สมาคมทุเรียนไทย ไขความกระจ่าง ป้ายยาทุเรียนอันตรายไหม

advertisement
ทางเพจ Thai Durian Association – TDA สมาคมทุเรียนไทย ได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการป้ายยาทุเรียพร้อมระบุรายละเอียดว่า
advertisement

ตามที่ได้มีการแชร์คลิปในแอพพลิชัน Tiktok โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการป้ายยาในทุเรียน และมีการแชร์คลิปกันในสื่อออนไลน์ว่ามีการนำ ยาฆ่าหญ้า มาป้ายขั้วทุเรียน รวมไปถึงการพูดถึงการใช้สารเคมีชุบ ป้ายขั้ว ทุเรียน อย่างไม่เป็นความจริงและอาจสร้างความเข้าใจผิดให้ผู้บริโภครวมไปถึงสร้างความเสียหายให้กับชาวสวนทุเรียนอีกด้วย
โพสนี้ทางสมาคมทุเรียนไทย จะมาทำความเข้าใจเรื่อง สารที่ใช้ป้ายขั้วทุเรียน ให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริงว่ามันคือสารอะไร และจะมีอันตรายกับผู้บริโภคหรือไม่ ? [ads]
โดยธรรมชาติแล้วการสุกของทุเรียนนั้นไม่สม่ำเสมอแม้ภายในผลเดียวกันก็ตาม ลักษณะเช่นนี้เป็นปัญหาในการบริโภคและการส่งออก อีกทังกระบวนการสุกยังใช้เวลา นานอีกด้วย กรณีทุเรียนพันธุ์หมอนทองอาจใช้เวลานานถึง 9-13 วัน ขึ้นอยู่กับความแก่ของผล เมื่อใช้เวลานานการสูญเสีย น้ำหนักจึงมากเกือบถึง 20% นั่นคือสูญเสียรายได้ 20% ด้วย ดังนันการบ่มจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้ทุเรียนสุกสม่ำเสมอ ในเวลา 4-6 วันและยังช่วยลดการสูญเสียลงถึงกว่า 10%
advertisement

การบ่มผลไม้ให้สุกสม่ำเสมอ นิยมใช้ เอทีฟอน (ethephon) ซึ่งเป็นสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชที่ปลดปล่อยเอทิลีนมีพิษค่อนข้างต่ำและสลายตัวได้ง่าย มีความคงตัวในสภาพกรดจัด (pH<4) แต่ในสภาพที่กรดน้อยลง (pH>4.5) เช่น เมื่อละลายน้ำหรือเมื่อซึมเข้าในไซโตพลาสซึมของเซลล์พืช สารจึงสลายตัวและปลดปล่อยเอทิลีนออกมา
จากการศึกษาล่าสุดในปี พ.ศ. 2559 ของ ดร.พีรพงษ์ แสงวนางค์กูล และคณะ จากศูนย์ เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน ให้ดำเนินการศึกษาปริมาณสารเอทีฟอน ตกค้างในผลทุเรียนบ่ม พบว่าการบ่มทุเรียนด้วยสารละลายเอทีฟอนในสภาพจำลองการจำหน่ายในประเทศมี สารตกค้างที่เปลือกมากกว่าการบ่มในสภาพจำลองการส่งออกทางเรือซึ่งใช้ ระยะเวลานานกว่า สารจึงมีระยะเวลาในการสลายตัวได้มากกว่า เมื่อพิจารณาวิธีการบ่ม พบว่า การบ่มทุเรียนโดยการชุบผลในสารละลายเอทีฟอนเข้มข้น 0.2% และ 0.4% มีสารตกค้างในส่วนเปลือกมากที่สุดและมากกว่าการบ่มโดยการป้ายเฉพาะบริเวณรอยตัดที่ก้านผลด้วย
ผลทั้งหมดทั้งที่บ่มและไม่บ่ม ไม่พบว่ามีสารตกค้างในส่วนเนื้อผล ที่รับประทานได้เกินกว่ามาตรฐานไทย มาตรฐานสากล และมาตรฐานยุโรป ส่วนมากไม่มีสารตกค้างในส่วนเนื้อเลย มีเพียงบางผลที่พบสารในปริมาณที่น้อยมาก โดยผลที่พบสารตกค้างในส่วนเนื้อมากที่สุดเป็นผลที่บ่มโดยการป้ายขั้วด้วยสารละลายเข้มข้น 52% มีสารตกค้างเพียง 0.190 มิลลิกรัม/เนื้อทุเรียน 1 กิโลกรัม เท่านั้น ดังนั้นการบ่มผลทุเรียนด้วยสารละลายเอทีฟอนจึงมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
ทางสมาคมทุเรียนไทยจึงทำความเข้าใจกับผู้บริโภคให้เข้าใจว่า
1. ไม่มีชาวสวนทุเรียนคนไหนที่ใช้ยาฆ่าหญ้ามาป้ายขั้วทุเรียนแน่นอน
2. สารที่ใช้ป้ายขั้วคือสาร อิทิฟอน ซึ่งมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ดังนั้นจึงไม่ต้องตื่นกลัว จากการเจอคลิปในโซเชียลต่างๆ
ฝากกดไลค์ กดแชร์โพสนี้กันไปเยอะๆนะครับ เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้บริโภค ขอบคุณข้อมูลจาก สารเอทีฟอนตกค้างในทุเรียนบ่ม…อันตรายจริงหรือ? นิตยสารเคหเกษตร ฉบับที่ 192 ปี 2560 กรมวิชาการเกษตร ทีมงานสมาคมทุเรียนไทย
โดยสรุปแล้วก็คือการป้ายยาในทุเรียนนั้น ไม่ทำให้มีสารเคมีตกค้างอยู่ในเนื้อทุเรียน รวมทั้งไม่ทำให้ทุเรียนเสียรสชาติ เพียงแค่ทำให้ทุเรียนสุกเร็วขึ้น จึงมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคแน่นอน
ขอขอบคุณที่มาจาก : Thai Durian Association – TDA สมาคมทุเรียนไทย