สรุปดราม่า กางเกงช้าง เมื่อ Soft Power ไทยแต่เมดอินไชน่า
advertisement
กางเกงช้าง ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ของไทยที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะนิยมซื้อมาใส่ เมื่อมาเที่ยวเมืองไทย จนรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน พยายามผลักดันให้กลายเป็นหนึ่งในสินค้า Soft Power ของไทยตามนโยบายส่งเสริม Soft Power ของรัฐบาลเพื่อไทย ถึงขั้นมีการจัดงาน THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS CHALLENGE ที่มีทั้งการแข่งใส่กางเกงช้าง กินปาท่องโก๋ ใส่หน้ากากผีตาโขน กินป๊อปคอร์น และชกมวยต่อยลูกโป่ง จนกลายเป็นหัวข้อสนทนาของชาวเน็ตในวงกว้าง
advertisement
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนกิจกรรมที่ชาวเน็ตตั้งคำถามจะกลายเป็นสารตั้งต้นของ “ดราม่ากางเกงช้าง” ที่กำลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนในสังคมอยู่ตอนนี้ แล้วดราม่าที่ว่าด้วย “กางเกงช้าง” สินค้า Soft Power ของไทยมีที่มาที่ไปอย่างไร
หลังคนแชร์โพสต์ดังกล่าวในวงกว้าง “กางเกงช้าง” ก็กลายมาเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ทันที และมีการแชร์คลิปวิดีโอของสำนักข่าวไทยพีบีเอส ที่ลงพื้นที่สำรวจตลาดกางเกงช้างในประเทศไทย และพบว่ามีกางเกงช้างที่ผลิตในประเทศจีนถูกนำเข้ามาขายในราคาถูกมากในประเทศไทย โดยราคาถูกกว่ากางเกงช้างไทยถึงครึ่งหนึ่ง ทั้งยังได้รับความนิยมจากพ่อค้าแม่ค้าที่ซื้อไปขายต่อด้วย
advertisement
เมื่อสำรวจราคากางเกงช้างที่วางขายโดยทั่วไปในท้องตลาด พบว่ากางเกงช้างไทยมีราคาระหว่าง 90 – 160 บาท ซึ่งกางเกงช้างจีนมีราคาถูกกว่ามาก แม้จะคุณภาพสู้ของที่ผลิตในประเทศไทยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม พ่อค้าแม่ค้าก็สะท้อนว่านักท่องเที่ยวไม่ได้สนใจที่มาของกางเกงช้าง แต่ให้ความสำคัญกับราคามากกว่า ซึ่งนั่นทำให้กางเกงช้างของจีนได้รับความนิยมมากกว่า
advertisement
ด้านสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ก็ได้นำกางเกงช้างของ 2 ประเทศมาเปรียบเทียบให้ดูในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ระบุว่า เนื้อผ้าและคุณภาพการตัดเย็บมีความแตกต่างกันมาก และยืนยันว่ากางเกงช้างไทยเนื้อผ้าดีกว่าของจีน ทั้งยังงานละเอียดกว่าและใส่สบายมากกว่า
จากเรื่องนี้ก็เกิดเป็นกรณีให้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย เพราะจริงๆแล้วทุกวันนี้กางเกงช้างเราถูกนำเข้ามาจากจีนเพื่อมาขายในไทยกันอย่างมากมาย
ขอขอบคุณที่มาจาก : sanook.com