กระเทียม..มากคุณค่าช่วยป้องกันสารพัดโรค ไม่กินไม่ได้แล้ว!!
advertisement
กระเทียมเป็นทั้งสมุนไพรและเครื่องเทศ มีความเผ็ดร้อนและกลิ่นแรง เป็นส่วนประกอบหลักในเมนูอาหารหลายจานทั้งไทยและเทศ นอกจากกระเทียมจะมีประโยชน์ทั้งในเรื่องของการชูรสแล้ว ยังมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพของคนเราด้วย ด้วยสาร allicin ในกระเทียมซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหาร เช่น วิตามิน B1, B6, C, แคลเซียม แมงกานีส ทองแดง ซีลีเนียมและอื่น ๆ อีกมากมาย การรับประทานกระเทียมเพียงเล็กน้อยในทุกๆ วัน จะช่วยบำรุงสุขภาพของคุณอยากรู้กันแล้วใช่มั้ยคะ ว่ากระเทียมมีประโยชน์อย่างไรบ้าง วันนี้ Kaijeaw.com จึงมีคุณประโยชน์ของกระเทียมมาบอกเล่ากันค่ะ
advertisement
สารสำคัญในกระเทียมคือ สารอัลลิซินและสารประกอบซัลเฟอร์มากมาย แต่ที่สำคัญคือ ซัลลิน – ซิสติอิน นอกจากนี้ สารประกอบในกระเทียมยังมีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ มีฤทธิ์ในการช่วยลดความ ดันโลหิต ช่วยไม่ให้เลือดจับตัวเป็นลิ่มหรืออุดตันตามผนังหลอดเลือด ลดการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด แต่ผลิตภัณฑ์กระเทียมที่ขายกันมากมายนั้นบางชนิดอัลลิซินสูญเสียไปมากกว่าครึ่งในขบวนการผลิตบางชนิดแทบ จะไม่มีเลย มีแต่สารประกอบซัลไฟด์ชนิดที่ละลายในน้ำมันเป็นหลัก ดังนั้น จึงไม่ให้ผลเหมือนการกินกระเทียมธรรมชาติ[ads]
คุณประโยชน์ของกระเทียม
1. บำรุงหัวใจ
สารอาหารในกระเทียมดีต่อหัวหัวใจ มันจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดคอเลสเตอรอลและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ช่วยให้ชะลอการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการหัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง
2. ช่วยควบคุมน้ำหนัก
พบผลการศึกษาจาก Nutritionist Cynthia Sass ที่ได้ทำการศึกษากับหนูทดลองที่กินกระเทียม พบว่าหนูที่กินกระเทียมมีน้ำหนักและการสะสมของไขมันลดลงได้
3. ควบคุมความดันโลหิตสูง
มีการศึกษาพบว่ากระเทียมช่วยลดความดันโลหิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความดันโลหิตสูง เนื่องจากกระเทียมจะช่วยขยายหลอดเลือดทำให้การไหลเวียนเลือดสะดวกยิ่งขึ้น คนที่มีความดันโลหิตสูงควรรับประทานกลีบกระเทียมดิบทุกวัน โดยควรในขณะท้องว่าง (ไม่แนะนำในผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ) หรือหากไม่ชอบรสชาติของกระเทียม สามารถดื่มนมตามหลังการรับประทาน
4. รักษาโรคส่าไข้
โรคส่าไข้เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม HHV 6 มีอาการของโรคจะคล้ายคลึงกับโรคหัด หรืออีสุกอีใส จะเกิดตุ่มแดง และแผลอักเสบบนร่างกาย มีวิธีรักษาด้วยธรรมชาติ คือนำกระเทียมบดมาประคบลงบนแผลโดยตรง เพื่อรักษาอาการอักเสบและลดอาการบวม ร่วมกับการรับประทานอาหารเสริมจากสารสกัดกระเทียม เช่น กระเทียมอัดเม็ด หรือน้ำมันกระเทียมก็จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
advertisement
5. ช่วยลดอาการปวดข้ออักเสบ
กระเทียมช่วยลดอาการปวดรวมถึงอาการอื่นๆ ในผู้ที่มีโรคไขข้ออักเสบ สารต้านอนุมูลอิสระและคุณสมบัติต้านการอักเสบที่จะช่วยลดการอักเสบในรูปแบบต่างๆ ของโรคข้ออักเสบ นอกจากนี้ยังมีสาร diallyl disulfide ที่จะช่วยลดการทำลายของเอนไซม์ในกระดูกอ่อน เพื่อบรรเทาอาการปวดในข้อต่ออักเสบและปวดเนื่องจากโรคข้ออักเสบ โดยให้ผู้ป่วยรับประทานกระเทียมร่วมกับอาหารปกติ
6. กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
กระเทียมเป็นแหล่งของวิตามิน C, B6 และแร่ธาตุซีลีเนียมและแมงกานีส ที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และต้านจุลชีพ เสริมสร้างกลไกการป้องกันของร่างกายในการต่อสู้กับการติดเชื้อได้ดี
7. ป้องกันและรักษาไข้หวัด
กระเทียมให้สารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่พอเพียงในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ผู้ที่กินกระเทียมเป็นประจำป่วยได้ยาก และหากว่าป่วยเป็นโรคหวัดแล้ว เราก็สามารถไล่หวัดได้ง่ายๆ ด้วยการหั่นกระเทียมเป็นแว่น แช่ในน้ำร้อนประมาณ 2-3 นาที แล้วกรองเอากากออก จิบเป็นชากระเทียมอุ่นๆ ก็ดี หรือ จะเติมน้ำผึ้งหรือน้ำขิงเข้าไปก็ได้ค่ะ
advertisement
8. ต่อต้านเชื้อรา
กระเทียมมีคุณสมบัติต้านเชื้อราที่มีประสิทธิภาพ ช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อราที่ก่อให้เกิด กลาก เกลื้อน นอกจากนี้ยังช่วยต่อสู้เชื้อราแคนดิดา โดยใช้กระเทียมเจลหรือน้ำมันกระเทียม ทาให้ทั่วบริเวณผิวที่การติดเชื้อรา ในส่วนของเชื้อราในช่องปาก ให้วางกระเทียมในพื้นที่ที่เกิดอาการภายในช่องปาก
9. ต้านโรคภูมิแพ้
ด้วยคุณสมบัติต้านไวรัสและต้านการอักเสบ ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคภูมิแพ้ได้ นอกจากนี้ยังลดการอักเสบทางเดินหายใจ อันเนื่องมาจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ แนะนำว่าคนที่มีอาการแพ้ควรจะเสริมกระเทียมทุกวันในช่วงเกิดโรคภูมิแพ้
10. ยับยั้งมะเร็งร้าย
กระเทียมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูนอิสระ และวิตามินสารอาหารต่างๆ ที่นอกจากจะดีต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังช่วยในการป้องกันการเกิดมะเร็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบย่อยอาหารและปอด ในขณะเดียวกันยังช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเนื้องอกบางชนิด และการลดขนาดของเนื้องอกได้ ที่สำคัญยังมีการพบสาร allyl sulfur ในกระเทียมสามารถชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้[ads]
การบริโภคกระเทียมเพื่อให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
สำหรับปริมาณการบริโภคที่จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุดนั้น ยังไม่สามารถสรุปแน่ชัดได้ แต่ข้อมูลการวิจัยแนะนำวันละกลีบในการลดคอเลสเตอรอล แต่ถ้าเพื่อสุขภาพด้านอื่นแนะนำวัน 1-10 กลีบ
สำหรับผู้ป่วยที่มีระดับโคเลสเตอรอลสูง แม้ว่ากระเทียมสามารถจะลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้ 9-12% แต่ก็ไม่สามารถจะลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติได้ ดังนั้น จึงควรลดอาหารไขมันสูงและคอเลสเตอรอลสูงร่วมกับการกินกระเทียม
ข้อควรระวัง
– สำหรับผู้ที่กินผลิตภัณฑ์กระเทียม การกินในปริมาณสูงอาจก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาการระคายเคืองต่อกระเพาะและทำให้ลมหายใจมีกลิ่น
– ผู้ที่ต้องกินยาต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulant) ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะตัดสินใจใช้กระเทียมเสริม
– ผู้ที่เตรียมตัวผ่าตัด ควรงดการกินผลิตภัณฑ์กระเทียม 1-2 สัปดาห์
– สำหรับผู้ที่มีปัญหาการย่อยอาหารในกระเพาะอาหาร ควรใช้กระเทียมด้วยความระมัดระวัง
– กระเทียมอาจมีผลต่อผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง และอาจส่งผลกระทบกับตัวยาของโรคโลหิตจาง
advertisement
– ในผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารไม่ควรทานกระเทียมสดๆ ในขณะที่ท้องว่าง
สิ่งที่ควรต้องคำนึงถึงเสมอ คือ สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง กระเทียมไม่สามารถใช้แทนยาแผนปัจจุบันได้ และไม่สามารถใช้แทนอาหารได้ สำหรับผู้ที่มีสุขภาพดีอยู่แล้วก็ควรกินกระเทียมธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของอาหารหลัก 5 หมู่ในชีวิตประจำวันร่วมกับโภชนาการที่ดี เพื่อป้องกันหรือลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ
หลายๆ คนไม่ชอบกินกระเทียม สาเหตุหลักๆ อาจมาจาก ความเผ็ดร้อนและกลิ่นแรงๆ ของกระเทียม ที่ทำให้ใครหลายคนส่ายหัวปฏิเสธ แต่เมื่อได้เห็นประโยชน์มากมายเช่นนี้แล้ว ใครที่ชอบเขี่ยกระเทียมไว้ข้างจาน ก็คงต้องตั้งใจกินเครื่องเทศที่มีประโยชน์ชนิดนี้เข้าไปแล้วนะค่ะ เพื่อสุขภาพที่ดีในทุกๆ วันค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com