8 วิกฤตเหล็กไทย จีนทุบตลาดแต่คุณภาพน่ากังวล

   เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าจับตามองอย่างมากจริงๆ สำหรับเรื่องของตึกถล่ม ที่มีพบข้อกังขาเกี่ยวกับโครงสร้างให้รอพิสูจน์ความจริงหลายเรื่อง โดยสามารถสรุปปัญหาได้ดังนี้

– ผู้ประกอบการเหล็กไทยกำลังประสบปัญหาหนักจากการแข่งขันด้านราคาที่ไม่เป็นธรรม เนื่องมาจากการนำเข้าเหล็กราคาถูกจากจีน ซึ่งมีกำลังการผลิตส่วนเกินจำนวนมาก

– ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ ผู้ผลิตเหล็กในไทยหลายรายต้องลดกำลังการผลิต บางรายอาจถึงขั้นปิดกิจการ ส่งผลต่อการจ้างงานและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

– แม้มีการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ในเหล็กบางประเภท แต่ดูเหมือนยังไม่เพียงพอที่จะสกัดกั้นการไหลเข้าของเหล็กราคาถูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

– มีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับคุณภาพของเหล็กนำเข้าบางส่วนที่อาจไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)

– มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีการลักลอบนำเหล็กที่ไม่ได้คุณภาพ หรือเหล็กที่สำแดงข้อมูลเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี มาใช้ในโครงการก่อสร้างต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

– ประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวหลายแห่ง การใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้คุณภาพ โดยเฉพาะเหล็กเส้นในโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก จะเพิ่มความเสี่ยงที่อาคารจะเกิดความเสียหายรุนแรงหรือพังถล่มลงมาได้หากเกิดแผ่นดินไหว

– ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเหล็กไทยเรียกร้องให้ภาครัฐมีมาตรการปกป้องที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การทบทวนและบังคับใช้มาตรการ อย่างจริงจัง การเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการนำเข้าและคุณภาพเหล็ก ณ ด่านศุลกากร

– หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และหน่วยงานควบคุมอาคาร ต้องมีบทบาทเชิงรุกในการตรวจสอบคุณภาพเหล็กในโครงการก่อสร้างต่างๆ อย่างเข้มงวด

สถิตินำเข้าเหล็กจีน กว่า 44%
จากข้อมูลที่รวบรวมได้ถึงสิ้นปี 2567สถิติการนำเข้าเหล็กจากจีนมายังประเทศไทย มีดังนี้

– ปริมาณการนำเข้าจากจีน ไทยนำเข้าเหล็กจากประเทศจีนประมาณเกือบ 5 ล้านตัน ตลอดทั้งปี 2567

– สัดส่วนการนำเข้า เหล็กจากจีนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 44% ของปริมาณการนำเข้าเหล็กทั้งหมดของไทยในปี 2567 ซึ่งมีการนำเข้ารวมประมาณ 11.4 ล้านตัน

– การนำเข้า “เหล็กและเหล็กกล้า” (Iron and steel) จากจีน มีมูลค่าประมาณ 3.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

– การนำเข้า “ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเหล็กหรือเหล็กกล้า” (Articles of iron or steel) มีมูลค่าประมาณ 4.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    แนวโน้ม ปริมาณการนำเข้าจากจีนยังคงอยู่ในระดับสูงมาก เนื่องจากจีนมีกำลังการผลิตส่วนเกินจำนวนมาก ประมาณ 200 ล้านตันต่อปี และเร่งส่งออกมาระบายในตลาดโลก รวมถึงอาเซียนและไทย

ขอขอบคุณที่มาจาก : thairath.co.th