นักท่องเที่ยวมาไทย เจอแม่ค้าตลาดน้ำรูดเงินกว่า 8 หมื่นบาท

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่กำลังโดนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย เมื่อนักท่องเที่ยวชาวบรูไน ออกมาทำคลิปเตือนภัย แชร์ประสบการณ์มาเที่ยวไทย แต่เจอแม่ค้าโกงเงิน รูดบัตรเดบิตไปกว่า 80,000 บาท แนะนำข้อสังเกต และสิ่งที่ควรเตรียมตัว เมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ

โดย นักท่องเที่ยวชาวบรูไน รายนี้ โพสต์คลิปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งวันเกิดเหตุคือวันที่ 2 มกราคม 2568 เขาตัดสินใจไปตลาดน้ำแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งมีค่าบริการ 160 ดอลลาร์บรูไน (แปลงเป็นเงินไทยราว 4,000 บาท) ต่อคน สำหรับแพ็คเกจที่รวมการนั่งเรือส่วนตัว, ขี่ช้าง และถ่ายรูปกับเสือ

นักท่องเที่ยวยอมรับว่าเป็นความผิดของตนส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดในแพลตฟอร์มอื่น ๆ ล่วงหน้าเหมือนที่ทำตามปกติ เมื่อถึงเวลาชำระเงิน เขาก็ใช้บัตรเดบิตจ่าย ซึ่งปกติตนก็ใช้บัตรนี้ในการใช้จ่ายที่ประเทศไทยอยู่แล้ว

หลังจากยื่นบัตรให้แม่ค้ารูด เพื่อชำระเงินแล้ว เขาสังเกตจำนวนเงินว่า มีเลข 0 เพิ่มมาอีก 1 ตัว คือนักท่องเที่ยวรายนี้ ถูกเรียกเก็บเงินไป 83,460.00 บาท จากเดิมที่ควรจะเป็น คือ 8,346.00 บาท

ในตอนแรก แม่ค้ารายนี้ดูไม่ยอมรับว่าจำนวนเงินมีข้อผิดพลาด จนกระทั่งนักท่องเที่ยวพยายามโต้เถียง พร้อมยื่นใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐาน แจ้งว่าจำนวนเงินนั้นมีข้อผิดพลาดจริง ๆ สุดท้ายทางแม่ค้ายอมรับและแจ้งว่าจะคืนเงินให้นักท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน ทางนักท่องเที่ยวก็โทรหาธนาคารในบรูไนเพื่อชี้แจงธุรกรรมดังกล่าว

หลังจากติดต่อธนาคารทั้งในฝั่งประเทศบรูไนและในประเทศไทย ทราบว่าต้องใช้เวลาประมาณ 14 วันในการคืนเงิน

นักท่องเที่ยวเปิดใจว่า “ทุกคนลองจินตนาการดูสิ เราต้องพยายามท่องเที่ยวอย่างมีความสุข ขณะที่เงินกว่า 80,000 บาทถูกระงับไว้ คิดภาพถ้าผมมีบัตรนี้แค่ใบเดียว มันคงลำบากมากๆ”

พร้อมทิ้งท้ายเตือนภัยว่า “สำหรับพวกคุณทุกคน โปรดระวังกลโกงแบบนี้ด้วย! ขอแนะนำให้ทุกคนตรวจสอบราคาก่อนทุกครั้งเสมอ ควรนำเงินสดฉุกเฉินติดตัวไปด้วย เมื่อได้ใบเสร็จควรเช็กให้ดี ที่สำคัญ ไม่ควรใช้บัตรเครดิต/เดบิต เพียงใบเดียว ควรมีบัตรสำรองไว้ด้วย นอกจากนี้ ควรจองแพ็คเกจจากแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ”

“นี่คงจะเป็นการเที่ยวตลาดน้ำครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของฉัน”

  ซึ่งจากเรื่องราวดังกล่าวก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย รวมทั้งคนไทยด้วย ทั้งนี้ก็มีหลายคนบอกว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย

ขอขอบคุณที่มาจาก : ข่าวสด