ผู้ชายขอพูด!! สาเหตุที่ทิ้งแฟนไปมีคนอื่นทั้งที่คบกันมานาน บอกเลยว่าอ่านแล้วเจ็บ!! เตือนสติผู้หญิงได้เลย!!
advertisement
เรื่องราวที่อยากแชร์มาให้อ่านในวันนี้ เป็นเรื่อราวประสบการณ์ของผู้ชายท่านหนึ่ง ที่แม้ว่าจะมีอายุใกล้ 30 ปีแล้วแต่ยังทิ้งแฟนที่คบมานานไปมีคนอื่นได้ ซึ่งเรื่องนี้อย่างแล้วเตือนสติผู้หญิงได้เป็นอย่างดี โดยคุณเรียกพี่ให้50เรียกที่รักให้100 สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ได้ออกมาโพสต์เล่าว่า..
เล่าให้ฟัง ผู้ชายแม้ว่าอายุจะใกล้30ก็ยังจะสามารถทิ้งแฟนที่คบมานานได้ เป็นเพราะอะไร ลองอ่านดู
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนใกล้ๆตัว ซึ่งจากที่ฟังมาระบายเหตุผลน่าจะคล้ายๆกัน เน้นก่อนว่าคนใกล้ตัวนะที่เป็นแบบนี้ ถ้ามีอะไรมาแชร์ก็แชร์ครับรออ่าน
ผู้หญิงเคยใหม อยู่ดีๆผู้ชายก็เปลียนไปจนสัมผัสได้ ไอที่บอกผู้หญิงมีเซ้นจริงๆไม่ใช่อะไรหรอก ผู้หญิงมักจะรับรู้การเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่าผู้ชายแค่นั้น วันนึงผู้ชายเปลี่ยนแปลงขนาดแค่ขยันผู้หญิงก็โดนด่า อยู่ดีๆบอกว่าทำไมอ้วน ทำไมนมเล็ก ทำไมดูคล้ำๆ ไปทำจมูกใหม
ส่วนนึงก็มาจาก " มันถูกเปรียบเทียบ "
เดือนนี้ผมได้ยินคนที่อยากจะเลิกกับแฟนมา 4 คน 4ครั้งแล้วสาเหตุคล้ายๆกันคือ " เริ่มถูกใจคนใหม่ " สมมุติผู้ชายได้เจอเพื่อนร่วมงานที่สวยและเด็กกว่าและถ้าบังเอิญว่าผู้หญิงคนนั้นเล่นด้วย ผู้ชายก็จะกลับมามองตัวเองว่า อ้วนมั้ง ดำมั้ง นมเล็กมั้ง อะไรต่อมิอะไรที่จะทำให้ใจผู้ชายกล้าที่จะทิ้งแฟนเก่า ซึ่งมันจะต่างกับผู้หญิงนะที่บางคนถึงแม้แฟนจะอ้วน ดำ ขึ้นแต่ก็ยังรักและอาจจะใช้โอกาศนี้ที่จะชวนกันไปบำรุงผิวลดน้ำหนัก หรือแม้แต่เรื่องนิสัย ผู้หญิงใหม่อาจจะยังตามใจผู้ชาย นิ่มๆหวานๆอ้อนๆ ซึ่งเป็นปกติที่ยังไม่สนิทก็จะพูดแบบนี้ แต่พอนานๆเข้าก็ชิวๆกันทุกคู่ ผู้ชายก็จะเห็นว่าผู้หญิงใหม่นี่ดีจัง อ่อนหวานนุ่มนิ่มขี้อ้อนกว่าแฟนตัวเอง
เพราะฉะนั้นถ้าวันใดวันนึงแฟนผู้ชายเริ่มตำหนิในสิ่งที่ปกติไม่เคยพูดอะไร(แต่ถ้าพูดมาก่อนแล้วนี่อาจจะกลายเป็นสุดทนแทน) หรือเริ่มพูดถึงรูปร่าง ผิวพรรณ ร่างกาย อะไรพวกนี้แสดงว่าใจเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
อันนี้ไม่ได้พูดถึงแค่มีผู้หญิงอื่นนะ ถ้าสมมุติผู้ชายได้หลงไปเที่ยวผู้หญิงหรือร้านเหล้าที่มีผู้หญิงมานั้นดริ้ง การถูกเปรียบเทียบมันก็เกิดไปเช่นกันแบบเพื่อนผมคนนึง สเป็คจะคล้ายๆผมคือ ชอบผู้หญิงผิวแทนๆไทยๆตัวสูงผอมอะไรแบบนี้ หลังๆพอมันขยับเข้ามาทำงานในเรื่องการเลี้ยงลูกค้าด้วย(พาลูกค้าเที่ยวหลังปิดงาน) มันพาไปอาบอบนวดไปนั้งกินข้าวกับสาวนั้งดริ้งสวยๆ ขาวๆอึ๋มๆตามเทรน สุดท้ายมันก็มีแฟนใหม่ทิ้งแฟนที่คบมา 6 ปี ไปจีบผู้หญิงขาวๆหมวยๆแทนแฟนเก่าก็มี
หลายคนอ่านมาถึงตอนนี้คงถาม จะให้ทำไงละ ดูไลน์ ดูเฟซ ? ผมบอกเลยว่าไม่มีประโยชน์ไม่ต้องไปเช็คให้ทะเลาะกันหรอก ไม่ต้องไปห้ามนั้นห้ามนี้ด้วยเพราะถ้าใจคนมันไปยังไงมันก็ต้องหาทางคุยกันเองได้นั้นละ ทางที่ดีควรทำตัวให้แฟนตัวเองเสียดายมากกว่า และถ้าเกิดจับได้อย่าไปคืนดีง่ายๆให้เขาพิสูจน์ตัวเองมากๆ หลายคนบอกว่าเพราะรักไง มันก็ยากนะ แต่คิดไกลๆ
ถ้าแฟนกล้าที่จะนอกใจครั้งแรกได้ซึ่งผมมองว่ามันยากมากที่สุดครั้งต่อไปเขาจะนอกใจคงไม่ได้ยากแบบเดิมแล้ว [ads]
ถ้าตัดได้ควรตัดหรือให้พิสูจน์มากๆ อย่าไปยอมง่ายๆเพราะผู้ชายถ้าไม่จริงจัง2-3เดือนเขาก็ไม่อยู่แล้วแต่ก็อย่าไปยอมเพราะกลัวจะเสียเขา เพราะถ้าเรายอมคุณค่าเราจะลดลงในสายตาเขาแล้วมันก็อาจจะวนกลับเข้าแบบเดิมอยู่ดีนั้นละ
ทุกวันนี้ผมเองก็ไม่ได้สำเร็จเรื่องความรักอะไรแต่ยังไงผมก็ยังชอบเหมือนๆเดิม คือสาวไทยผิวแทนตัวสูง เมื่อก่อนตัวเองนึกว่าชอบขาวๆหมวยๆเหมือนคนอื่นแต่พอเอาเข้าจริงทุกครั้งที่เจอสาวผิวแทนผิวสวยๆก็มองมากกว่าอยู่ดี หรืออาจจะชินกับพวกขาวๆหมวยๆละมั้งเพราะที่ทำงานมีแนวนี้เยอะกว่า ผมไม่เคยเปลี่ยนตามเทรนใดๆ 555
advertisement
ภาค 2 จะเล่าให้ฟังเรื่องทำไมผู้ชายถึงเลิกกับเราได้แม้ไม่มีผู้หญิงมาเกี่ยวข้อง ก็ยังบอกแบบเดิมว่ามันมาจากเรื่องที่เจอจากคนใกล้ๆตัว อาจจะไม่ใช่ส่วนใหญ่ แชร์ประสบการณ์กันได้เหมือนเดิม อยากอ่านช่วงนี้งานไม่เยอะสบายๆ
ผู้หญิงพอคบแฟนมาระยะนึงก็คิดว่าจะอยากสร้างครอบครัวแต่พอคุยกับผู้ชายทีไรก็เฉยทุกทีให้ความมั่นใจอะไรไม่ได้ จะจดทะเบียนก็ไม่ จะจัดงานแต่งก็เงียบอีก มันเกิดอะไรขึ้น ?
ที่ผมได้รับรู้สาเหตุมาจากรอบๆตัวนี้มี 3 ข้อ แบบนี้ครับ
1. ผู้หญิงคาดหวังว่าผู้ชายจะเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ ก็พยายามจะให้ผู้ชายเก็บเงินบ้าง พยายามให้ผู้ชายดูคอนโดหรือบ้านอะไรก็ว่าไป แต่ผู้ชายไม่อาจจะทำอย่างที่ผู้หญิงคิดได้อาจจะเรื่องเงินเก็บไม่พอ รายจ่ายเยอะนั้นนี้อะไรก็แล้วแต่ จนเกิดความกดดัน พอผู้หญิงพูดเยอะขึ้นเรื่อยๆ ผู้ชายก็จะมองว่าผู้หญิงน่ารำคาญจัง ตรงนี้ละเขาจะเริ่มเบื่อและอาจจะทะเลาะกันจนเลิกได้ สุดท้ายก็จะโดนมองว่าผู้ชายไม่มีอนาคตซะเอง ( แต่จริงๆซ้ำร้ายก็อาจจะมองหาผู้หญิงใหม่เลย เอาที่เด็กกว่าจะได้ไม่รีบกดดันเรื่องครอบครัว)
2.กดดันเรื่องงานแต่งงาน สินสอดและเรื่องเงินเก็บ บางคู่ที่ผมได้พบเจอหลายคู่เกือบไม่ได้แต่งเพราะว่าคุยเรื่องเงินและสินสอดไม่ลงตัว บางคนรู้ว่าแฟนหาเงินได้เท่าไรมีเงินเก็บเท่าไรแต่พอจะแต่งงานดันต้องการให้ผู้ชายจ่ายอย่างมากจนเรียกว่าจะหมดตัวกันเลยทีเดียว (อันนี้ไม่นับเรื่องคืนหรือเพิ่มให้อีกนะ) ถ้าบางคนตกลงกันได้ก็จบตกลงไม่ได้ก็จบกันมาเยอะแล้ว
3.ผู้หญิงเกิดกลัวการแต่งงาน อันนี้มาจากฝั่งผู้หญิงครับ อันนี้เห็นกับคนที่ออฟฟิสเลย กำหนดแต่งงาน 1 ปีข้างหน้า ผู้ชายแสนดีนะไม่มีอะไรเลย เป็นนักบัญชี อยู่ดีๆปีก่อนแต่งงานมีงานออกไปออดิทเยอะ(ออกไปตรวจนอกออฟฟิส) แฟนรู้สึกระแวงว่าทำไมออกบ่อยจัง ก็เริ่มบ่นๆเคืองๆ พอเห็นไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานสาวๆก็รู้สึกสงสัย ก็ถามมาก เริ่มจู้จี้ สุดท้ายทะเลาะกันมาก เลื่อนการแต่งงานไปจนทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้แต่ง
ใครมีสาเหตุอะไรมากกว่านี้แชร์ให้อ่านด้วยนะครับช่วงนี้งานไม่ยุ่งอยากอ่าน
advertisement
มีภาค3นะครับแต่ยังนั้งนึกๆอยู่ว่าจะเล่ายังไงเรื่องการเที่ยวของผู้ชายซึ่งเป็นประเด็นทำให้เลิกกันได้ง่ายมากๆ รองจากนิสัยจู้จี้ของผู้หญิงเลย ผู้หญิงจะได้ตามทัน จะได้ระวังตัวกันไว้ผมก็ยังเน้นนะครับว่าเล่าในมุมผู้ชายที่ไปเจอมาให้ผู้หญิงฟัง
ภาค3ก็ยังย้ำว่าเป็นสิ่งที่ผมเจอมากับตัวและเป็นมุมมองฝ่ายเดียว
ภาคสุดท้ายจะเล่าให้ฟังเรื่องปัญหาที่ผู้ชายผู้หญิงแทบทุกอายุมีปัญหาคือเรื่องเที่ยวสถานที่มีผู้หญิงเกี่ยวข้อง และบางทีก็เป็นปัญหาของผู้ชายเช่นกัน
ผู้หญิงหลายคนมุ่งไปแค่อาบอบนวดจะคอยจับผิดอาบอบนวดมันไม่ใช่แล้วครับยุคนี้แม้แต่บอกไปกินเหล้ากับเพื่อนผู้ชายก็มีปัญหาได้ ผมขอแบ่ง2เคส
1. เพื่อนของเพื่อนแนะนำเป็นเพื่อนแต่ไปกินกันเฉยเลย(ได้ทั้งชายและหญิง)
ที่รักวันนี้เราไปกินเหล้ากับเพื่อนนะ ผู้ชายล้วนๆ แต่เพื่อนแท็กมา เฮ้ยยย ทำไมมีผู้หญิงในโต้ะด้วย ?? อยู่ดีๆทะเลาะกันผู้ชายก็หายไปเลย ไม่คุยไม่ตอบไลน์ ขอเลิกขออยู่คนเดียวแปปเดียวเท่านั้นละ ควงคนใหมแล้ว เคยเจอแบบนี้ใหม ??(แต่อาจจะไม่ใช่เคสเดียวกัน) ที่ผมจะเล่าเป็นเรื่องของคนรู้จักเลยละ ผู้ชายเป็นแฟนผู้หญิงนิสัยก็ไม่ได้เจ้าชู้และเอาใจใส่ดีนะ ปกติเดือนละ1-2ครั้งก็จะไปมิตติ้งกับเพื่อนบ้าน ส่วนมากผู้ชายล้วนๆ วันนึงเพื่อนก็บังเอิญเจอเพื่อนผู้หญิงที่ร้านเลยชวนมานั้งกินด้วยกัน เพื่อนก็เลยแนะนำให้รู้จักกัน ก็นัดกินเหล้ากันเป็นกลุ่มๆอีกหลายครั้ง เขาก็คุยไลน์กลุ่มกันอยู่บ่อยครั้ง สุดท้ายวันนึงผู้ชายทะเลาะกับแฟนด้วยเรื่องรถ(ผู้ชายจะซื้อมือ2ไว้พาพ่อแม่ไปโรงพยาบาลแต่ผู้หญิงบอกไม่อยากให้ซื้อมือ2เหมือนว่าอายถ้าจะต้องมานั้งมือ2เพราะเพื่อนผู้หญิงแฟนมือ1ใหม่ๆอะไรแบบนี้) ผู้ชายรุ้สึกฟิวขาดเพราะว่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวเกินไป ก็เลยออกมานั้งกินข้าวข้างนอก อยากปรึกษาก็เลยชวนเพื่อนมา ผู้หญิงคนนั้นมา ผู้ชายอีกคนจะมาแต่ติดงาน เลยได้คุยกัน คุยกันสนิทใจมากขึ้น จนพัฒนาไปเรื่อยๆแบบแค่เพื่อน แต่สุดท้ายผู้ชายซื้อมือสองเพราะต้องใช้ส่งพ่อแม่ป่วย ผู้หญิงรู้ก็ทะเลาะกับแฟนหนักๆ สุดท้ายก็เลิกกัน จากเพื่อนก็เปลี่ยนเป็นกิ้กและเป็นแฟนในที่สุด ทุกวันนี้ยังด่าผู้ชายอยู่เลยว่ามีกิ้กตัวเองถูกไม่ได้ทำไรผิด [ads]
2. ติดพริตตี้ (ติดแบบสานสัมพันธ์หรือไม่สานสัมพันธ์ก็ได้)
แฟนมีกิ้กเฉยเลยทั้งๆที่อยู่ด้วยกันหรือคุยด้วยกันทุกวัน ทำได้ไง? หลายคนเล็งไปแต่อาบอบนวดจะเล็งจับผิดผู้ชายด้วยจุดเดียวจริงๆไม่ได้แล้ว สมัยนี้ถ้าผู้ชายมันไม่รุ้จักพอหรือประสบปัญหาทะเลาะต้องการคนคุยด้วยเพราะผิดใจกับแฟน(แนวๆข้อ1) มันสามารถได้ทุกที่แม้แต่ร้านนวดสปาเท้าซะด้วยซ้ำไป สมัยนี้เล็งแต่อาบอบนวดไม่ได้ ร้านนวดมีพริตตี้ก็ใกล้เคียงกันเรทถูกกว่าสามารถเที่ยวได้ในเวลา20-30นาทีด้วยซ้ำ หรือพวกนั้งคุยแบบร้านเหล้ามีเด็กนั้งดริ้ง มีพริตตี้ ก็เป็นปัญหาได้ทั้งงั้นมีการปันใจได้ทั้งงั้นแล้วเรื่องนอกกายละ ? นอกกายไม่จำเป็นต้องไปถึงแหล่งด้วยซ้ำมีบริการส่งถึงที่แล้วก็มีเดี่ยวนี้แบบที่เป็นข่าวโดนจับกันเยอะแยะอยู่แล้ว
เราจะรู้ได้ไงละว่าผู้ชายที่เราคุยอยู่เป็นคนยังไง
ผู้ชายที่ชอบเที่ยวและมีเพื่อนชอบเที่ยว 100% มักจะมีรูปเก็บไว้และคุยโม้กับเพื่อนในกลุ่มที่ชอบเหมือนกัน เผลอๆบางครั้งอาจจะมีคลิบที่ตัวเองไปเที่ยวมาเก็บไว้ด้วยซ้ำไม่ว่าจะเป็นเด็กนั้งดริ้งร้านเหล้าหรือร้ายสุดก็พริตตี้ร้านนวด ถ้าเรารู้สึกผิดปกติกับแฟนของเรา หายไปตอนค่ำๆบ่อย บ่ายๆ(พริตตี้นวดบ่ายๆก็เที่ยวได้)หรือไปกินเหล้ากับเพื่อนบ่อยครั้งเกินไปไม่ปกติ บางทีอาจจะไปติดใจพริตตี้แล้วหรือไม่ติดพริตตี้ก็หนีเที่ยวอย่างอื่น ต้องลองค้นหาภาพดู ถ้าค้นอะไรไม่ได้เลยแต่อยู่ดีๆเกิดการเปรียบเทียบแบบที่พูดเคยไว้ในภาค 1 ก็สังหรณ์ใจไว้ได้เลยว่าใช่แน่ ผู้ชายเที่ยวพวกนี้ไม่จำเป็นนะว่าจะนิสัยไม่ดี นิสัยที่ดีกับครอบครัวเขาก็เที่ยวกันเยอะต่อให้มีลูกก็เที่ยวแต่มันจะมีผลต่อเมื่อแฟนหรือครอบครัวที่มีอยู่มีปัญหาขึ้นมานั้นละที่เขาอาจจะปันใจไปทางอื่น ได้เลยไม่แปลกที่ 50 60 ก็ยังเลิกกับเมียเพราะไปติดหมอนวดได้ ถ้าคนชอบเที่ยวยังไงก็เลิกยากแต่อาจจะแค่เบาลง (ทุกๆวันนี้แอบเม้าเลยเพื่อนร่วมงานคนละแผนก ตอนนี้วันที่เขียน 17.00 พากันไปเที่ยวหมอนวดแล้วครับ แล้วรีบกลับบ้านหาครอบครัวก่อนทุ่มไม่ให้สงสัย ทุกวันนี้ยังจับกันไม่ได้เลย)
นี่ยังไม่รวมในแอฟในเฟซนะครับเพราะอันนี้หลายคนน่าจะทันอยู่แล้ว และไม่รวมกิ้กที่ทำงานในภาค1ที่เขียนไปแล้ว ยังไงผมก็คิดแบบเดิม สมัยนี้ถ้าไม่ทำตัวแปลกจริงไม่ต้องไปเช็คไลน์ เฟซหรือต้องให้รายงานให้วุ่นวาย ไม่ต้องไปทำให้ทะเลาะกัน เพราะมันมีวิธีมากมายที่จะนอกใจได้ถ้าคนจะทำไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเป็นผมคงบอกว่าทำตัวเองให้เขาเสียดาย ไม่ต้องไปตามง้อตามหึงหวงเช็คอะไรให้เหนื่อยเลยคนจะไปมันก็ไป เอาเวลาไปนั้งคุยกัน นั้งปรับจูนกันจะดีกว่ามันจะได้ไม่มีปัญหา มันง่ายกว่าที่จะมาตามจิกตามง้อแฟนตัวเองที่เวลาเขาหมดรักไปแล้วอะครับ
เรื่องที่เขียนก็ยังย้ำว่ามันเป็นมุมมองที่เห็นจากผู้ชายคนเดียว ถ้ามีอะไรแชร์ก็แชร์แบ่งๆกันอ่านครับเพื่อจะเป็นประโยชน์ในอนาคต อยากอ่านช่วงนี้ว่างๆ
ขอขอบคุณที่มาจาก : เรียกพี่ให้50เรียกที่รักให้100