นักโภชนาการคิดค้นวิธี Sugar detox งดน้ำตาล 3 วัน ผลลัพธ์ที่ได้ ดีมากจนอยากให้ลอง!!
advertisement
คนไทยเกือบทุกคนนิยมทานอาหารที่มีการปรุงรส ไม่ว่าจะต้มยำทำแกง ก็มักจะเพิ่มรสชาติเพื่อให้ถูกปากมากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดรวมทั้งยังทำให้เสียสุขภาพอีกด้วย โดยวันนี้ ไข่เจียวมีสาระสุขภาพดีๆมาฝากทุกท่านกัน โดยทางเพจ กินอย่างเข้าใจ ได้ออกมาเผยเรื่อง หยุดน้ำตาล 3 วัน ช่วยอย่างไร ? โดยได้ระบุเนื้อหาไว้อย่างน่าสนใจระบุว่า…
advertisement
มีนักโภชนาการได้คิดค้นวิธี Sugar detox ที่จะช่วยให้เราสุขภาพดีขึ้น รับรู้รสชาติที่แท้จริงของอาหารได้ดีขึ้น
และถึงแม้ว่าเพื่อนๆจะไม่ใช่คนที่ติดหวาน ก็สามารถได้ประโยชน์จากวิธีนี้เช่นกันฮะ อาจช่วยให้น้ำหนักลดลง รู้สึกดีขึ้น และมีผิวพรรณเปล่งประกายดีขึ้นครับ
นอกจากนี้เด็กอ้วนๆก็มีประโยชน์นะฮะ งานวิจัยพบว่า เมื่อเด็กอ้วนงดเติมน้ำตาลในอาหารต่างๆเพียงแค่ 9 วัน ทุกๆด้านของเมตาบอลิซึมของร่างกายดีขึ้น ความดันโลหิตลดลง ไขมันไตรกลีเซอไรด์ และไขมันไม่ดี LDL ลดลง การดื้ออินซุลินลดลง (การดื้ออินซุลินเป็นสาเหตุหนึ่งของเบาหวานฮะ) แม้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนัก หรือ แคลอรี่ที่รับประทานเข้าไปก็ตาม
จริงๆวิธีนี้ใช้เวลาทั้งหมด 31 วัน ในการค่อยๆเปลี่ยนแปลงอาหารที่เรากิน ทำยังไงไปดูกันดีกว่าฮะ [ads]
วันที่ 1-3 งดน้ำตาลและแป้ง
งดอาหารที่เติมน้ำตาลทั้งหมด รวมถึงผลไม้ และ ผักที่มีแป้งปริมาณมาก เช่น ข้าวโพด มันฝรั่ง นม และ แอลกอฮอล์ รวมถึงน้ำตาลเทียม เนื่องจากน้ำตาลเทียม แม้จะไม่ได้ให้พลังงานเหมือนน้ำตาลจริงๆ แต่จะทำให้การรับรสของเราชินชากับของหวาน เหมือนเวลาเรากินของหวานมากแล้วไปกินของหวานน้อย เราจะรู้สึกว่าของที่หวานน้อยนั้นจืดไปเลยใช่มั้ยละฮะ ในระยะยาวจะทำให้เรายิ่งทำให้ต้องกินหวานมากขึ้นไปอีก ซึ่งไม่ดีแน่นอนฮะ
จะให้เน้นกินโปรตีน ผัก และ ไขมันดี เช่นไขมันจากปลาทะเล น้ำมันมะกอก
เมนูที่ให้กินได้ เช่น ไข่ต้ม เป็ดไก่ ปลา เต้าหู้ ผักลวก เช่น บร็อคโคลี่ ผักโขม ของว่างเช่น ถั่ว เครื่องดื่ม เช่น น้ำเปล่า ชาจีน กาแฟดำ (ไม่ใส่น้ำตาล)
อาจจะดูลำบากนิดหน่อย แต่ทำแค่ 3 วันฮะ หลังจากนี้ก็สบายแล้ววว
วันที่ 4-7 แอปเปิ้ล นม แครอท ไวน์
กินแอปเปิ้ลได้ หลังจากที่หยุดของหวานหรือแป้งไป 3 วัน ลิ้นของเราจะเริ่มรับรสได้ถูกต้อง ว่าแบบไหนคือจืดจริงๆ เพราะฉะนั้นวันที่ 4 นี้ แค่แอปเปิ้ลธรรมดาๆก็จะกลายเป็นขนมอันแสนอร่อยแล้วฮะ
นอกจากนี้ยังให้ดื่มนมหรือโยเกิร์ตได้ โดยเลือกแบบจืด ไม่ใส่น้ำตาล เพราะหลังจากลิ้นเรารับรสได้ดีแล้ว แค่รสชาติของคาร์โบไฮเดรตที่ละลายในปากก็จะเริ่มกลายเป็นอมหวานนิดๆชื่นใจ และ ไม่ต้องเอาแบบ low fat นะฮะ เพราะไขมันในนม ไฟเบอร์ และโปรตีน ช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลช้าลง การนำไขมันออกจากนมจะทำให้ร่างกายเราดูดซึมน้ำตาลเร็วขึ้น น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงเร็วขึ้นได้ฮะ นอกจากนี้ยังสามารถกินผักที่มีแป้งปานกลาง เช่น แครอท และ ไวน์แดง 3 แก้วในสัปดาห์แรกนี้ [ads2]
สัปดาห์ที่ 2 ผักผลไม้ต้านอนุมูลอิสระ มันเทศ ฟักทอง (ผักที่มีแป้งมาก)
สามารถเพิ่มผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเข้าไป หรือเพิ่มผักที่แป้งเยอะมากขึ้นไปอีกเข้าไปด้วย เช่น มัน ฟักทอง
สัปดาห์ที่ 3 ส้ม องุ่น (ผลไม้ที่หวานมากขึ้น) ธัญพืช
เพิ่มธัญพืชเข้าไปได้ เช่น ลูกเดือย บาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต คีนัว นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มผลไม้ที่หวานขึ้นเข้าไปได้อีก เช่น ส้ม องุ่น กินไวน์ได้เพิ่มขึ้นอีกแ้ก้วเป็น 4 แก้วต่อสัปดาห์ และยังดาร์คช็อคโกแลตได้อีกนิดหน่อย ประมาณ 28 กรัม
advertisement
สัปดาห์ที่ 4 สัปดาห์สุดท้าย !! ข้าว ขนมปัง ไอติม เค้ก ผลไม้ทุกชนิด
กินคาร์โบไฮเดรตได้ 2 มื้อต่อวัน เช่น ข้าว ขนมปัง สามารถกินตามใจปากได้บางครั้ง เช่น ไอติม เค้ก ในบางโอกาส เนื่องจากนิสัยติดหวานของเราได้หายไปแล้ว การกินของหวานครั้ง หรือ 2 ครั้งใน 1 สัปดาห์จะไม่ทำให้เรากลับไปติดหวานแบบเดิม ช่วงนี้เป็นต้นไปให้กินไวน์ได้ถึง 5 แก้วต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ ผลไม้ต่างๆสามารถกินได้ตามปกติแล้ว [ads3]
โดยหลังจาก 1 เดือนนี้ ให้กินแบบ สัปดาห์ที่ 4 นี้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆครับ
มีผู้เข้าร่วมโปรแกรมดีทอกซ์น้ำตาลนี้กว่า 80 คน พบว่าช่วยลดน้ำหนักได้ประมาณ 2 – 10 กิโลกรัมในเวลา 31 วัน หลายคนพบว่า รอบเอวลดลง เข็มขัดหลวมขึ้น นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมโปรแกรมบางส่วนยังพบว่า การมองเห็นดีขึ้น ผิวดีขึ้น รอยคล้ำใต้ตาลดลง รู้สึกมีเรี่ยวแรงมากขึ้น และอารมณ์แปรปรวนน้อยลงอีกด้วย
ไดแอน ผู้เข้าร่วมคนหนึ่งสามารถลดน้ำหนักลงได้เกือบ 20 กิโลกรัม หลังจากที่ทำตามโปรแกรมนี้มาแล้วในเวลา 2 ปี เธอกล่าวว่า เธอเข้าใจผิดมาตลอดว่าการลดน้ำหนักทำได้โดยการลดไขมัน แต่นั่นทำให้เธอลดไม่สำเร็จเพราะเธอจะแทนที่ส่วนที่หายไปด้วยน้ำตาลแทน และพอลดน้ำตาลเธอก็แทนด้วยสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ซึ่งทำให้ลิ้นของเธอชินชากับรสหวาน และต้องการกินอาหารที่หวานมากขึ้นไปอีก ไดแอนกล่าวว่า การเพิ่มไขมันดีกลับเข้าไปในอาหารบ้าง จะทำให้เธอรู้สึกอิ่ม และ อาการอยากของหวานของเธอลดลงจากเดิม และนี่เป็นโปรแกรมที่เธออยู่ด้วยได้นานที่สุดเท่าที่เคยทำมา และ เธอไม่คิดว่าอยากเลิกเลย เพราะมันรู้สึกเป็นธรรมชาติ และ ปกติมากๆ ที่เธอไม่ต้องอดนู่นนี่อย่างที่เคยทำมา
บางสิ่งที่ต้องคำนึงถึงหากเพื่อนๆต้องการเริ่มโปรแกรมนี้บ้างคือ หากคนเป็นคนที่ติดหวานมากๆ การหยุดช่วง 3-5 วันแรกอาจทำให้เพื่อนๆมีอาการถอน (คล้ายๆถอนยาฮะ) เช่น รู้สึกไม่สดชื่น อ่อนเพลียในช่วงแรก (เหมือนเวลาคนกินกาแฟทุกวันแล้วไม่ได้กิน) แต่หลังจากนั้นอาการก็จะหายไปเองแต่หากไม่ไหวจริงๆการกินผลไม้เข้าไปบ้างก็จะช่วยได้ แล้วอย่าลืมดื่มน้ำเปล่ามากๆด้วยนะฮะ
นอกจากนี้คนที่เป็นโรคเบาหวาน กินยาลดระดับน้ำตาล หรือ ตั้งครรภ์อยู่ ก็ไม่ควรเข้าโปรแกรมนี้นะฮะ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ที่รักษาอยู่นะค้าบ
ปล. เขียนยาวไปไหมเนี่ย
จุ๊บบ 1 ที สำหรับคนที่อ่านจนจบคับ เก่งมากกก
จากโพสต์
สำหรับเรื่องนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสุขภาพ สำหรับคนที่อยากลดน้ำตาล แต่ต้องอดทนกันสักหน่อย แต่ถ้าทำไดรับรองสุขภาพดีแน่นอนเลยจ้า
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com