บทเรียนราคาแพง!! ญาติเห่อลูก ขออุ้มขอหอม จนทำให้ลูกป่วยหนัก เป็นโรคนี้..ใจแม่แทบสลาย!!
                    advertisement
	
	     เหตุการณ์นี้นับว่าเป็นเรื่องที่อยากจะขอแชร์ไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ที่มีลูกน้อย เพราะเด็กยังไม่มีภูมิต้านทาน ถ้าหากสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ใหญ่มากไปก็อาจจะทำให้ติดโรคได้ โดยเป็นเรื่องราวจากคุณ Yungying Naka  ที่ได้แชร์ประสบการณ์ที่เจอมากับตัวเอง หลังคลอดลูกแล้วตัวเองต้องอยู่ไฟ แล้วได้ฝากลูกน้อยไว้กับญาติที่เป็นไข้หวัด  และในตอนนั้นญาติ ๆ หลายคนกำลังเห่อหลาน ต่างเข้าอุ้มและหอมลูกชายเธอกันนับไม่ถ้วน ทำให้สันนิษฐานว่า นั่นอาจเป็นสาเหตุที่มาของอาการป่วยของลูกชายเธอในครั้งนี้  โดยระบุว่า…. [ads]
advertisement
     มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ เราคลอดน้องวันที่ 19 ก.พ ออกจากโรงพยาบาล 22 ก.พ ปกติทุกอย่าง พอกลับถึงบ้าน มีญาติและผู้คนมากมาย ทั้งเป็นไข้ คนเมา และอื่นๆ ที่เราไม่รู้ มากอด สัมผัสลูกเรา เราโดนแยกให้อยู่ไฟ ลูก ญาติๆ เอามาอุ้ม มาเล่นอยู่ต่างหาก วันต่อมา 23 ก.พ ช่วงบ่ายลูกเรามีอาการไข้ขึ้นสูง 39 (เราซื้อที่วัดไข้) พร้องเสียงหายใจครืดคราด เร็วบ้าง ช้าบ้าง เรารีบนำลูกส่งโรงพยาบาลต่างอำเภอ เพราะบ้านอยู่ต่างอำเภอ โรงพยาบาลก็รีบส่งตัวลูกเราไปยังโรงพยาบาลตัวเมือง พร้อมใส่ออกซิเจน น้ำเกลือ เจาะเลือด วัดการเต้นหัวใจบอกว่าเต้นเร็วเกิน พอมาถึงตัวเมืองก็เจาะเลือดอีก เอ็กซเรย์ดู ส่งมาห้องเด็ก ก็เจาะเลือดอีก บอกลูกติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะสัมผัสคนเป็นไข้ เป็นหวัด ลูกต้องนอนฉีดยา 7 วัน วันละ 6 เข็ม วันไหนตรงเข็มที่แทงไว้ฉีดยาบวม ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ เจาะทั้งเท้า 2 ข้าง ทั้งมือ 2 ข้าง กว่าจะครบ 7 วัน ใจแม่แทบขาด น้ำนมก็ไม่มีเครียดด้วย (ดีที่มาทัน ไม่งั้นคนที่บ้านคิดว่าลูกเราเป็นไข้ธรรมดาเพราะฉีดวัคซีน)
บทเรียนราคาแพง เพราะความเห่อ *ต้องหวงลูกมาก ๆ ๆ อย่าเพิ่งให้ใครกอด อุ้ม หอม ทุกวันนี้เราไม่ไว้ใจใครค่ะ [ads]
ทั้งนี้เราจะได้ยินเรื่องราวในลักษณะนี้บ่อย ๆ ซึ่งทางที่ดีที่สุดในการป้องกัน คือ การรักษาความสะอาดของผู้มาเยี่ยมหรือผู้ที่จะสัมผัสกับเด็กทารก เพราะผิวหนังของทารกนั้นบอบบาง และไวต่อสิ่งสกปรกและเชื้อโรค หากมีผู้ป่วยที่จำเป็นต้องเข้าใกล้เด็ก ควรล้างมือทำความสะอาดให้เรียบร้อย หรือใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก แต่ทางที่ดีควรอยู่ให้ไกลจากเด็กทารกมากกว่า เพื่อความปลอดภัยของลูก ๆ หลาน ๆ
โรคที่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น แบคทีเรียนิวโมคอคคัสชนิดรุนแรงและแพร่กระจาย หรือ โรคไอพีดี โดยปกติแล้วเชื้อนิวโมคอคคัส สามารถพบได้ในโพรงจมูกและลำคอของคนทั่วไปโดยเฉพาะในเด็กเล็ก ซึ่งนอกจากอาจจะก่อโรคแก่ตัวเองได้แล้วยังอาจจะแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้อีกด้วย โดยโรคนี้สามารถแพร่กระจายถึงกันได้ เพียงแค่ ไอ จาม หรือไปสัมผัสเข้ากับสารคัดหลั่ง ทั้งนี้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี มักพบว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไอพีดีได้ง่ายกว่าในเด็กในช่วงวัยอื่น ๆ อีกด้วย
นับว่าเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์สำหรับ คนเป็นพ่อเป็นแม่ ยังไง Kaijeaaw.com ก็ขอให้น้องหายป่วยเร็วๆนะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com ขอขอบคุณที่มาจากคุณ : Yungying Naka , theasianparent.com