จัดงานแต่งสุดเรียบง่าย มีแขกร่วมงานเพียงคนเดียว
advertisement
คุณ Saa Tom ได้ออกมาโพสต์แชร์ภาพงานแต่งงานที่จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวอย่างน่าประทับใจ ที่อ่านแล้ว เข้าถึงได้ทุกถ้อยคำ โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า
advertisement
นุ่งซิ่นเข้าพิธีบายศรีสู่ขวัญ หลังจากใส่บาตรเช้า ถวายหลวงพ่อ สุรพล เป็นที่เรียบร้อย เราสองคน ก็เดินขึ้นไปบนบ้าน บ้านไม้เก่าหลังงามที่ครูพี่เข้มตั้งใจสร้างให้เจ้าสาว เพื่อเอาไว้เป็นเรือนหอ รอวันแต่งงาน ครูพี่เข้ม เจ้าบ่าวชาวเหนือ โดยกำเนิด จากบรรพบุรุษ
เป็นคนเดินนำหน้า พามุ่งไปที่ระเบียงบนชั้น2 ของบ้านไม้ ที่เราตั้งใจจัดให้เป็นบริเวณพื้นที่ของพิธีแต่งงาน จากนั้นก็เข้าไปนั่งบนเก้าอี้นักเรียน ซึ่งเราสองคนชื่นชอบในของเก่าและได้มาเก็บรักษาไว้ จึงเลือกหยิบมาจัดแต่งในพิธี
จัดประดับดอกไม้ช่อเล็กๆ ไว้ตรงพนักเก้าอี้ที่หุ้มด้วยผ้าขาวสะอาดตา ตรงข้างหน้า มีโต๊ะนักเรียนตัวยาวสองช่องแบบนั่งได้สองคน บนโต๊ะมีช่อกุหลาบสีขาวแบบที่เจ้าสาวชอบวางอยู่
advertisement
สองช่อด้วยกัน ด้านข้างของโต๊ะ มีพานบายศรี บรรจุสิ่งของอันเป็นมงคลครบถ้วน ประกอบไปด้วย ดอกไม้ ไข่ต้ม ขนม กล้วย อ้อย ปั้นข้าวเหนียว เงินและมีดด้ามแก้ว ส่วนชั้นบนของบายศรีขึ้นไปจะประดับไปด้วยดอกไม้มงคลอย่างสวยงาม ส่วนในชั้นบนสุด จะมีบายศรี ด้ายผูกข้อมือ และเทียนขี้ผึ้งสำหรับไว้เวียนรอบหัวบ่าวสาว
พิธีบายศรีสู่ขวัญ เป็นพิธีการมงคลของภาคเหนือและภาคอีสาน ตามความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาพร้อมขวัญที่คอยดูแลรักษา ติดตามเจ้าของให้สุขกายสบายใจเป็นปกติ ซึ่งพิธีบายศรีสู่ขวัญนี้ ชาวไทยมีความเชื่อว่าเป็นพิธีกรรมที่จะช่วยส่งเสริมพลังใจให้เข้มแข็ง
และชาวล้านนา หรือคนเมือง มีความเชื่อว่า คนเรามีขวัญอยู่ 32 ขวัญ อยู่ประจำตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อปกปักรักษาผู้เป็นเจ้าของขวัญให้มีความสุข ความเจริญ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย แต่ถ้าขวัญออกจากร่างกาย จะมีผลทำให้ผู้นั้นเจ็บป่วย มีความทุกข์หรือเกิดเรื่องร้ายต่างๆ
advertisement
และเพื่อให้ขวัญอยู่ประจำที่เดิม จึงจำเป็นต้องจัดพิธีเรียกขวัญหรือผูกข้อไม้ข้อมือ บรรยากาศยามสายของวันนั้น เต็มไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้รอบตัวจากพานบายศรีและจากพื้นที่ทำพิธี ลอยหอมอบอวลให้เราได้สูดดมอย่างเต็มที่ เหลียวมองไปที่ด้านหลัง เห็นพวงดอกไม้สีขาวที่ห้อยไว้เป็นสาย พลิ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดมาจากทุ่งนาตรงหน้าบ้าน เป็นวันเริ่มต้นด้วยอากาศที่สดชื่นดีเหลือเกิน เพราะอยู่ในช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาว จากระเบียงบ้าน ที่เราสองคนนั่งทำพิธี มองเห็นทุ่งนาข้าว จากสีเขียวบางส่วนเริ่มเป็นสีทองเหลืองอร่าม กลายเป็นฉากหลัง ให้ตรงบริเวณที่อยากจะเรียกว่า ตรงนี้ เป็นเช่นตั่ง ที่ใช้เพื่อประกอบในพิธีแต่งงานของเรา บนเก้าอี้และโต๊ะที่ครั้งหนึ่ง
เคยเป็นที่นั่งของนักเรียน เหมือนชีวิตในวัยเยาว์ที่เป็นวันวาน ของเราสองคน ท่านอาจารย์สนั่น ธรรมธิ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาและวรรณกรรมล้านนาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ท่านให้เกียรติมาประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญให้เราสองคนในเช้าวันนั้น [ads]
เสียงขับขานเป็นภาษาล้านนา ที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยถ้อยความ ที่แว่วหวานด้วยท่วงทำนอง เสียงดังก้องมาตลอดพิธี เราต่างก็นั่งนิ่งฟังด้วยใจที่ยินดีในวันอันเป็นมงคล ตามที่ครูพี่เข้มร้องขอ ให้จัดพิธีในแบบล้านนา และร้องขอว่า ให้จัดประกอบอย่างเรียบง่ายที่สุด ให้เจ้าสาวมองอย่างทึ่งในใจ เพราะตรงบริเวณนี้ ครูพี่เข้มเป็นคนจัดวาง จัดดอกไม้ จัดเองทุกสิ่งอย่าง ยกเว้น พานบายศรี ที่มีคุณน้าท่านหนึ่งซึ่งมีชีวิตที่ดีงาม ชาวอำเภอแม่ริมเป็นคนมาช่วยจัดการทำให้
advertisement
ทุกสิ่งเกิดขึ้นให้เกิดความยินดี ดีใจในวันสำคัญ ที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะมีวันแบบนี้ แต่ในใจที่ยินดี ก็อดที่จะรู้สึกคิดถึงพ่อกับแม่ไม่ได้ บางขณะก็ต้องก้มหน้านิ่ง ไปกับน้ำตาที่เริ่มไหล ในความรู้สึก เป็นความคิดถึงที่อยากให้พ่อกับแม่ได้อยู่ด้วย อยากให้มาอยู่ด้วยในพิธีแต่งงานของลูก กระทั่งพิธีการบายศรีสู่ขวัญแบบล้านนา ดำเนินมาถึงช่วงท้าย คำร้องกล่าวเป็นภาษาคำเมืองได้จบไปแล้ว อาจารย์สนั่นผู้ประกอบพิธี ท่านบอกให้ครูพี่เข้มลุกขึ้นมาสลับที่นั่งกับเจ้าสาว
จากที่นั่งอยู่ทางด้านขวามือก็เปลี่ยนมานั่งที่ด้านซ้าย เจ้าสาวไม่ได้ถามอาจารย์ว่าทำไม หลังจากนั้น อาจารย์ได้หยิบถ้วยที่ใส่ข้าวเหนียวไข่ต้มและกล้วยหอมจากพานบายศรียกมาใส่ในมือของเราสองคนที่จับประคองกันอยู่ ท่านบอกให้เจ้าสาวใช้มือจับประคองใต้หลังมือของครูพี่เข้มที่ยกถ้วยอาหารไว้ด้วย พร้อมกับอีกมือที่คอยประคองข้อมือของตัวเองอีกที ความนุ่มละมุนในพิธีช่วงนี้ และคำตอบเรื่องการสลับที่นั่งช่วยสอนช่วยบอกให้เจ้าสาวรู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต ไม่ว่าวันนั้นเราจะอิ่มจะอดยังไง จะสุขจะทุกข์แค่ไหน เราก็จะอยู่ด้วยกัน คอยจับประคองกันไว้ ไม่หลีกลี้หนีหายหน้าไป เรา…ต่างสบตาเพื่อบอกความรู้สึกนี้ให้แก่กัน. #saatom
advertisement
ต้องบอกเลยว่าเป็นพิธีการที่เรียบง่าย แต่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและมีความสุขอย่างมาก เข้ากับชีวิตในยุคนี้จริงๆ ยังไงก็ขอให้ทั้งคู่มีความสุข และครองรักกันไปนานๆเลยนะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก : Saa Tom