10 มารยาทในการขับรถยนต์ ที่คนใช้รถใช้ถนนต้องรู้!!
advertisement
การคมนาคมส่วนใหญ่มักจะอยู่บนท้องถนน ใครๆ ก็มีรถยนต์ส่วนตัว เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง ทำให้บนท้องถนนนั้นเต็มไปด้วยรถยนต์ ยิ่งถ้าหากว่าเวลาเร่งด่วนในเมืองหลวงแล้วล่ะก็ การจราจรก็จะหนาแน่นกว่าเวลาอื่นๆ เช่นนี้หากว่าผู้ขับขี่ขับรถเพียงตามใจชอบ ไม่คำนึงถึงกฎระเบียบและมารยาทแล้วล่ะก็ ก็จะนำมาซึ่งปัญหามากมายบนท้องถนน ในส่วนของกฎหมายนั้นยังพอทราบได้ด้วยมีกฎระเบียบที่แน่ชัด แต่สำหรับมารยาทในการขับรถนั้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้ประสบการณ์และการเรียนรู้ โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หัดขับ การเรียนรู้มารยาทในการขับขี่ ก็จะช่วยให้ตัวคุณเอง ปลอดภัยบนท้องถนนได้ในระดับหนึ่ง รวมทั้งลดความวุ่นวายเลและปัญหาต่างๆ บนท้องถนนไปได้อีกเยอะ ดังนั้น Kaijeaw.com จึงมี 10 มารยาทในการขับรถยนต์ ที่คนใช้รถใช้ถนนต้องรู้!! มาฝากกันค่ะ
advertisement
1. ไม่ขับแช่ขวา
บนถนนไม่ว่าจะมีสองเลนหรือมากกว่า เราไม่ควรขับแช่ขวา แม้ว่าเราจะขับตามความเร็วที่กฎหมายกำหนดก็ตามที เพราะหลายครั้งที่บนถนนมีสภาพการจราจรหนาแน่น เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ เพราะมีรถวิ่งแช่ขวาด้วยความเร็วคงที่ ทำให้รถที่มาข้างหลังไปก่อนไม่ได้ จึงติดยาว และยาวได้หลายกิโลเมตรเลยทีเดียว ดังนั้นจึงควรขับรถในช่องจราจรขวาสุด และมีรถด้านหลังขับขึ้นมาด้วยความเร็วสูง คุณควรให้สัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายและเปลี่ยนไปยังช่องจราจรด้านซ้าย เพื่อให้รถที่มีความเร็วสูงกว่ารถของท่านแซงขึ้นไปอย่างปลอดภัย
2. ไม่ขับจี้ท้ายคันหน้า
ในเรื่องของอุบัติเหตุ ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าอุบัติเหตุชนท้ายบ้านเรานั้นส่วนมากมักจะเกิดครั้งละหลายๆ คัน บางจุดบางแห่งชนท้ายกันนับสิบคันก็มี และพบได้บ่อยครั้ง การขับตามหลังต้องเว้นระยะห่างจากคันหน้า เพียงพอที่จะหยุดได้อย่างปลอดภัยเมื่อคันหน้าเกิดอุบัติเหตุหรือหยุดอย่างกะทันหัน
3. ให้รถทางขวาไปก่อน
เมื่อขับรถมาถึงทางร่วม ทางแยก และวงเวียน “ต้องให้รถทางขวาไปก่อน” เมื่อขับมาถึงทางแยกใหญ่ไม่ว่าจะสามแยกหรือสี่แยกกรณีที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรรวมถึงเมื่อขับเข้าวงเวียนต้องให้รถทางขวาไปก่อนเสมอ เนื่องจากบ้านเราขับเลนซ้าย เมื่อถึงแยกหรือวงเวียนรถที่มาทางขวาจะถือว่ามาก่อน ดังนั้นต้องลดความเร็วและดูให้ปลอดภัยก่อนเสมอ [ads]
4. การขับรถแซง
ผู้ขับควรให้สัญญาณไฟก่อนแซงและเร่งความเร็วรถแซงขึ้นไป และเว้นระยะห่างก่อนให้สัญญาณไฟขอกลับเข้าช่องจราจรเดิม และเร่งความเร็วให้เหมาะสมกับรถคันที่อยู่ด้านหน้า การแซงรถคันหน้าได้แล้วปาดหน้าชิดซ้ายทันที เป็นการแซงที่ไม่ปลอดภัยและแสดงถึงความไร้มารยาทของผู้ขับขี่รถ
5. รักษาเลนของตนเองเมื่อเวลาเลี้ยว
ต้องจำไว้เสมอว่า ถ้าคุณอยู่เลนไหน เมื่อเลี้ยวแล้วก็ต้องรักษาแนวให้อยู่ในเลนนั้น เช่นเมื่อ เราขับเลนขวาสุดเมื่อเราเลี้ยวขวาแล้วก็ต้องรักษาช่องทางขวาเอาไว้จากการเลี้ยวที่ไม่รักษาเลนของตัวเองไว้ เช่นจากเลนที่สองจากขวาเมื่อเลี้ยวแล้วก็ปาดมาขวาสุดทันใด ทำให้เกิดการเบียดเสียดกลางแยก รถไปได้ช้า หลายครั้งก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุด้วย
6. ผู้ขับขี่ไม่ควรเปิดไฟสูงขณะรถสวนกัน
หรือขับตามหลังรถคันอื่นหรือเพื่อไล่รถคันหน้า เพราะไฟจะส่องไปเข้าตาผู้ขับคันนั้นทำให้มองไม่เห็นถนน หรืออาจตกใจขับเปลี่ยนเลนหรือเร่งเครื่องหนีซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ การใช้ไฟสูงที่ถูกต้องและไม่เสียมารยาท ควรเปิดไฟสูงเพื่อตรวจสอบสภาพถนนและริมถนน เฉพาะเส้นทางที่มืดมากและไม่มีรถวิ่งอยู่ด้านหน้าหรือสวนทางมา หลังจากนั้นให้ปิดไฟสูงทันทีที่มีรถวิ่งอยู่ด้านหน้าหรือสวนทางมา
7. ไม่ควรเปิดไฟสูงแสดงการขอบคุณ
เมื่อมีผู้อื่นแบ่งปันน้ำใจในการใช้รถใช้ถนนให้ ไม่ควรเปิดไฟสูงแสดงการขอบคุณ แต่ให้แสดงความขอบคุณโดยโค้งศีรษะ ยกมือขวาขึ้นระดับคิ้ว หรือส่งยิ้มให้
8. ปิดสปอตไลท์ในเมือง
ตาม พ.ร.บ. จราจร สปอตไลท์และไฟตัดหมอก ให้เปิดใช้ได้เฉพาะเมื่อฝนตกหนักหรือหมอกลงจัดเท่านั้น การเปิดใช้ทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็น มันจะส่องแยงตารถคันที่สวนมาหรือแยงเข้ากระจกมองข้างและหลังของรถคันหน้า เป็นการรบกวนสายตาทำให้สมาธิลดลง [ads]
9. ไม่หยุดรถบนเส้นทแยงสีเหลืองหรือบริเวณปากซอย
เครื่องหมายเส้นทแยงสีเหลืองซึ่งถือเป็นเครื่องหมายจราจร แสดงเขตพื้นที่ห้ามหยุดหรือจอดรถ ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก เพื่อไม่ให้เกิด ปัญหาการจอดกีดขวางทำให้การจราจรติดขัด และควรเปิดทางให้รถในเส้นทางอื่นสามารถขับรถผ่านไปได้ในขณะที่รถท่านติดการจราจร
10. หยุดรถทางม้าลาย
เมื่อเห็นคนยืนบนทางเท้าและแสดงท่าทีที่จะข้ามถนนตรงทางม้าลาย ผู้ขับรถควรแตะเบรกเตือนเพื่อให้รถหลังเห็นสัญญาณไฟและรู้ว่าท่านกำลังจะหยุดรถ และหยุดรถตรงทางม้าลาย จนกระทั่งคนข้ามถนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขับไปต่อ
นอกจากกฎระเบียบและมารยาทของการจราจรแล้ว ขอให้ผู้ขับขี่ ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน อย่าได้ใจร้อน ให้รู้จักใจเย็น ปล่อยวางและให้อภัยกัน เพราะหลายต่อหลายครั้งที่การขับขี่บนท้องถนนนั้น จะมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆมากมาย การสงบและใจเย็นจะช่วยให้คุณสามารถคิดและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดี ส่งผลดีทั้งต่อตัวคุณเองและต่อผู้อื่นค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com