14 ข้อคิดที่ได้จากการทำงานมาครบ 10 ปี มันใช่ทุกบรรทัด
advertisement
สำหรับการทำงานนอกจากจะต้องเสียพลังกายพลังใจ เพื่อแลกกับค่าตอบแทน หรือค่าเหนื่อยนั้นก็เป็นสิ่งที่เราต้องทำเหมือนเป็นกิจวัตร เพราะถ้าไม่ทำก็ไม่มีรายได้ ซึ่งล่าสุดคุณ VISIT US สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาแชร์ 14 ข้อคิดที่ได้จากการทำงานมาครบ 10 ปี
advertisement
1. วิธีการขึ้นเงินเดือนที่เร็วที่สุดคือการย้ายงาน ไม่ใช่ขึ้นตำแหน่งในบริษัทเดิม 2. ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด บริษัทไม่รักคุณเท่าครอบครัวของคุณหรอก 3. อย่าทำงานจนละเลยสุขภาพของตัวเอง 4. ไอ้คนที่พูดแต่เรื่องให้คุณเสียสละทุกอย่าง ถวายตัวกับงาน office คือบ้าน ต้องกลับดึก ฯลฯ , พูดเรื่อง company loyalty/spirit/team work ซ้ำไปซ้ำมา คือคนที่หลอกใช้คุณเพื่อความเจริญของเขาเอง
5. คนที่เจริญได้เพราะนำเสนอ+ทำ powerpoint+สรุปงานเก่ง แต่ทำงานไม่ได้เรื่องอะไรเลยมีอยู่จริง คุณเหนือกว่าพวกเค้าได้ด้วยการทำงานให้เก่งด้วย+present ตัวเองเก่งด้วย 6. ควรเก็บออมเงินตั้งแต่ปีแรกของการทำงาน เพราะปีแรกของการทำงานคุณจะสนุกกับการใช้เงินจนลืมเก็บตังค์
advertisement
7. ผมเคยทำงานแบบถวายหัวชนิดทิ้งทุกอย่าง ทิ้งบ้านทิ้งครอบครัว ทิ้งเพื่อนฝูง เพื่องาน เพื่อลูกค้า เพื่อบริษัท สุดท้ายผมก็ได้เรียนรู้ว่าผลตอบแทนที่ได้รับไม่ว่าจะเป็นเงิน ลมปาก เหล้า-เบียร์ฟรี ข้าวฟรี มันชดเชยสิ่งที่ผมเสียไปไม่ได้เลย
8. ตอนคุณไปคุยเรื่องขอลาออก ถ้าเค้า offer ตำแหน่งให้ถ้าคุณอยู่ต่อ นั่นเป็นเรื่องโกหก 100% คุณอยู่ต่อคุณก็ไม่ได้ขึ้นตำแหน่งหรอก 9. ความสามารถในการขวนขวายหาความรู้ด้วยตัวเองและกล้าที่จะลองผิดลองถูก จะช่วยให้คุณไปได้ไกลกว่าไอ้พวกงอมืองอเท้ารอคนอื่นมาสอน 10. เพื่อนร่วมงานมีทั้ง“เพื่อน” และ “คนรู้จัก” อย่าไปขาดหวังว่าทุกคนจะเป็นเพื่อนที่จริงใจกับคุณ
advertisement
11. จงพยายามเรียนรู้สิ่งต่างๆ นอกเหนือจากอะไรที่เกี่ยวกับงานที่คุณทำอยู่เสมอ หลายๆ อย่างที่คุณไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกับงาน มันสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานได้ 12. ภาษาอังกฤษสำคัญมาก 13. จงใช้วันลาพักร้อนให้เต็มที่ อย่าเกรงใจ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ 14. ความอดทน ใจเย็น สำคัญมาก จงหัดทำหน้ายิ้มแต่ด่าไอ้เห้ในใจไว้
“เคยสงสัยกันมั้ยครับ ว่า ในเมื่อคนทำงานมากมายขนาดนี้ แต่เค้าไม่สอนเรื่องเหล่านี้ ในมหาวิทยาลัย ในวิทยาลัย หรือใน โรงเรียนมัธยม น่าแปลกใจมั้ยครับ ทั้งๆ ที่มันเป็นประสบการณ์จริง หรือ…อ. มีหน้าที่ต้องสอนวิชาชีพที่เป็นจริงเท่านั้น? (คำพูดในกระทู้เป็นคำพูดลอยๆ ต้องใช้วิจารณญาณนะครับ แต่ถ้าคนมีประสบการณ์ทำงานเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะบอกว่าจริง) หรือ…มหาวิทยาลัย ไม่ต้องการให้ นักศึกษา สร้างค่านิยมผิดๆ ก่อนไปทำงาน หรือ..เค้าต้องการให้เรานำวิชาชีพไปใช้อย่างมีความสุข ไม่ใช่เพื่อไปมุ่งหน้าหาเงินเท่านั้น หรือ… ฯลฯ กว่าผมจะหาคำตอบของสิ่งเหล่านี้ได้ ผมต้องตกผลึกเป็นปีๆ เลยทีเดียว เพื่อจะได้คำตอบให้กับตัวเอง ว่า “ทำไมในสถาบันการศึกษาเค้าไม่สอนเราเรื่องพวกนี้วะ” พอได้อ่านประสบการณ์แล้ว ก็ไม่รู้สึกตกใจเท่าไหร่ (อาจเป็นเพราะผมทำงานมา 3 ปีกว่าแล้วก็ได้ ก็ขอบคุณครับ อ่านแล้วได้ความรู้ครับ”
advertisement
“1. วิธีการขึ้นเงินเดือนที่เร็วที่สุดคือการย้ายงาน ไม่ใช่ขึ้นตำแหน่งในบริษัทเดิม แถมอีกข้อละกัน คนที่เข้ามาใหม่จะได้เงินเยอะกว่าคนที่ทำงานอยู่ก่อน ทั้งๆที่เราต้องมาสอนงานให้ เฮ้อ เพลีย สรุปเราต้องหางานใหม่เพื่อให้เงินเดือนขึ้น บริษัทก็ต้องจ้างคนใหม่ในเงินเดือนที่มากกว่าเดิมแล้วก็มาสอนงานใหม่ 555 จากคนที่ทำงาน 13 ปี”
advertisement
“”5. คนที่เจริญได้เพราะนำเสนอ+ทำ powerpoint+สรุปงานเก่ง แต่ทำงานไม่ได้เรื่องอะไรเลยมีอยู่จริง คุณเหนือกว่าพวกเค้าได้ด้วยการทำงานให้เก่งด้วย+present ตัวเองเก่งด้วย” ข้อนี้จริง แต่เรากลับไม่มองเป็นจุดด้อย เรากลับคิดว่าคนพวกนี้มีทักษะด้านการบริหารจัดการ ซึ่งเหมาะกับการจะเติบโตเป็นระดับบริหารแน่นอน เพราะเขาไม่ต้องทำงานเอง ทำไม่เก่งก็ได้ แต่ควรเข้าใจที่มาที่ไป ใช้คนให้เป็น แตกต่างกับคนทำงานเก่ง แต่จัดการไม่ได้ สรุปไม่เก่ง นำเสนอไม่เป็น ทักษะที่เหมาะสมกับแต่ละประเภทงาน ก็แตกต่างกัน ลูกน้องมักจะหวังว่า หัวหน้าต้องทำงานงกๆ เหงื่อโซก อยู่หน้างานทุกวัน ลงแรงให้หนักกว่าตน ให้เหมาะกับเงินเดือนเยอะๆ แต่เปล่าเลย คนพวกนี้แลกความสามารถในการใช้หัว การบริหารจัดการคน กับเงินเดือนมากๆ ใครคิดว่าบริหารคนมันง่ายแล้วล่ะก็ ผิดอย่างแรง”
advertisement
“จริงเกือบทุกประการ เพราะผมทำงานตั้งแต่จบที่เดียวมา10ปี และเพิ่งลาออก เปลี่ยนงาน เมื่อต้นปีที่ผ่าน -เงินเดือนขึ้นเยอะกว่าที่เดิมเพราะ.บ.ใหญ่กว่าเดิม มีระบบรูปแบบมากขึ้น -ตอนลาออก เค้าไม่เสนอให้อยู่ต่อหรือให้เงินเพิ่ม แต่ตอนหลังลูกน้องเก่าเล่าว่า เค้าไปจ้างพนักงานใหม่มา 3 คน(คงเอาเงินเดือนเราไปจ้างเด็กใหม่ดีกว่า) -จบกันด้วยดีครับ แต่อยู่มา10ปี ตั้งแต่พนง. Outsource (ตอนนั้นยังเรียนไม่จบ)เป็นพนง.ประประจำ,หัวหน้าแผนก,ผู้จัดการแผนก นึกว่าถ้าอยู่ต่อจะให้เป็นหุ้นส่วนบริษัท ……… -พักร้อนไม่ค่อยได้ใช้ครับ เพราะโสดอยู่คนเดียวไม่ค่อยไปไหน เวลาทำงานต้องออกต่างจังหวัดอยู่แล้วก็ได้ไปเที่ยวบ้าง ส่วนมากใช้เป็นวันหยุดเวลาเมาแฮงค์มากกว่า -มาสมัครงานใหม่เค้ารับเลย บอกว่าชอบคนที่ทำงานที่เดียวนานๆ(แต่ในใจเราคิดว่า คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก)”
advertisement
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำเอาหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บางคนบอกว่าเป็นเรื่องที่เห็นด้วยอย่างมาก เพราะจริงๆแล้วการทุ่มเทกับการทำงานมากไปจนละเลยตัวเอง แต่ทั้งนี้ก็อย่าคิดลบมากเกินไป ทำตัวให้มีความสุขในทุกๆวันก็พอ สู้ๆนะทุกคน
ขอขอบคุณที่มาจาก : VISIT US