ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ!! ‘น้ำลายเทียม’ โครงการตามพระราชดำริ ช่วยผู้ป่วยปัญหาน้ำลายแห้ง!!
advertisement
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ซึ่งถือได้ว่าเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีพ ดังนั้นมูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ทราบว่า ทางสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีความสนใจที่จะผลิตอาหารสำเร็จรูปประเภทเจล เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไม่ได้สามารถกลืนอาหารเองได้
ต่อมาพระองค์จึงรับสั่งให้สนับสนุนโดยการเป็นผู้ออกทุนสำหรับการวิจัยให้ทั้งหมด และจากนั้นจัดตั้งเป็นโครงการ จนทุกอย่างเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
advertisement
โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในเรื่องของสาธารณสุขนั้นมีมากมาย ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส และอาศัยอยู่ในถิ่นธุรกันดาล ที่พระองค์ทรงใส่ใจ และแสดงความห่วงในอยู่เสมอ
หนึ่งในโครงการทางด้านสาธารณสุขอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญของพระองค์ คือ โครงการ “น้ำลายเทียม” ที่ทรงมีพระราชดำริจากความสนพระทัยในเรื่องน้ำอยู่เป็นทุนเดิม เพราะพระองค์ก็ทรงใช้น้ำลายเทียมเช่นกัน เนื่องจากพระองค์เสวยพระโอสถรักษาโรคหัวใจ ทำให้น้ำลายแห้ง เช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคมะเร็งในช่องปาก และโรคอื่นๆ ที่อาจส่งผลข้างเคียงให้ต่อมน้ำลายทำงานผิดปกติเช่นกัน
advertisement
โครงการน้ำลายเทียม จึงก่อตั้งขึ้น เพื่อลดการนำเข้าน้ำลายเทียมจากต่างประเทศที่มีราคาแพง และยังช่วยให้ประชาชนชาวไทยที่มีปัญหาน้ำลายแห้ง ได้ใช้น้ำลายเทียมกันอย่างทั่วถึง นอกจากนี้น้ำลายเทียมจากต่างประเทศยังมีสารกันบูด ที่ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายด้วย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ทำงานร่วมกับมูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อผลิตน้ำลายเทียมตามพระราชประสงค์[ads]
advertisement
หากไม่มีน้ำลาย สุขภาพเราจะเป็นอย่างไร?
น้ำลายเทียมมีความสำคัญมาก เพราะหากภายในช่องปากของเราไม่มีน้ำลาย เนื่องมาจากต่อมน้ำลายทำงานได้ไม่ดีพอ หรือไม่ทำงาน จะทำให้ผู้ป่วยกลืนอาหารลำบาก แสบคอ กระหายน้ำ พูดไม่ชัด ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น และทรมานมาก
advertisement
ใครที่มีโอกาสต้องใช้น้ำลายเทียม?
ผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยวิธีฉายรังสีบริเวณศีรษะ และลำคอ เช่น มะเร็งในช่องปาก หรืออาจจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับต่อมน้ำลาย โรคเบาหวาน โรคภูมิต้านทานต่อต้านตัวเอง เช่น กลุ่มอาการโจเกรน โรคไขข้ออักเสบ โรคลูปัสอีริธีมาโตซัสชนิดทั่วกาย ผู้ป่วยที่ได้รับผลข้างเคียงจากยา เช่น ยารักษาความดันโลหิต ยาต้านฮิสตามีน ยาต้านอาการเศร้าซึม ยาขับปัสสาวะ ยาอักเสบที่ไม่ใช่กลุ่มสเตียรอยด์ และอื่นๆอีกมาก รวมถึงการทำงานของท่อน้ำลายที่ผิดปกติจากความเครียดสะสม ความวิตกกังวล โรคซึมเศร้า และการขาดน้ำดื่มอย่างเพียงพอ
advertisement
น้ำลายเทียมตามพระราชดำริ
น้ำลายเทียมที่ได้จากผลงานวิจัยของสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับมูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพที่ดีทัดเทียมของนำเข้าจากต่างประเทศ ให้ความชุ่มชื้นในช่องปาก ช่วยส่งเสริมสมดุลความเป็นกรดด่างในช่องปาก ไม่มีสารกันบูดทำลายสุขภาพ แต่ยังคงเก็บรักษาได้อย่างยาวนาน มีสารละลายบัฟเฟอร์ที่มีในน้ำลายธรรมชาติ และยังต้นทุนต่ำเพียง 20 บาทต่อ 1 หลอด หรือ 60 ซีซีเท่านั้น[ads]
advertisement
ลักษณะของน้ำลายเทียมในโครงการพระราชดำริจะเป็นวุ้นใสเหมือนเจล ในชื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ว่า “วุ้นชุ่มปาก (Oral Moisturizing Jelly)” โดยมีให้เลือกหลายกลิ่น หลายรสชาติ จากกลุ่มตัวอย่างของผู้ป่วยพบว่า มีความพึงพอใจกับน้ำลายเทียมกลิ่นมินท์มะนาว และกลิ่นสตอเบอร์รี่ สามารถให้ความชุ่มชื้นในปากได้ยาวนานถึง 2 ชั่วโมง 40 นาที 70% ของผู้ป่วยที่ใช้น้ำลายเทียมไป 2-4 สัปดาห์พบว่า น้ำลายเทียมชนิดเจลช่วยบรรเทาอาการปากแห้งได้อย่างมาก และพบว่าเมื่อรับประทานน้ำลายเทียมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน ช่วยให้น้ำลายมีค่าความเป็นกรดด่าง และความสามารถในการปรับกรดด่างดีกว่าตอนก่อนใช้
advertisement
งานวิจัยยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ ทีมงาน เจ้าหน้าที่ นักวิจัย ยังคงค้นคว้า และพัฒนาสูตรน้ำลายเทียมให้ดียิ่งขึ้น ในอนาคตอันใกล้เราอาจจะได้ใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น เพื่อุขภาพที่ดีขึ้นสำหรับประชาชนชาวไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในชุมชนที่ห่างไกลความเจริญมากเท่าใดก็ตาม เพราะบริการสาธารณสุขที่ดี ทุกคนไม่ว่าใครต้องเข้าถึงได้ ตามพระราชดำรัสของพ่อหลวงของเรา
ขอขอบคุณที่มาจาก : นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 156 ธันวาคม 2556 โดย กฤตสอร, mahidol.ac.th