สาวสุดงง เจอใบสั่งปรับผิดคัน2 ปีติด แจ้งเรื่องแล้วยังเงียบ

advertisement
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่มีหลายคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า ตนได้รับใบสั่งปรับฐานขับรถด้วยความเร็วเกิดกำหนก ทั้งที่รถและหมายเลขทะเบียนไม่ใช่ของตนเอง ซ้ำยังเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรถคันเดียวกัน โดยในโพสต์ระบุว่า
advertisement

“ซื้อหวยได้เลยจ้า รอบนี้ร้อยเอ็ดกันเลยทีเดียว ทะเบียน รถพี่ 48XX นะคะ ไม่ใช่ 43XX คนอะไรจะดวงดีทุกปี ปีที่เเล้ว พะเยา ปีนี้ ร้อยเอ็ดปุ้นนนน ทะเบียนก็คนละทะเบียน 43XX แต่ส่งมา 48XX หวยมาตกที่เเสงอรุณตลอด”
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามเข้าพูดคุยกับ น.ส.แสงอรุณ (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เขตเทศบาลหนองฉาง
น.ส.แสงอรุณ กล่าวว่า ตนได้รับเอกสารใบสั่งปรับจราจรฉบับนี้มาเมื่อช่วงสายของวันนี้ รายละเอียดระบุว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 รถยนต์โตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน 43XX ได้ขับขี่ด้วยความเร็วที่ 110 ซึ่งเกินอัตราที่กำหนดในพื้นที่ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในช่วงเวลา 20.01 น. โดยมีการแจ้งข้อหา ขับรถใช้ความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (พรบ.จราจร ม.67 วรรคหนึ่ง, ม.152) ฝ่าฝืนป้ายจำกัดความเร็ว (พรบ.ทางหลวงฯ มาตรา 5 (2), มาตรา 69) เหตุเกิดที่บริเวณ ทล.23 กม.148 (ขาออก) ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
advertisement

น.ส.แสงอรุณ กล่าวต่อไปว่า รถของตนเป็น รถยี่ห้อ โตโยต้า สีดำเหมือนกัน แต่เป็นรถเก๋ง หมายเลข ทะเบียน 48XX อุทัยธานี ส่วนรถคันที่โดนใบสั่งนั้น เป็นรถกระบะ หมายเลข 43XX ทำให้รู้สึกงงว่าทำไมถึงได้มีการออกใบสั่งผิดพลาดแบบนี้ถึง 2 ครั้ง และ 2 ปีติด ซ้ำยังเป็นรถคันเดียวกันอีกด้วย ทำให้ตนเองต้องมาจ่ายค่าปรับ 500 บาท ทั้ง ๆ ที่ตนไม่ใช่ผู้กระทำผิด เงินจำนวนนี้ก็เป็นเงินที่มากพอสมควร มากกว่าค่าแรง 1 วัน ในช่วงเศรษฐกิจเช่นนี้ และหากคนที่โดนใบสั่งนี้เป็นคนที่ไม่รู้ว่าต้องแก้ปัญหานี้อย่างไร จะทำอย่างไรได้ หรืออาจก็ต้องจำใจยอมจ่ายเงินค่าปรับตรงนี้ไปทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำ
advertisement

น.ส.แสงอรุณ กล่าวว่า ครั้งนี้คงต้องนำหลักฐานนี้ไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานอีกเช่นเคย เพราะได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับทางต้นทางใบสั่งนี้แล้ว ก็ได้บอกให้ตนเองแอดไลน์และส่งเอกสารนี้ไปให้ แต่รอจนข้ามวันมาแล้วก็ยังไม่มีใครอ่านไลน์นี้เลย
advertisement

หากเป็นไปได้ก็อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ช่วยตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดกว่านี้ เพราะแบบนี้คนที่ไม่ได้ทำผิดต้องมาเดือดร้อน
ขอขอบคุณที่มาจาก : มติชน