ปวดหัวอย่านิ่งนอนใจ ปวดหัวแบบไหนต้องไปพบแพทย์
advertisement
ใครที่ชอบมีอาการปวดหัว แล้วคิดว่าไม่เป็นอันตราย แล้วมักจะหยิบยาพารามากินเพื่อบรรเทาอาการปวด อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ เพราะหากปวดหัวแล้วทิ้งไว้อาจจะเกิดโรคใหม่ได้ โดยวันนี้เราจะพามาเช็กกันว่าอาการปวดหัวมีแบบไหนบ้าง
ปวดศีรษะไมเกรน (Migraine)
advertisement
อาการปวดศีรษะตุบๆ บริเวณข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ มักปวดนานเป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน สู้แสงหรือเสียงไม่ได้ร่วมด้วย บางรายอาจมีอาการนำก่อนอาการปวดหัว โดยมักเห็นเป็นแสงวูบวาบ หรือมองเห็นภาพไม่ชัด [ads]
ปวดศีรษะชนิดกล้ามเนื้อตึงตัว (Tension)
advertisement
อาการปวดศีรษะมีลักษณะเหมือนถูกกด บีบ หรือรัดที่ศีรษะทั้งสองข้าง มักมีอาการเริ่มที่ท้ายทอย ร้าวไปขมับทั้งสองข้าง แล้วจึงปวดร้าวทั้งศีรษะ อาจจะมีอาการกดเจ็บที่หนังศีรษะร่วมด้วย มักมีอาการปวดตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป โดยมักพบในผู้ที่มีอาการเครียด โกรธ หรือเหนื่อย
ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ (Cluster)
advertisement
มีอาการปวดศีรษะรุนแรงที่บริเวณรอบตา เบ้าตา หรือขมับข้างเดียวเท่านั้น รู้สึกร้อนแปล๊บๆ ที่หน้าผาก โดยมักมีอาการร่วมอื่นด้วยเสมอ เช่น น้ำตาไหล ตาข้างที่ปวดจะแดง คัดจมูก หูอื้อ หนังตาตกเนื่องจากความผิดปกติของสมอง ผู้ป่วยจะอาการปวดศีรษะเป็นชุดๆ อาจมีอาการหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์
ปวดศีรษะแบบไซนัส (SINUS)
advertisement
ปวดศีรษะเนื่องจากโพรงจมูกติดเชื้อ มีอาการปวดแบบหน่วงๆ บริเวณหน้าผาก หัวตา โหนกแก้ม และรอบกระบอกตา เนื่องจากโพรงจมูกติดเชื้อและน้ำมูกไหลออกมาไม่ได้ บางรายมีอาการปวดเมื่อก้มศีรษะหรือเปลี่ยนท่า
หากคุณมีอาการปวดหัวบ่อยๆ หรืออาการปวดที่ไม่ควรมองข้าม อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศูนย์หลอดเลือดสมองและระบบประสาททันที เพราะอาการปวดหัวดังกล่าว อาจเป็นสัญญาณเตือนจากโรคร้าย!
ขอขอบคุณที่มาจาก : sikarin.com