ทบ. นำผู้ช่วยทูตทหาร 23 ประเทศ ลุยชายแดนไทย-กัมพูชา พิสูจน์ความจริง

advertisement
บรรยากาศล่าสุดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา (1 ส.ค.) ที่ท่าอากาศยานกองบิน 6 (บน.6) ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก (ศปส.ทบ.) นำคณะทูต 11 ประเทศ ผู้ช่วยทูตทหาร 23 ประเทศ และสื่อมวลชน สังเกตการณ์พื้นที่พลเรือน โรงพยาบาล ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ ได้รับความเสียหาย การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชา
advertisement

พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการลงพื้นที่ว่า วัตถุประสงค์การพาไปดูพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ หลักๆ คือผลกระทบจากการใช้อาวุธทหารกัมพูชามาที่เป้าหมายพลเรือน ได้แก่โรงพยาบาล โรงเรียน มีปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ และปิดท้ายไปที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวว่ามีประชาชนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบขนาดไหน เอกอัครราชทูต อุปทูต ทูตทหาร และสื่อต่างประเทศจะได้เห็น จะเป็นเป็นโอกาสดีที่จะให้ผู้ที่ไปในวันนี้ได้สื่อสารไปในระดับสากล
โฆษกกองทัพบกย้ำว่า เป้าหมายหลักของฝ่ายไทย เน้นเรื่องของข้อเท็จจริง เราอาจจะไม่เหมือนทั้งฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะสถานที่หรือจุดที่เราไปทั้งหมดนั้นเป็นจุดเกิดเหตุที่เกิดขึ้นจริงๆ แต่ละจุดเหล่านั้นค่อนข้างห่างจากพื้นที่การสู้รบเป็นหลาสิบกิโลเมตร
advertisement

พล.ต. วินธัย ยังเปิดเผยว่า ต่างชาติที่มาร่วมสังเกตการณ์ ยังพูดถึงการชี้แจงของกองทัพบกในช่วงที่ผ่านมา และให้กำลังใจกันเป็นการส่วนตัว ว่าสามารถตอบสนองต่อข่าวได้เร็วมาก ทุกคนน่าจะมีความเห็นตรงกันในเรื่องนี้
ตามกำหนดการยืนยันว่า คณะจะลงพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยจะเยือนสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และร้านสะดวกซื้อที่ได้รับความเสียหายจากการถูกโจมตีด้วยจรวด ทำให้มีประชาชนเสียชีวิต 8 คน หนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุ 7-8 ปี บาดเจ็บจำนวน 10 คน
advertisement

รายงานระบุว่า รายชื่อเอกอัครราชทูตที่เดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ ประกอบด้วย ระดับเอกอัครราชทูต 3 ประเทศ ได้แก่ บรูไน, ญี่ปุ่น, เมียนมา ระดับอุปทูต 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย, สปป. ลาว, อินโดนีเซีย และผู้แทนทางการทูตระดับต่างๆ 5 ประเทศ สหรัฐฯ, สิงคโปร์, จีน, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ ทั้งหมดรวม 11 ประเทศ
advertisement

ส่วนผู้ช่วยทูตทหาร ร่วมลงพื้นที่จำนวน 23 ประเทศ ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, ปากีสถาน, เกาหลีใต้, รัสเซีย, สิงคโปร์, เยอรมัน, อินเดีย, ลาว, แคนาดา, ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา, ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น, เวียดนาม, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, อินโดนีเซีย, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, บรูไน, ตุรกี และสหราชอาณาจักร
ขอขอบคุณที่มาจาก : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.