวลว่าหากช้าแบบนี้พิษงูอาจจะเข้าสู่ระบบเลือด หรือเข้าสู่หัวใจได้ หลังจากส่งเธอที่โรงพยาบาลแล้วทางเจ้าหน้าที่ห้างก็เดินทางกลับไปทันที

เมื่อเข้ารักษาตัว หมอบอกว่าเธอต้องอยู่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการเนื่องจากพิษของงู 2-3 วัน ตอนนั้นขาบวมมาก เกล็ดเลือดลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะพิษงู ต้องวัดความดันทุกชั่วโมง เพราะความดันอาจตกและหยุดหายใจ ซึ่งระหว่างโพสต์ก็ยังรอผลตรวจเลือดรอบสามอยู่

ระหว่างที่นอนอยู่โรงพยาบาล เธอสอบถามถึงความรับผิดชอบที่ห้างควรดูแลให้กับลูกค้า แต่ทางห้างแค่ถามว่าอาการเธอเป็นอย่างไร ออกจากโรงพยาบาลหรือยัง แต่ปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยให้เหตุผลว่าไม่ใช่เจ้าของงู ห้างไม่ได้เลี้ยงไว้ ยอมรับว่าผิดหวังมาก ไม่คิดว่าจะได้ยินเหตุผลแบบนี้ พร้อมกับคาใจว่าปกติแล้วห้างต้องมีมาตรการความปลอดภัยดูแลลูกค้า ไม่ใช่มาอ้างว่าไม่ใช่งูของห้างแบบนี้

เธอบอกกับเจ้าหน้าที่ห้างว่า เธอต้องโพสต์ลงโซเซียลจึงจะรับผิดชอบใช่ไหม เจ้าหน้าที่ห้างตอบว่า เธอจะแจ้งความ โพสต์ลงโซเซียลอะไรก็ได้เลยตามความพอใจพราะยังไงก็ไม่ใช่งูของห้าง ห้างไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ และทางผู้มีอำนาจตัดสินใจก็ยังไม่มาทำงาน รายงานไม่ได้ เนื่องจากวันเกิดเหตุเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทำให้เธอยิ่งข้องใจว่าทำไมจึงอ้างว่าไม่มีผู้มีอำนาจตัดสินใจ และปัดความรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยลูกค้าแบบนี้

จากกรณีนี้เธอจึงตั้งคำถามว่า ถ้าอีกหน่อยเดินห้าง ไปร้านอาหาร พาลูกพาหลาน พาครอบครัวไป ต้องระวังตัวนึกว่าไปเดินป่า โดนงูกัด ตะขาบกัดในห้าง ในร้าน สถานบริการก็ไม่ต้องรับผิดชอบเพราะไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของห้างก็ได้หรือ ขอความเห็นใจ รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยว่า ลูกค้าเจอแบบนี้ควรทำอย่างไร

       หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทางห้างได้ติดต่อลูกค้ารายนี้ว่ายินดีช่วยค่าเสียเวลา ส่วนลูกค้ายืนยันว่าต้องการให้มีการพูดคุยกันให้ชัดเจนว่าจะชดใช้อย่างไร ซึ่งจะมีการพูดคุยกับทางห้างต่อไป

เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com