ข้าวผัดแฮมหอมๆ …ชวนหิว

      วันนี้อัญมีเมนูอร่อยมาแนะนำ ข้าวผัดแฮมหอมๆร้อนๆควันกรุ่น ท้องเริ่มร้องกันแล้วใช่มั๊ยคะ แถมจานนี้ยังมีผักที่มีประโยชน์จากก้านคะน้าและแครอท ซึ่งมีรสหวานกรอบตามธรรมชาติ มาเตรียมของกันเลยค่ะ

วัตถุดิบ

วัตถุดิบ

     1. ข้าวเย็น 1 ถ้วย

     2. แฮม 2 แผ่น หั่นเป็นชิ้น

     3. ไข่ไก่ 1 ฟอง

     4. ก้านคะน้า 1 ต้น ปอกเปลือกตรงโคนแข็งๆทิ้งไป ซอยเป็นแว่น

     5. แครอทหั่นเต๋า 1/2 ช้อนโต๊ะ

     6. น้ำมันหอย 1/3 ช้อนโต๊ะ

     7. ซอสปรุงรส 1/4 ช้อนโต๊ะ

     8. เกลือป่น ปลายช้อนชา

     9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

    10. พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา

     11. เนย 1/2 ช้อนชา

     12. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

     13. ต้นหอม, แตงกวา, มะนาวฝาน[ads]

       วิธีทำ

        1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอร้อนเจียวกระเทียม ตามด้วยแครอท เกลี่ยไว้ข้างกระทะ ตอกไข่ลงไป ตะหลิวยีไข่ให้แตก

เจียวกระเทียม

แครอท

        2. เมื่อไข่เริ่มจับตัวเป็นก้อน เอาตะหลิวเกลี่ยไว้ข้างกระทะ ใส่ข้าวเย็น ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย พริกไทย เกลือป่น ผัดให้เครื่องปรุงซึมทั่วเมล็ดข้าว

เหลืองน่าอร่อยมาก

ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย

       3. ใส่ก้านคะน้า แฮม เร่งไฟแรง ผัดต่อให้ทุกอย่างสุกและเมล็ดข้าวแห้ง ตามด้วยเนย คลุกเคล้าอีกครั้ง ดับไฟตักใส่จานเสิร์ฟ

ใส่ก้านคะน้า แฮม

เร่งไฟแรง

ผัดจนทุกอย่างสุก[ads]

       จัดใส่จาน น่าอร่อยมาก

         สรรพคุณ และ ประโยชน์ของผักคะน้า

         ผักคะน้าผักใบเขียวนั้น จัดว่าเป็นอีกหนึ่งพืชสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคได้ด้วยนะ และผักคะน้าก็หาซื้อได้ง่ายมาก ๆ ราคาก็ไม่แพงจึงเป็นที่นิยมที่จะนำมาปรุงอาหารกันค่อนข้างมาก คุณพ่อบ้านแม่บ้านมักจะมองเห็น ประโยชน์ของผักคะน้า โดยการนำมาทำอาหาร อาทิเช่น ราดหน้า ผัดผักคะน้าหมูกรอบ 

         แม้แต่เครื่องเขียงของขาหมู ก็ยังต้องมีผักคะน้าด้วยไม่งั้นไม่ใช่ขาหมูนะขอบอก แต่วันนี้เราไม่ได้พูดถึงอาหารหรอกค่ะแต่เราจะมาพูดถึง สรรพคุณของผักคะน้า และ ประโยชน์ของผักคะน้า กันต่างหากค่ะ มาดูกันกว่าค่ะว่า สรรพคุณของผักคะน้า และ ประโยชน์ของผักคะน้า จะมีมากแค่ไหนกันนะมาดูกันเลย

         คะน้ามีวิตามินหลายชนิด เช่น เบต้าแคโรทีน 186.92 ไมโครกรัม/100 กรัม [3] ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และยังมีวิตามินซีช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้ชุ่มชื้น และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคมีความแข็งแรงสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีแคลเซี่ยมช่วยเสริมสร้างกระดูก 

         คะน้ามีสารต้านอนุมูลอิสระ คือวิตามินซีและเบต้า-แคโรทีน ซึ่งร่างการจะเปล่ยนเป็นวิตามินเอที่มีผลต่อการบำรุงสายตา เสริมสร้างสุขภาพผิวพรรณและต้านทานการติดเชื้อ คะน้าให้โฟเลตและธาตุเหล็กสูง ซึ่งสารทั้งงสองชนิดนี้จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง 

         คุณค่าอาหาร 

         คะน้า 100กรัม ให้พลังงาน 31 กิโลเคลอรี ประกอบด้วยน้ำ 92.1 กรัม โปรตีน 2.7 กรัม ไขมัน 0.5 กรัม คาร์โบไฮเดรต 3.8 กรัม เส้นใย 1.6 กรัม แคลเซียม 245 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 80 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัม เบต้า-แคโรทีน 2,512 ไมโครกรัม วิตามินเอ 419 iu. วิตามินบี1 0.05 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.08 มิลลิกรัม ไนอะซิน 1.0 มิลลิกรัม วิตามินซี 147 มิลลิกรัม 

         ข้อควรระวัง 

         ในผักคะนั้นในพบ สารกอยโตรเจน (goitrogen) ซึ่งบริโภคมาก ๆ จะทำให้ท้องอืด

เรียบเรียงโดย : Kaijeaw.com ขอขอบคุณสูตรโดยคุณ : Anchana Khumboo