กวาวเครือแดง..สมุนไพรใกล้ตัว เป็นยาอายุวัฒนะ

    กวาวเครือแดง เป็นไม้เถายืนต้นขนาดใหญ่ ที่ชอบขึ้นตามภูเขาสูง จุดเด่นของไม้ชนิดนี้คือ เมื่อสะกิดบริเวณเปลือกจะมียางสีแดงข้นๆ คล้ายกับเลือดไหลออกมา และในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธุ์ จะออกดอกเป็นดอกสีส้มเหลืองคล้ายดอกทองกวาว บานสะพรั่งอยู่บนยอดดอย เป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดที่หาได้ยากมากในปัจจุบัน ประโยชน์ของกวาวเครือแดงนิยมนำมาเป็นยาสมุนไพรรักษาโรค และขึ้นชื่อโดดเด่นในเรื่องสรรพคุณเพิ่มสมรรถภาพทางเพศแก่คุณผู้ชาย เพราะเห็นผลจริงเชื่อกันว่าเทียบเท่ายาปลุกอารมณ์อย่างไวอากร้ากันเลยทีเดียว จึงมีการนำมาสกัดทำยาสมุนไพรบรรจุผลิตภัณฑ์วางขายกันอย่างแพร่หลาย เรามาทำความรู้จักกับกวาวเครือแดงให้มากขึ้นกันนะคะ

    ชื่อวิทยาศาสตร์ของกวาวเครือแดง : Butea superba Roxb. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยถั่ว FABOIDEAE (PAPILIONOIDEAE หรือ PAPILIONACEAE) เช่นเดียวกับกวาวเครือขาว

    ชื่อเรียกตามท้องถิ่นอื่นๆ : กวาวเครือ กวาวหัว ตานจอมทอง จานเครือ ไพมือ ไพ้ตะกุ ภาคใต้เรียกทองกวาว, ทองเครือ, ตานเครือ, จอมทอง หรือกวาวหัว ส่วนทางภาคอีสานเรียกจานเครือ

advertisement

http://ksthaiherb.blogspot.com/2013/09/butea-info.html

ลักษณะของกวาวเครือแดง : เป็นไม้เถายืนต้นขนาดใหญ่ โดยเถาจะใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นต้นตามแต่อายุของต้นกวาวเครือแดง เนื้อแข็ง ชอบขึ้นพาดกับต้นไม้ใหญ่ 
    ใบ : ใบใหญ่คล้ายใบของต้นทองกวาว
    ดอก : ดอกใหญ่ คล้ายดอกแคแสด เป็นพวงระย้าเหมือนดอกทองกวาว มีดอกสีส้มอมเหลืองคล้ายดอกทองกวาวเช่นกัน จะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์
    หัว : ลงใต้ดินคล้ายหัวมันแกวใหญ่ๆ เปลือกสีน้ำตาล ฝานเปลือกออกจะมีสีแดงสดซึมออกมา เนื้อในสีขาว มีอายุยืน บางหัวใหญ่เท่าตัวคนก็มี มีรากเหง้า และลำต้นเลื้อยพันไปทั่วกับต้นไม้ใหญ่ข้างเคียง 
    ฝัก : มีฝักเล็กแบนบาง 
    ราก : มีรากขนาดใหญ่ประมาณน่องขาของคน มีรากแขนงแยกจากเหง้าเลื้อยไปรอบๆ หลายเมตร

[ads]

advertisement

http://ksthaiherb.blogspot.com/2013/09/butea-info.html

ประโยชน์และสรรพคุณของกวาวเครือแดง
    หัว – รสเย็นเบื่อเมา ช่วยในการบำรุงรักษาผิวพรรณให้เต่งตึง กระชับ บำรุงความกำหนัด เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยบำรุงรักษาสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ ตลอดจนแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ทำให้หน้าอกใหญ่ และเมามากกว่ากวาวเครือขาว 
    เปลือกเถา – ให้รสเมาเบื่อ ช่วยแก้พิษงู และแก้อาการตกเลือด 
    เถาและใบ – ให้รสเมาเบื่อ ช่วยในการกระตุ้นความกำหนัด แก้ปวดรอบเดือน รวมทั้งแก้อาการปวดท้อง และช่วยรักษาโรคผิวหนัง อย่างหูด หรือผื่นคัน 

ตำรายาพม่า : ระบุว่าใช้เป็นยาอายุวัฒนะเช่นเดียวกับกวาวเครือขาว แต่มีฤทธิ์แรงกว่า

สมุนไพรกวาวเครือแดงมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ เสริมสมรรถนะทางเพศ
    สมุนไพรที่เหมาะกับคุณผู้ชายเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากเป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงร่างกายแล้ว ที่สำคัญคือช่วยในเรื่องของสมรรถนะทางเพศ ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดี เรียกได้ว่าเทียบเท่ากับกับไวอากร้าเลยทีเดียว ซ้ำยังช่วยเพิ่มจำนวนของอสุจิด้วย แต่ทั้งนี้ไม่ควรรับประทานมากเกินขนาด เพราะผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ถือว่าอันตรายและมีพิษมากกว่ากวาวเครือขาว

กวาวเครือแดงจัดอยู่ในตำรับยาสมุนไพร “พิกัดเนาวโลหะ” 
     อันประกอบไปด้วย รากกวาวเครือแดง รากขันทองพยาบาท รากทองกวาว รากทองพันชั่ง รากทองโหลง รากทองหลางหนาม รากทองหลางใบมน รากใบทอง และรากจำปาทอง โดยเป็นตำรับยาที่มีสรรพคุณช่วยแก้เสมหะ แก้ลม ลมที่เป็นพิษ ดับพิษ ช่วยชำระล้างลำไส้ สมานลำไส้ แก้โรคดี แก้โรคตับ แก้ริดสีดวงทวาร และขับระดูร้าย

กวาวเครือแดงจัดอยู่ในตำรับยาสมุนไพร “ตรีผลา”
    การใส่กวาวเครือแดงร่วมกับสมุนไพร เช่น “ตรีผลา” คือ มะขามป้อม สมอไทย สมอพิเภก ก็มีในตำรับโบราณ ทั้งนี้ “ตรีผลา” ก็มีความเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย การทานร่วมกับกวาวเครือ จึงช่วยให้มีสมดุลที่ดี

     ปัจจุบันกวาวเครือแดงชนิดที่รับประทาน ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเป็นตำรับยาแผนโบราณ และยาแผนโบราณสามัญประจำบ้าน ถือได้ว่ามีความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อได้รับอนุญาตจาก อย. ให้ขึ้นทะเบียนเป็นยาสามัญประจำบ้านด้วยแล้ว เป็นการแสดงว่าเป็นยาที่สามารถรับประทานเองได้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งจากแพทย์

[yengo]

advertisement

http://www.pueraria-thai.com/images/butea-superba-01.jpg

ข้อควรระวังการใช้กวาวเครือแดง
    1. กวาวเครือแดง ไม่ควรรับประทานในผู้ป่วยโรคตับ และถ้าเป็นโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน 
    2. การรับประทานกวาวเครือแดงในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะทำให้เกิดพิษต่อตับ หรือทำให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้
    3. องค์การอาหารและยาของไทยระบุขนาดการรับประทานกวาวเครือแดง ไม่เกิน 2 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัมต่อวัน

ผลข้างเคียงกวาวเครือแดง : ในตามตำราสมุนไพรไทยระบุไว้ว่า กวาวเครือชนิดหัวแดงนี้มีพิษมาก ปกติแล้วจะไม่นิยมนำมาทำเป็นยาสมุนไพร เพราะการรับประทานในปริมาณมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้ เช่น อาจมีอาการมึนเมา มีอาการคลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น

    สมุนไพรไทยดีและมีประโยชน์อย่างมากมายเลยทีเดียวนะคะ แม้ปัจจุบันจะมีทางเลือกยาแผนปัจจุบัน วิตามินสารอาหารสังเคราะห์ต่างๆ อย่างมากมาย แต่ก็เชื่อว่าพืชสมุนไพรมีประโยชน์ต่อร่างกายได้มากกว่าและปลอดภัยไร้สารเคมีกวนใจแน่นอน หากว่าใครที่อยากได้สรรพคุณจากกวาวเครือแดง ก็ควรอยู่ภายใต้การแนะนำของผู้รู้ หรือหากว่าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรใดๆ ก็ควรเลือกด้วยความระมัดระวัง และเลือกจากแหล่งที่ไว้วางใจได้

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com