โรคตาแดง..ป้องกันได้อย่างไร?
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/07/โรคตาแดง-6-1024x512.jpg)
advertisement
ฤดูฝนมักมาพร้อมกับการระบาดของโรคหลายโรคด้วยกัน รวมทั้งโรคตาแดงด้วย ซึ่งเกิดจากการที่ดวงตามีการสัมผัสกับเชื้อโรค หลักๆ คือ การที่เอามือไปสัมผัสกับเชื้อโรคแล้วมาสัมผัสตาตัวเอง โรคตาแดงสามารถเกิดได้กับทุกคนทุกเพศทุกวัย และมักจะระบาดในกลุ่มชุมชน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ทำงาน สถานเลี้ยงเด็ก รวมทั้งที่สาธารณะต่างๆ ด้วย โรคตาแดงจึงไม่ใช่โรคไกลตัวเลยนะคะ ดังนั้นวันนี้ Kaijeaw.com จึงมีวิธีการป้องกันตนจากโรคตาแดงมาฝากกัน จะได้รู้เท่าทันและห่างไกลโรคได้ค่ะ
advertisement
![โรคตาแดง-1](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/07/โรคตาแดง-1-2.jpg)
โรคตาแดง คือ มีอาการของเยื่อบุตาอักเสบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรืออาจเกิดจากโรคภูมิแพ้ โรคนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงขั้นตาบอด แต่ก็สร้างความทุกข์ทรมานไปกับอาการของโรคได้ โดยทั่วไปจะมีอาการเจ็บเคืองตา ตาแดง น้ำตาไหลหรือมีขี้ตา บางคนมีเยื่อบุตาขาวบวม อาจเริ่มเป็นตาเดียวก่อน แล้วค่อยลามไปตาอีกข้าง
สาเหตุของโรคตาแดง
ทั้งนี้ โรคตาแดงเป็นการอักเสบของเยื่อบุตาขาว อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ซึ่งสามารถแยกสาเหตุตาแดงออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ[ads]
1. เชื้อไวรัส มักจะไม่ค่อยมีขี้ตา แต่มีน้ำตาไหล เคืองตามาก อาจมีต่อมน้ำเหลืองที่หน้าหูโต มักเริ่มเป็นที่ตาใดตาหนึ่งก่อน และลามไปเป็นทั้งสองตาอย่างรวดเร็ว มีประวัติติดต่อกันในคนหมู่มากหรือจากที่ทำงาน โรงเรียน หรือในครอบครัว มักจะหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์
2. เชื้อแบคทีเรีย จะมีขี้ตาเป็นสีเขียวหรือสีเหลือง อาจเป็นตาเดียวหรือสองตาก็ได้ ติดต่อกันได้เช่นกัน แต่จะระบาดน้อยกว่าตาแดงจากเชื้อไวรัส 3. ตาแดงจากโรคภูมิแพ้ จะมีอาการคันตามาก น้ำตาไหล อาจมีขี้ตาขาวหรือเหนียว หนังตาบวม มักมีประวัติเป็นๆ หายๆ อาจมีสาเหตุของการแพ้ชัดเจนหรือมีอาการแพ้ของร่างกายส่วนอื่น เช่น หอบหืดร่วมด้วย เป็นต้น
ข้อสังเกตคือ เมื่อเป็นตาแดงจะต้องไม่มีอาการตามัวลง หากมีอาการตาแดงร่วมกับการมองเห็นลดลงหรือตามัว ให้ระวังว่าอาจเกิดจากโรคตาที่อันตรายกว่า และถ้ามีอาการเช่นนี้แล้วมีขี้ตา เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากการเป็นหนองที่กระจกตาหรือติดเชื้อรุนแรงในลูกตา แต่ถ้าไม่มีขี้ตาอาจเกิดจากกระจกตาอักเสบหรือม่านตาอักเสบ ดังนั้น หากมีอาการดังกล่าวต้องรีบไปพบจักษุแพทย์
advertisement
![โรคตาแดง-2](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/07/โรคตาแดง-2.jpg)
ทั้งนี้ ภาวะตาแดงนั้นอาจเกิดจากเลือดออกใต้เยื่อบุตาขาว เนื่องจากการเผลอไปขยี้ตาแรงๆ เมื่อสังเกตในกระจกตอนตื่นนอน อาจพบว่าลักษณะตาเป็นปื้นสีแดงสดที่บริเวณตาขาว ลักษณะนี้ไม่มีอันตราย เลือดจะไม่เข้าตาดำ ไม่ทำให้ตามัว และไม่ติดต่อกัน
การป้องกันตนจากโรคตาแดง
1. ไม่ใช้มือสัมผัสตา
2. ไม่ใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกัน โดยเฉพาะของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา เครื่องสำอาง ช้อนซ่อม เป็นต้น
3. ไม่สัมผัสมือหรือตาผู้ป่วย รวมทั้งไม่คลุกคลีด้วย
4. หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งที่เผลอถูกตา รวมทั้งก่อนและหลังหยอดตา
advertisement
![โรคตาแดง-4](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/07/โรคตาแดง-4.jpg)
แนวทางการรักษา
1. โรคตาแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัส มักจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
– การประคบเย็นที่ตาจะช่วยให้สบายตาขึ้น
– ใช้ยาหยอดตากลุ่มยาต้านฮีสตามีน
เมื่อมีอาการวันละ 3-4 ครั้ง ช่วยลดอาการระคายเคืองตา ถ้าเริ่มมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ ให้หยอดยาปฏิชีวนะเช่นเดียวกับตาแดงที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย โดยเมื่อหยอดยา 2 ชนิดพร้อมกันจะต้องทิ้งช่วงห่างประมาณ 5 นาที เพื่อไม่ให้ยาล้างกันออกก่อนซึมเข้าตา ที่สำคัญไม่ควรหยดยาที่มีสเตียรอยด์ เพราะจะทำให้หายช้า และอาจมีการติดเชื้ออื่นแทรกซ้อน
2. โรคตาแดงจากเชื้อปฏิชีวนะ
– ควรทำความสะอาดตา ขี้ตา
– ใช้ยาหยอดตาที่มียาปฏิชีวนะวันละ 4 ครั้งจนไม่มีขี้ตา
แต่ต้องระวังการแพ้ยา โดยหากมีอาการหนังตาบวมแดง ให้หยุดยาและรีบนำยามาปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรว่าเกิดจากการแพ้ยาหรือไม่ ถ้าใช่ต้องจดจำชื่อยาที่แพ้ไว้ เพื่อเลี่ยงการหยอดตานั้นในครั้งต่อไป
advertisement
![โรคตาแดง-5](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2016/07/โรคตาแดง-5.jpg)
การปฏิบัติตนเมื่อเป็นโรคตาแดง
1) หยุดเรียนหรือพักงานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ไม่ควรไปในที่ชุมชน หรือผู้คนพลุกพล่าน
2) ใช้กระดาษนุ่มซับน้ำตาหรือขี้ตา แล้วทิ้งในถังขยะที่มิดชิด ( ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าเนื่องจากจะเก็บสะสมเชื้อไว้และติดต่อไปยังผู้อื่นได้ )
3) หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ที่ฆ่าเชื้อโรคในทุกครั้ง หลังจากจับบริเวณใบหน้าและตา เนื่องจากเชื้อไวรัสติดต่อโดยการสัมผัสมากที่สุด การล้างมือจะช่วยระงับการกระจายเชื้อได้อย่างดี[ads]
4) ล้างมือทั้งก่อนและหลังหยอดยา
5) พักผ่อนให้เพียงพอ
6) หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่นเป็นเวลา 7 วันหลังมีอาการเพื่อลดการแพร่เชื้อ
7) ไม่ใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น
8) ไม่ควาใช้ผ้าปิดตาเพราะจะยิ่งทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้มากขึ้น
9) เปลี่ยนปลอกหมอนทุกวันเพื่อกำจัดเชื้อโรคที่อยู่ปลอกหมอน
10) การใส่แว่นกันแดด จะช่วยลดการระคายเคืองจากแสงได้
ข้อควรรู้ : หยอดตาบางชนิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงทั้งต่อ ดวงตาหรือต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย ดังนั้นควรใช้ต่อเมื่อจักษุแพทย์สั่ง อ่านฉลากกำกับให้ละเอียด หากมีข้อสงสัยหรือพบความผิดปกติใดๆ ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
แนวทางในการป้องกันตนให้ห่างไกลโรคตาแดงนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ คือหมั่นรักษาความสะอาด ล้างมือทุกครั้งก่อนที่จับบริเวณใบหน้า ไม่ใช้มือสัมผัสดวงตา รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคตาแดงอยู่แล้วด้วย ควรล้างมือบ่อยๆเนื่องจากโรคตาแดงจะติดต่อโดยการสัมผัสมากที่สุด การล้างมือจะช่วยตัดการแพร่กระจายเชื้อได้อย่างดีค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com