หนุ่มพลเมืองดีเก็บเงินได้บนแท็กซี่ มอบให้คนขับส่งคืน แต่เจอซ้อนแผน
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2022/11/ซ้อนแผน-1-1024x512.jpg)
advertisement
เป็นเรื่องราวที่ทำเอาหลายคนต่างก็เฝ้าจับตามอง หลังหนุ่มพลเมืองดีรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์คลิปหลังเก็บเงินสดได้จำนวนกว่า 7 หมื่นบาท บนแท็กซี่ ก่อนที่จะส่งมอบเงินให้แท็กซี่เพื่อให้นำไปส่งคืนให้กับเจ้าของ ท่ามกลางชาวเน็ตที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น และมองว่าแท็กซี่จะไว้ใจได้ใช่ไหม แต่เจ้าของโพสต์ก็ยืนยัน เพราะลูกค้าเรียกผ่านแกร็บน่าจะมีข้อมูล แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับพบว่าคนขับแท็กซี่ไม่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปส่งคืนให้กับเจ้าของตัวจริงแต่กลับให้เพื่อนสาวมาสวมรอยเป็นเจ้าของเงิน
advertisement
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2022/11/เงิน-1-3.jpg)
นายมนต์ชัย กล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 30 ตุลาคม ตนเองได้เรียกแท็กซี่ผ่านระบบแอปพลิเคชัน เพื่อให้มารับที่บ้านย่านซอยเปรมฤทัย ถนนเทพารักษ์ อ.เมือง สมุทรปราการ ไปส่งที่แยกการไฟฟ้า ถนนศรีนครินทร์ อ.เมือง สมุทรปราการ ต่อมาหลังจากตนเองขึ้นไปบนรถ ก็พบกระเป๋าสตางค์แบบซิบวางอยู่เบาะหลัง จึงหยิบมาเปิดดูจนพบว่ามีธนบัตร ชนิด 1 พันจำนวนมาก นับได้ราว 7 หมื่นบาท อยู่ในกระเป๋า จึงได้สอบถามคนขับแท็กซี่ จนได้ข้อมูลว่ากระเป๋าดังกล่าว น่าจะเป็นของผู้โดยสารคนก่อนหน้านี้ กระทั่งมาถึงปลายทางตนเองจึงให้เงินทั้งหมดที่พบกับคนขับแท็กซี่เพื่อให้ตามหาเจ้าของ เนื่องจากคนขับแท็กซี่บอกว่ามีข้อมูลของผู้โดยสารคนดังกล่าวอยู่เนื่องจาก ได้เรียกใช้บริการผ่านระบบแอปพลิเคชันแกร็บมา ก่อนที่ตนส่งมอบเงินทั้งหมดให้คนขับแท็กซี่เนื่องจากหวังดีว่า หากคนขับแท็กซี่เอาไปคืนเอง อาจจะได้ทิปจากเจ้าของเงินด้วย ระหว่างนั้นตนเองจึงได้ถ่ายคลิปวีดีโอไว้เพื่อเป็นหลักฐานและโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อตามหาเจ้าของอีกทาง จนถูกกระแสตีกลับว่าตนเองสร้างคอนเทนต์
advertisement
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2022/11/เงิน-3-1.jpg)
จนเวลาผ่านไปตนจึงโทรไปสอบความคืบหน้า จากคอลเซ็นเตอร์ แอปพลิเคชัน จนทราบว่า ทางคนขับแจ้งทางศูนย์มาว่า ได้คืนเงินกับเจ้าของแล้วในช่วง 09.00 น. ตนเองจึงได้ขอเบอร์โทรของหญิงสาว ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเพื่อสอบถามข้อมูล จนกระทั่งหญิงสาวคนดังกล่าว บอกว่าจะไปรับเงินคืนในช่วงเย็น ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลของคนขับแท็กที่ได้แจ้งไว้กับตน ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเจ้าของเงินจริงๆ ตนเองจึงอยากให้มีการส่งมอบเงินกันต่อหน้าตำรวจจะดีกว่า แต่ทางหญิงสาวคนดังกล่าวบอกไม่สะดวก กระทั่งคนขับแท็กซี่โทรมาหาตน และแจ้งว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นเพื่อนไม่ใช่เจ้าของเงินจริงๆ และยังให้ตนเองโกหกกับศูนย์ว่าคนขับได้มอบเงินคืนเจ้าของไปแล้ว แต่ตนเองไม่ยอมเล่นด้วย ก่อนที่จะเดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่าตนเองไม่รู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวและมีการมอบเงินให้กับคนขับแท็กซี่ไปแล้ว
advertisement
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2022/11/เงิน-4-1024x576.jpg)
ต่อมาระหว่างที่นายมนต์ชัย กำลังลงบันทึกประจำวัน อยู่ ที่ สภ.เมือง สมุทรปราการ คนขับแท็กซี่ได้ติดต่อเข้ามาทางโทรศัพท์ว่า ได้นำเงินทั้งหมด ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สำโรงเหนือ และได้มอบเงินให้กับตำรวจเพื่อตามหาเจ้าของแล้ว และอยู่ระหว่างกำลังจะเดินทางมาพบนายมนต์ชัย ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ กระทั่งนายมนต์ชัย รออยู่นานกว่าชั่วโมงก็ไม่พบคนขับแท็กซี่มาตามนัด จึงได้ติดต่อไปอีกครั้งจนคนขับอ้างว่า อยู่บนสะพานภูมิพลทั้งที่จาก สภ.สำโรงเหนือ มาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ใช้เวลาไม่น่าเกินครึ่งชั่วโมง ขณะเดียวกันยังทราบว่า เงินจำนวนดังกล่าวคนขับ ยังเก็บไว้กับตัว เนื่องจากอ้างว่าตำรวจไม่เก็บเงินไว้
advertisement
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2022/11/แท็กซี่-1-1024x576.jpg)
ซึ่งนายมนต์ชัย เห็นว่า ถ้าคนขับแท็กซี่มีเจตนาดีที่จะตามหาเจ้าของจริงๆ คงไปแจ้งความตั้งแต่วันแรกแล้ว คงไม่ให้คนอื่นมาสวมรอยเป็นเจ้าของเงิน อย่างไรก็ตามจากการสอบถามข้อมูล ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ยังไม่พบข้อมูลว่ามีคนมาแจ้งเงินหายไว้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าอาจจะไปแจ้งที่อื่น ตนเองจึงอยาก ประชาสัมพันธ์ ให้ได้ทราบว่า เงินทั้งหมดยังอยู่กับคนขับแท็กซี่ และทั้งหมดตนเองไม่ได้สร้างคอนเทนต์แต่อย่างใด
ขอขอบคุณที่มาจาก : Monchai Buppunchartnanon , ch3plus.com